เรื่องราวของการบุกรุกเกิดขึ้นอยู่เป็นประจำทั้งที่เป็นข่าวในหน้าหนังสือพิมพ์ หรือไม่ก็เป็นการบุกรุกของผู้ไม่หวังดี ทว่าหากเกิดเหตุการณ์ที่เจ้าหน้าที่บ้านเมืองบุกรุกสถานที่ของเราเสียเอง เหมือนอย่างเรื่องของไผ่ เราจะทำอย่างไรดี

ไผ่เป็นหนุ่มใหญ่ที่ทำธุรกิจเกี่ยวกับอสังหาริมทรัพย์ และธุรกิจอื่นๆ อีกมากมาย เขามีเงินทองมากพอที่จะใช้ไปชั่วลูกชั่วหลาน แต่เขาก็ไม่หลงระเริงไปกับเงินทองที่หามาได้ ยังคงใช้ชีวิตเหมือนคนปกติทั่วๆ ไป กินอยู่อย่างพอเพียง 

จากการที่เขามีธุรกิจที่ดี มีความก้าวหน้ากว่าบริษัทคู่แข่งอื่นๆ ทำให้บ่อยครั้งเขาจำเป็นจะต้องคอยระมัดระวังตัวอยู่เสมอๆ แต่ก็ยังไม่ถึงขั้นให้บอดี้การ์ดเดินตามตลอด 24 ชั่วโมง และครั้งนี้เขาถูกบริษัทคู่แข่งโจมตีว่าบริษัทของเขาเกี่ยวข้องกับการเป็นผู้ผลิตยาเสพติดรายใหญ่

คืนหนึ่งในระหว่างที่ไผ่พักผ่อนอยู่ในบ้านหลังกลับจากงานเลี้ยงรับรองลูกค้าเวลาประมาณ 21.00 น. มีเจ้าหน้าที่ตำรวจจำนวนหนึ่งปีนข้ามรั้ว และขอเข้าไปตรวจค้นภายในบ้านไผ่ เพื่อหายาเสพติดตามที่ได้รับแจ้งมา

ไผ่ : คุณเข้ามาได้อย่างไร

เจ้าหน้าที่ตำรวจ : ผมได้รับแจ้งมาว่าบ้านหลังนี้เกี่ยวข้องกับคดียาเสพติด ผมจึงจำเป็นต้องเข้ามา ผมขออนุญาตเข้าค้นภายในบ้านด้วยครับ

ไผ่ : ผมไม่อนุญาตให้คุณเข้าไปตรวจค้น คุณมีหมายค้นหรือเปล่า และในเวลานี้ก็เป็นยามวิกาล คุณออกไปได้แล้ว คุณไม่มีสิทธิ์แม้กระทั่งจะปีนเข้ามาในบ้านของผม

เจ้าหน้าที่ตำรวจ : ทำไมจะไม่ได้ ผมจำเป็นต้องค้นบ้านหลังนี้เดี๋ยวนี้

Q : จากนั้นตำรวจก็ไม่สนใจฟังอะไรทั้งสิ้น เข้าค้นบ้านของไผ่อย่างละเอียด แต่ก็ไม่พบอะไรผิดปกติ การกระทำดังกล่าวของเจ้าหน้าที่ตำรวจ จะมีความผิดหรือไม่อย่างไร

A : จากข้อเท็จจริง การที่เจ้าหน้าที่ตำรวจปีนเข้ามาในบ้าน ซึ่งเป็นที่พักของไผ่ในเวลากลางคืนโดยไม่ได้รับอนุญาต และไม่มีหมายค้น อีกทั้งยังได้เข้าไปค้นบ้านของไผ่ การกระทำดังกล่าวเป็นการรบกวนการครอบครองอสังหาริมทรัพย์ของไผ่ โดยปกติสุข และไม่มีอำนาจเข้า จึงเป็นการปฏิบัติหน้าที่โดยมิชอบ

การกระทำการของเจ้าหน้าที่ตำรวจจึงเป็นการกระทำความผิด ฐานร่วมกันปฏิบัติหน้าที่โดยมิชอบ และบุกรุกในเวลากลางคืน ตามประมวลกฎหมายอาญา มาตรา 83, 157, 365(3)

บุคคลใดก็ตาม มิได้ปฏิบัติหน้าที่ให้เป็นไปตามครรลองของกฎหมาย บุคคลนั้นย่อมได้รับโทษตามกฎหมายอย่างแน่นอน ไม่ว่าจะเป็นบุคคลใดก็ตาม 

ประมวลกฎหมายอาญา 

มาตรา 83 ในกรณีความผิดใดเกิดขึ้น โดยการกระทำของบุคคลตั้งแต่สองคนขึ้นไป ผู้ที่ได้ร่วมกระทำความผิดด้วยกันนั้นเป็นตัวการ ต้องระวางโทษตามที่กฎหมายกำหนดไว้สำหรับความผิดนั้น

มาตรา 157 ผู้ใดเป็นเจ้าพนักงาน ปฏิบัติหรือละเว้นการปฏิบัติหน้าที่โดยมิชอบ เพื่อให้เกิดความเสียหายแก่ผู้หนึ่งผู้ใด หรือปฏิบัติหรือละเว้นการปฏิบัติหน้าที่โดยสุจริต ต้องระวางโทษจำคุกตั้งแต่หนึ่งปีถึงสิบปี หรือปรับตั้งแต่สองพันบาทถึงสองหมื่นบาท หรือทั้งจำทั้งปรับ

มาตรา 362 ผู้ใดเข้าไปในอสังหาริมทรัพย์ของผู้อื่นเพื่อถือครองอสังหาริมทรัพย์นั้นทั้งหมดหรือแต่บางส่วนหรือเข้าไปกระทำการใดๆ อันเป็นการรบกวนการครอบครองอสังหาริมทรัพย์ของเขาโดยปกติสุข ต้องระวางโทษจำคุกไม่เกินหนึ่งปี หรือปรับไม่เกินสองพันบาท หรือทั้งจำทั้งปรับมาตรา 365 ถ้าการกระทำความผิดตามมาตรา 362 ... ได้กระทำ
.
.
.
(3) ในเวลากลางคืน
ผู้กระทำต้องระวางโทษจำคุกไม่เกินห้าปี หรือปรับไม่เกินหนึ่งหมื่นบาท หรือทั้งจำทั้งปรับ

บุกรุกยามวิกาล