Money For Nothing

Money For Nothing

มีเด็กๆ หลายคนพูดถึงในฐานะเพลงเปิดหัวเรื่องของหนังเรื่อง Kingsman ที่พวกเขาไม่รู้จักว่าคือเพลงอะไร 

Now look at them yo-yo’s that’s the way you do it
You play the guitar on the MTV

That ain’t workin’ that’s the way you do it
Money for nothin’ and chicks for free

Now that ain’t workin’ that’s the way you do it
Lemme tell ya them guys ain’t dumb

Maybe get a blister on your little finger
Maybe get a blister on your thumb

*We gotta install microwave ovens
Custom kitchen deliveries
We gotta move these refrigerators
We gotta move these colour TV’s

See the little faggot with the earring and the makeup
Yeah buddy that’s his own hair

That little faggot got his own jet airplane
That little faggot he’s a millionaire (*)

I shoulda learned to play the guitar
I shoulda learned to play them drums

Look at that mama, she got it stickin’ in the camera
Man we could have some fun

And he’s up there, what’s that? Hawaiian noises?
Bangin’ on the bongoes like a chimpanzee

That ain’t workin’ that’s the way you do it
Get your money for nothin’ get your chicks for free (*)

Now that ain’t workin’ that’s the way you do it
You play the guitar on the MTV

That ain’t workin’ that’s the way you do it
Money for nothin’ and your chicks for free

เฉลยให้ว่าคือเพลงนี้แหละครับ และก็ไม่ใช่เพลงไก่กาหมาแมวที่ไหน ผลงานของวง Dire Strait เป็นเพลงที่ได้รางวัลแกรมมี่ ครั้งที่ 28 สาขาเพลงร็อคยอดเยี่ยมในปี ค.ศ.1986 มาแล้ว 

เพลงนี้เริ่มต้นด้วยเสียงลอยๆ ของ Sting อดีตสมาชิกวง The Police ในฐานะแขกรับเชิญ ด้วยประโยคสั้นๆ ว่า I want my MTV จากนั้นก็บรรยายถึงความคิดของคนทำงานในร้านขายเครื่องใช้ไฟฟ้าคนหนึ่ง ที่วิจารณ์นักร้องที่เขาเห็นใน MTV ว่าไม่ทำงานทำการเป็นชิ้นเป็นอัน แต่รวยขึ้นทุกวันแถมได้ฟันสาวฟรี 

มาร์ค นอฟเลอร์ นักร้องนำและผู้เขียนเพลงเคยเล่าว่า เขาได้แรงบันดาลใจในการแต่งเพลงนี้  มาจากประสบการณ์จริงของเขา  ตอนที่ไปร้านขายเครื่องใช้ไฟฟ้าในนิวยอร์ก มีพนักงานพวกช่างประจำร้านยืนดูจอมอนิเตอร์ที่เปิด MTV แล้วก็พูดวิจารณ์ต่างๆ นานา 

นอฟเลอร์ฟังแล้วก็ไม่ได้โกรธครับ แต่กลับสนใจและรีบหากระดาษกับปากกามาจดศัพท์แสงที่ช่างคนนั้นพูด เช่น “Bangin’ on the bongoes like a chimpanzee”ท่าหวดกลองเหมือนลิงชิมแปนซี หรือประโยคว่า “See the little faggot with the earring and the makeup” ดูกะเทยใส่ตุ้มหูแต่งหน้าสิ หรือ “We gotta install microwave ovens, Custom kitchen deliveries.” พวกนักดนตรี ไม่ทำงานอะไร ในขณะที่เขาต้องติดตั้งไมโครเวฟ ประกอบครัว ยกตู้เย็น เข็นโทรทัศน์ แล้วก็ลงท้ายว่ารู้งี้น่าจะหัดเล่นกีตาร์ เล่นกลองมั่งก็ดี ล้วนมาจากคำพูดจริงๆ ของช่างที่จดมา

บางคนไปตีความว่า Money for nothing แปลว่า เงินไม่มีค่าอะไร บอกตรงนี้ว่าไม่ใช่นะครับ เป็นประโยคที่คนใช้แรงงานประชดนักร้องว่า พวกนี้ไม่ทำงานอะไรก็ได้เงิน ถามว่าจริงไหม ตอบว่า แล้วแต่คนจะมองครับ ถ้ามองแบบช่างคนนั้น แล้วเปรียบเทียบกับงานของนักร้อง ก็คงคิดได้เหมือนในเพลง ถามว่ามีประโยชน์ไหมตอบว่า ไม่มีครับ

แต่ถ้ามองว่า แม่ค้าส้มตำ ดารา จับกัง คนขับแท็กซี่ หรือนักร้อง ทุกคนก็ทำงานมีประโยชน์ในแบบของแต่ละคน ไม่จำเป็นต้องเทียบกัน เพราะมันไม่มีประโยชน์ที่จะเทียบ

ทำนองเดียวกับที่ มาร์ค นอฟเลอร์ ได้ยินคนพูดถึงอาชีพเขาแบบดูถูก แล้วเขาจะโกรธได้ไหม ได้ครับ แต่มันไม่มีประโยชน์ สู้เอาสิ่งที่เขาดูถูกมาทำประโยชน์ต่อดีกว่าแบบที่นอฟเลอร์ทำ เลยได้เพลงที่ฮิตที่สุดของวงออกมาเพลงนี้ 

นี่เป็นเรื่องของคนมีปัญญา ที่รู้จักมองหาประโยชน์จากสิ่งที่ดูเหมือนไม่มีประโยชน์นะครับ 

สุขสันต์วันที่เรายังมีงานทำครับ 

ประโยชน์ในความไม่มีประโยชน์