ความงามในยุคเก่า

ความงามในยุคเก่า

การรัดเท้าให้เล็กอย่างที่เรียกว่าเป็น “บัวทอง 3 นิ้ว” 三寸金莲 เป็นทัศนะความงามยุคเก่าของจีน ความคิดแบบนี้ค่อยๆ อ่อนพลังลงในปลายยุคสมบูรณาญาสิทธิราชย์ จนมาถึงโลกยุคปัจจุบันน่าจะไม่เหลือผู้หญิงที่รัดเท้า
อีกแล้วกระมัง …

 ในสังคมจีน ช่วงรอยต่อคริสตศักราช 1800 - 1900 สิ่งใหม่ๆ กำลังเข้ามาแสดงตัวให้ปรากฏ แม้ว่าระบบกษัตริย์จะยังครองอำนาจอยู่ แต่นักเรียนทุนหลวงรุ่นแรกของจีนก็ถูกส่งออกไปศึกษาต่อยังประเทศสหรัฐอเมริการะหว่างปี 1872 - 1875 นอกจากไปศึกษาหาความรู้จากประเทศทางตะวันตกแล้ว นักเรียนนอกรุ่นแรกๆ ของจีนจำนวนหนึ่งนิยมไปเรียนวิชาความรู้ที่ประเทศญี่ปุ่น ในจำนวนนี้มีชื่ออยู่ 2 ชื่อซึ่งเป็นที่รู้จักในวงกว้าง คนหนึ่งคือหลู่ซวิ่น 鲁迅 ซึ่งต่อมาได้กลายเป็นนักเขียนคนสำคัญที่สุดในประวัติศาสตร์วรรณกรรมสมัยใหม่ของจีน อีกคนหนึ่งชื่อชิวจิ่น 秋瑾 เป็นสตรี 

ความงามในยุคเก่า
ความงามในยุคเก่า

หลู่ซวิ่น ไปเป็นนักเรียนแพทย์ แต่ก็ละทิ้งวิชาแพทย์ เปลี่ยนความคิดจากการตั้งใจจะรักษาสุขภาพกายของชาวจีนมาเยียวยารักษาความคิดและจิตวิญญาณของชาวจีนด้วยการเป็นนักเขียน ด้วยความมุ่งมั่นตั้งใจนี้เอง หลู่ซวิ่นได้สร้างผลงานวรรณกรรมอันยิ่งใหญ่ข้ามยุคข้ามสมัยเรื่อง “ประวัติจริงของอา Q” 阿Q正传 และ “บันทึกประจำวันของคนบ้า” 狂人日记

ทั้งสองเรื่องนี้เป็นวรรณกรรมที่เขียนวิพากษ์วิจารณ์ลักษณะนิสัยของคนจีน ใช้ภาษาจีนแบบใหม่ (ไป๋ฮว่าเหวิน 白话文) อันเป็นแนวคิดวิธีเขียนภาษาจีนด้วยรูปแบบใหม่
ซึ่งขับเคลื่อนไปในวงกว้างจากขบวนการเคลื่อนไหว 4 พฤษภาคม 1919 

ความงามในยุคเก่า
ความงามในยุคเก่า

ส่วนชิวจิ่น 秋瑾 เป็นผู้หญิงหัวใหม่ที่ไปเรียนด้านพละศึกษาจากประเทศญี่ปุ่น เธอมีบทบาทอย่างยิ่งในการผลักดันให้เกิดโรงเรียนสำหรับสตรี สิ่งที่ชิวจิ่นทำจึงเป็นความคิดขบถที่ปะทะกับความคิดเก่าของสังคมเป็นอย่างยิ่ง

ไม่เพียงจะผลักดันให้สตรีได้มีส่วนร่วมด้านการศึกษาและการกีฬา ชิวจิ่นยังเข้าร่วมในขบวนการปฏิวัติประชาธิปไตยที่ ดร.ซุนยัตเซนกำลังขับเคลื่อนอยู่ด้วย น่าเสียดายที่เธอล้มเหลวในการก่อการ ถูกจับกุมและถูกประหารชีวิตในเวลาอันรวดเร็ว ชิวจิ่นถือเป็นนักโทษการเมืองสตรีคนแรกๆ ของประวัติศาสตร์ยุคใกล้ของจีน

