ผมเป็นนักเก็งกำไรหุ้น  โดยปัจจัยพื้นฐาน

ผมเป็นนักเก็งกำไรหุ้น โดยปัจจัยพื้นฐาน

กว่าสิบปีที่คลุกคลีในวงการหุ้น ทั้งในฐานะผู้เล่น ผู้ให้ความรู้ และเป็นศูนย์รวมนักลงทุนรายย่อย ได้พบปะนักลงทุนมากหน้าหลายตา ทั้งมือใหม่ป้ายแดง และทั้งจอมยุทธ์อาวุโส

ความคึกคักในช่วงตลาดฯ ขาขึ้น และความซึมๆ แบบไร้อารมณ์ในช่วงตลาดฯ ขาลง มีให้เห็นรอบแล้วรอบเล่า เรื่องราวรายละเอียดอาจจะแตกต่าง แต่อารมณ์รวมๆ คล้ายๆ เหมือนก็อปกันมา 

เวลามีคนแปลกหน้าเข้าวงแล้วคุยคึกคัก และอิ่มอกอิ่มใจกับกำไรในหุ้นในช่วงสั้นๆ คุยแบบไม่เห็นความยากของการลงทุนหุ้น เราก็จะยิ้มๆ และนึกเรื่องราวที่จะเกิดต่อไปได้ บางอย่างที่พอจะอธิบายได้ก็จะพยายามให้เห็นภาพกัน แต่เชื่อหรือไม่ว่า ช่วงเวลาอย่างนั้น การพยายามอธิบายดูจะยากและเสียงเบากว่าความคึกคักเหล่านั้นเสียอีก หุ้นยิ่งระยะสั้นยิ่งเข้าสู่ความเป็น Zero - Sum Game หรือที่คนวงนอกมองๆ ว่าคล้ายการพนันนั่นแหละ ทั้งๆ ที่ในความเป็นจริง หุ้นคือการลงทุน แก่นจริงๆ ของหุ้นคือการได้เป็นส่วนหนึ่งของการได้ไปเป็นผู้ถือหุ้นในบริษัทที่นักลงทุนสนใจในธุรกิจและกิจการนั้นอยู่ เป็นการลงเงินไปเพื่อเข้าไปมีส่วนร่วม เงินที่ลงไปในฝั่งเราก็เป็นหนึ่งในฐานะเจ้าของบริษัท อีกฝั่งหนึ่งเงินนั้นผ่านตลาดหลักทรัพย์ไปเข้าสู่กิจการจริงที่บริษัทนั้นนำไปต่อยอดธุรกิจ มันเป็นการลงทุนที่เงินควรจะโตไปตามการเติบโตของบริษัทนั้น ตามกำไรที่บริษัทปั๊มได้นั่นเอง

แต่การลงทุนในตลาดหุ้น สิ่งที่น่าภูมิใจไม่ใช่เสียงดังๆ เวลากำไรหุ้นตัวนั้นตัวนี้ แต่สิ่งที่น่าอวดกลับเป็นการอยู่ในตลาดฯ ได้ในระยะเวลายาวนาน ตัวเลขพอร์ตการลงทุนที่โตอย่างต่อเนื่อง และกลยุทธ์ที่ใช้ที่ถนัดและถูกจริตกับนักลงทุน จนนำมาซึ่งความสุขในการลงทุนได้

ผมเป็นนักเก็งกำไรหุ้น โดยปัจจัยพื้นฐาน
ผมเป็นนักเก็งกำไรหุ้น โดยปัจจัยพื้นฐาน

กราฟเทคนิคฯ สำหรับนักลงทุนมีหลากหลายรูปร่างหน้าตา ไทม์เฟรมที่เลือกได้ไม่ว่าจะเป็นปี เดือน วัน หรือจะแม้แต่เป็นชั่วโมง เป็นนาที มากกว่านั้นยังมีเทรนด์ไลน์ มีอินดิเคเตอร์อีกมากมายหลายชนิด ไม่ว่าจะ EMA, MACD, RSI, etc.

ในฝั่งสายพื้นฐาน (Fundamental) ยังมีให้เลือกเครื่องมือเพียบ ไม่ว่าการใช้กำไรโฟกัสการคัดเลือกหุ้น การเลือกดูจากมูลค่าหุ้นทางบัญชี หรือจะเป็น VI (Value Investor) พันธุ์แท้ที่ซื้อหุ้นด้วยมุมคิดแบบเจ้าของกิจการเติบโตไปพร้อมกัน ถือหุ้นเป็นปีเป็นสิบปี

