Osteoarthritis of the knee

Osteoarthritis of the knee

อาการข้อหัวเข่าเสื่อมนั้นเกิดขึ้นได้จากหลายสาเหตุ เรามาทำความเข้าใจกันก่อนว่าข้อเข่าประกอบไปด้วยกระดูกสำคัญๆ 3 ส่วนนั่นก็คือ กระดูกต้นขา ซึ่งเป็นกระดูกส่วนบนของเข่า ส่วนที่สองเป็นกระดูกหน้าแข้ง ซึ่งเป็นกระดูกส่วนล่างของหัวเข่า และส่วนสุดท้ายก็คือ กระดูกลูกสะบ้าซึ่งเป็นกระดูกที่อยู่ด้านหน้า โดยในส่วนบริเวณข้อเข่านั้นจะมีกระดูกอ่อนๆ อยู่เป็นรูปครึ่งวงกลมกระดูกชิ้นนี้นี่เองที่มีความสำคัญเป็นอย่างยิ่ง เพราะทำหน้าที่กระจายน้ำหนักเพื่อให้กระดูกรับน้ำหนักมากเกินไป

ในข้อเข่าของเรานั้นยังมีน้ำที่หล่อเลี้ยงกล้ามเนื้อรอบๆ เข่า ซึ่งมีส่วนช่วยในการป้องกันการสึกหรอ เวลาที่เราขยับ กระโดด วิ่งหรือแม้กระทั่งเดินเฉยๆ ก็ตาม

คนส่วนมากไม่ค่อยบริหารข้อเข่าสักเท่าไร สักแต่ใช้งานมันอย่างเดียว ทำให้กล้ามเนื้อบริเวณข้อเข่าไม่ค่อยแข็งแรง และเมื่ออายุมากขึ้นหรือกระดูกอ่อนของข้อมีการเสื่อมสภาพ ทำให้กระดูกอ่อนไม่สามารถเป็นตัวที่รองรับน้ำหนักได้ และเมื่อได้รับการกระทบกระเทือนหรือกระแทกแรงๆ เข้าก็ทำให้เกิดอาการเจ็บปวดขึ้น และเมื่อข้อเข่ามีการอักเสบขึ้นก็จะสร้างน้ำข้อเข่าเพิ่มขึ้น ทำให้กลายเป็นอาการบวมและปวดเข่ามากยิ่งขึ้น บางคนขยับเข่าก็มีเสียงกรึบๆ ซึ่งนั่นก็คือเสียงของการเสียดสีกันของกระดูก เมื่อมาถึงตรงนี้ แม้ไม่ต้องเดิน แค่เพียงเคลื่อนไหวเข่าก็จะเกิดอาการปวดขึ้นมา และเมื่อปล่อยทิ้งไว้ให้เรื้อรังก็อาจจะต้องใช้ไม้เท้าในการช่วยเดิน เป็นสาเหตุให้กล้ามเนื้อขาถูกใช้งานน้อยลง และสุดท้ายก็กลายเป็นเดินไม่ได้

การดูแลรักษาอาการปวดเข่าในเบื้องต้นนั้นก็ทำได้ง่ายๆ เพียงแค่ลดการใช้เข่าเท่านั้นเอง เช่น หลีกเลี่ยงการนั่งยองๆ คุกเข่า นั่งขัดสมาธิ รวมทั้งหลีกเลี่ยงการเดินขึ้น-ลงบันได และสำหรับผู้ที่มีน้ำหนักตัวมากก็จำเป็นที่จะต้องลดน้ำหนักด้วยให้น้อยลงเพื่อให้หัวเข่าได้รับแรงกระแทกลดลง หรือจะใช้กายบริหารเข้าช่วยก็ได้ โดยท่ากายบริหารสำหรับข้อเข่าเสื่อมนั้นก็ง่ายๆ นั่งหลังพิงเก้าอี้แบบสบายๆ จากนั้นก็ยืดขาไปข้างหน้า กระดกปลายเท้าขึ้น แล้วเกร็งไว้ จากนั้นขยับลง ทำข้างละ 10 ครั้ง และหลังจากที่กล้ามเนื้อคุ้นชินกับท่านี้แล้ว สามารถเพิ่มน้ำหนักที่ข้อเท้าด้วยถุงทราย เพื่อให้กล้ามเนื้อแข็งแรงมากขึ้น

นอกจากท่านั้นแล้ว การบริหารท่านอนก็มีเช่นเดียวกัน โดยเป็นการนอนหงายราบกับพื้น แล้วยกขาขึ้นสูงจากพื้นประมาณ 1 คืบแล้วกระดกปลายเท้าเข้าหาตัว ค้างไว้สัก 10 วินาที แล้วสลับข้างกันไปมา 10 ครั้ง หลังจากนั้นก็นอนคว่ำกับพื้นแล้วงอเข่าเข้ามากระดกปลายเท้าเข้าค้างไว้ 10 วินาที สลับไปมา 10 ครั้ง เช่นกัน

ยังมีการบำบัดในรูปแบบอื่นๆ ที่ช่วยบำบัดอาการข้อเข่าเสื่อมได้ด้วยเหมือนกัน เช่น การกินอาหารเสริม ฝังเข็ม หรือรักษาด้วยการแพทย์แผนปัจจุบันก็สามารถทำให้อาการข้อเข่าเสื่อมดีขึ้นได้เช่นกัน ทั้งนี้ทั้งหมดขึ้นอยู่กับอาการที่เป็น แต่หากเป็นมากเข้าก็ควรปรึกษาแพทย์จะดีกว่า

เมื่อรู้เช่นนี้แล้ว อาการปวดเข่าไม่ใช่เรื่องเล็กน้อยที่จะมองข้าม ควรใส่ใจและให้ความสำคัญกับหัวเข่าของเรา เพื่อให้เราสามารถเดินได้ไปอีกนานครับ

พูดถึงหัวเข่าที่ค่อยๆ เสื่อมสภาพ