อุดมคติความงามของสตรีจีนแบบเก่านั้นมีลักษณะค่อนไปทาง หลินไต้อวี้ 林黛玉 จากวรรณกรรมเรื่อง “ความฝันในหอแดง” 红楼梦 ของ ฉาวเสวี่ยฉิน 曹雪芹 ซึ่งมีลักษณะหม่นหมอง เนิบนาบ และออกจะอ่อนแอขี้โรค ขี้กังวล ทัศนคติเช่นนี้เริ่มปะทะเข้ากับความคิดแบบยุคสมัยใหม่มากขึ้นเรื่อยๆ การจำเป็นต้องสัมพันธ์กับต่างชาติอย่างใกล้ชิดในช่วงปลายสมัยราชวงศ์ชิง 清朝 ทำให้เกิดความ

จำเป็นใหม่ๆ และสิ่งเปรียบเทียบเชิงประจักษ์ไม่น้อย พิจารณาปีของยุคสมัย จะพบว่าช่วงเวลานั้นผู้หญิงจีนเป็นจำนวนมากยังตกอยู่ในวัฒนธรรมการรัดเท้า เรื่องเล่าเกี่ยวกับความยากลำบากในยามหนีสงครามโลกครั้งที่ 1 ช่วงปี 1914 - 1918 และ สงครามโลกครั้งที่ 2 ช่วงปี 1939 - 1945 มีเอกสารบันทึกมากมาย 

ความงามในยุคเก่า
ความงามในยุคเก่า

ในวันเวลาของชิวจิ่น การกีฬาสมัยใหม่เป็นสิ่งแปลกหน้าของสังคมจีน ข้อมูลนี้ยืนยันได้จากการที่ประเทศจีนปฏิเสธคำเชิญชวนให้เข้าร่วมการแข่งขันกีฬาโอลิมปิคโดยบาลอน ปิแอร์ ดูเบอร์แตง ช่วงปีใดปีหนึ่งระหว่างปี 1892 - 1896 การตั้งโรงเรียนสตรี และการสนับสนุนให้สตรีจีนเล่นกีฬานั้น ไม่ได้เป็นเพียงทัศนคติเรื่องสุขภาพอนามัย หากแต่ยังเป็นแนวความคิดปฏิวัติที่จะเตรียมประชาชนยุคใหม่ให้เป็นคนที่คึกคัก แจ่มใส มีความกระตือรือร้นในการเปลี่ยนผ่านสู่สังคมใหม่ เพื่อเป็นประชาชนแบบใหม่ของประเทศชาติ 

การกีฬาแบบใหม่แพร่หลายออกมาในวงกว้าง จนถึงเดือนพฤษภาคม ปี 1905 ก็มีการจัดการแข่งขันกีฬาของมหาวิทยาลัยขึ้นเป็นครั้งแรก

ปลายราชวงศ์ชิงต้นยุคประชาธิปไตย สังคมจีนกำลังขับเคลื่อนไปสู่ความเป็นสมัยใหม่ในทุกด้าน โรงงิ้วแบบเก่ากำลังถูกโรงภาพยนตร์เข้ามาแข่งขัน การบันเทิงแบบเก่ากำลังถูกเปรียบเทียบกับการบันเทิงแบบใหม่ อาคารใหม่ๆ ธุรกิจใหม่ๆ ความคิดและความนิยมแบบใหม่ สิ่งเหล่านี้กำลังพิสูจน์ตัวเองอยู่ในสังคมที่สืบทอดจารีตมายาวนานหลายพันปี ในการปะทะสังสรรค์กันนี้ ทั้งสิ่งเก่าและสิ่งใหม่ล้วนแต่มีบางส่วนที่ดำรงอยู่และบางส่วนที่หายไป

สตรีที่รัดเท้าด้วยความเชื่อความงามแบบ “บัวทอง 3 นิ้ว” ประสบชะตากรรมอันยากลำบากมากมายในสังคมระส่ำระสายในยุคสงคราม ไม่ว่าพวกเธอจะรู้สึกอย่างไรหรือคิดอย่างไรกับความเชื่อของตน ในที่สุดยุคสมัยก็นำพารองเท้าแบบใหม่ใหม่ที่ถูกสุขอนามัยกว่า ใส่สบายกว่า และงดงามกว่าผ่านมา 

แม้ว่าช่วงเวลาหนึ่งคนจะมองว่าเท้าที่ถูกรัดไว้แบบ “บัวทอง 3 นิ้ว” นั้นสวย แต่การสลัดทิ้งสายรัดเท้าเพื่อให้เท้าของตนได้เติบโตแข็งแรง ย่อมเป็นเรื่องที่ถูกต้องตามธรรมชาติ สบาย ทำให้ก้าวเดินได้คล่องตัว และมั่นคงแข็งแรง อีกทั้งถูกสุขอนามัยมากกว่า 

 

ผู้หญิงจีนเป็นจำนวนมากยังตกอยู่ในวัฒนธรรมการรัดเท้า