เชื่อว่าถึงตรงนี้ หลายคนมีคำถามว่า แล้วควรจะเลือกใช้เครื่องมือไหน ผมเองก็ตอบแทนไม่ได้ซะด้วย เครื่องไม้เครื่องมือแต่ละคนก็ต้องเลือกกันเอาเอง นั่นก็เพราะมันก็ขึ้นอยู่กับความถนัด แต่ก่อนอื่นเลยคือการอยู่กับตลาดหุ้นให้ได้นานๆ ซะก่อน เพื่อให้ได้ศึกษาวิชากับเครื่องไม้เครื่องมือ ก่อนจะชำนาญและเผด็จศึกในเวลาหลังจากนั้น

และสำหรับผมเอง ผมก็พร้อมเฉลยว่า ผมเป็น “นักเก็งกำไรหุ้น โดยปัจจัยพื้นฐาน” เป็นลูกผสมของคนที่ชอบวิเคราะห์หุ้นด้วยปัจจัยพื้นฐาน แต่ก็มีกลิ่นอายของการเก็งกำไรอยู่บ้าง กว่าจะได้สัดส่วนที่ลงตัว กลมกล่อมแบบที่เป็นอยู่นี้ ผมลงทุนลงแรงไปพอสมควร จนค้นเจอช่องว่างระหว่างมูลค่าที่แท้จริงของหุ้น กับราคาที่ซื้อขายกันในตลาดฯ ของหุ้นตัวนั้น ด้วยการไม่เคยมีกฎตายตัวให้ “มูลค่ากับราคาหุ้น” แปะติดกันตลอด จึงเข้าทางนักเก็งกำไรอย่างผมจนได้ และด้วยความอึดเป็นพิเศษ การเก็งกำไรในหุ้นแต่ละตัวของผมไม่ใช่การเก็งแบบข้ามวันข้ามเดือน แต่เป็นการเก็งกำไรแบบข้ามปีกันทีเดียว

ผมว่าเท่ดีนะกับแนวการลงทุนแบบนี้ พอร์ตก็โตเรื่อยๆ ดีด้วย แต่มันก็ไม่ใช่จะเหมาะกับทุกคนผมเชื่ออย่างนั้นมากๆ ไม่ใช่ทุกคนจะอึด ไม่ใช่ทุกคนอยากจะถือหุ้นนานๆ

สิ่งที่ดีกว่าคือ หาสไตล์ที่เหมาะกับตนเอง และตั้งชื่อให้ตรงกับรูปแบบที่เป็น เพื่อเวลาที่มีคนมาถามว่าคุณคือนักลงทุนแนวไหน คุณจะได้ตอบเสียงดังๆ แบบมั่นใจว่า คุณคือนักลงทุนสไตล์คุณ ด้วยคำห้อยท้ายที่เป็นคุณเอง!! 

ผมเป็นนักเก็งกำไรหุ้น โดยปัจจัยพื้นฐาน
ผมเป็นนักเก็งกำไรหุ้น โดยปัจจัยพื้นฐาน

Know Him

ปิยพันธ์ วงศ์ยะรา (ป้อม)

ผู้ก่อตั้งบริษัทสต็อคทูมอร์โรว์ ศูนย์กลางของนักลงทุน นักธุรกิจ และผู้ที่ต้องการพัฒนาตัวเอง

คุณปิยพันธ์ คือผู้อยู่เบื้องหลังหนังสือขายดีหลายเล่ม และเป็นผู้แจ้งเกิดนักเขียนและวิทยากรชื่อดังมากมายหลายท่าน

รวมทั้ง ส่วนตัวยังเป็นเจ้าของหนังสือ Best seller “หุ้น 5 เด้ง” อีกด้วย
Email, Facebook : [email protected]
Fanpage : www.facebook.com/PiyaphanMakeBillion

คนมองตลาดหุ้นเป็นการพนันได้อย่างไร ?

ก็เพราะการคุยกันดังๆ ในเรื่องกำไรจากการซื้อ - ขายกันบ่อยๆ นั่นเอง เช่น ซื้อหุ้นได้ราคาถูก ไปขายในราคาแพง ได้กำไรง่ายๆ ทีนี้ก็ดึงความโลภของคนที่ขาดความรู้ความเข้าใจในหุ้น แห่ลงสนามโดยขาดความยับยั้งชั่งใจ ให้มีกำไรในช่วงแรก และปิดท้ายด้วยการขาดทุนในช่วงเวลาต่อมา ก่อนโบกมือบายตลาดฯ แล้วก่นด่ากลับมาว่าตลาดหุ้นเหมือนการพนัน ทั้งๆ ที่ความเป็นจริงตลาดหุ้นก็ทำหน้าที่เป็นตลาดทุนให้บริษัทจดทะเบียนกับนักลงทุนเจอกันอย่างตามหน้าที่เสมอ จะมีก็แต่นักเก็งกำไรที่เมามันจนลืมบทบาทตรงนี้ หวังกินกำไรสั้นๆ ง่ายๆ จนลืมตัวไป

 

 

 

 

 

“นักเก็งกำไรหุ้น โดยปัจจัยพื้นฐาน”