แม่ฮ่องสอน

แม่ฮ่องสอน

๑...  กว่าสิบปีแล้วที่ผมไม่ได้มาเยือนแม่ฮ่องสอน ทว่าภาพอดีตต่างๆ นั้นยังแจ่มชัดในความทรงจำ ผมกลับมาเยือนเมืองในหุบเขาแห่งนี้อีกครั้งในวันต้นฤดูหนาว เดือนที่แม่ฮ่องสอนห่มคลุมด้วยสายหมอกหนาวเย็น วันแรก ผมมาถึงตัวเมืองขณะตะวันตกลับทิวเขาอากาศเย็นเยือกห่มเมือง เบื้องบนห่มคลุมด้วยดวงดาวสว่างนวล ผมและมิตรร่วมทางได้บ้านพักเงียบสงบใกล้ๆ ตัวเมือง บ้านเรือนไทยหลังที่เราพักตั้งอยู่บนเนิน อิงแอบแม่น้ำปาย ในยามเช้า มองจากหน้าต่างห้องพัก เราพบว่าภาพรอบๆ ตัวดูนุ่มนวลด้วยม่านหมอกขาว พักอยู่ที่นี่ เราตื่นกันแต่เช้าตรู่ เข้าไปใส่บาตรในตัวเมือง ขึ้นไปชมทิวทัศน์เมืองบนดอยกองมู ท่ามกลางม่านหมอกหนาวเย็น ผู้มาเยือนเดินเวียนรอบองค์พระธาตุ แต่ละคนถือธูปเทียน ดอกไม้ ใบหน้าอิ่มเอมใจ ลงจากดอยกองมู เราออกจากตัวเมืองไปถึงถ้ำปลาและน้ำตกผาเสื่อ ที่น้ำตกผาเสื่อ เด็กๆ กลุ่มใหญ่เดินทางมาทัศนศึกษา ทุกคนดูร่าเริง หัวเราะพูดคุย ตื่นใจต่อสถานที่แปลกใหม่ นี่จะเป็นก้าวแรกๆ ที่พวกเขาได้รู้ว่าโลกนั้นกว้างเพียงใด ในกลุ่มเด็กๆ ซึ่งทยอยลงไปดูน้ำตก ผมพบเด็กหญิงกู่ตู่หลู่และเด็กหญิงชนาพร ทั้งสองเรียนอยู่ชั้น ป.๔ โรงเรียนบ้านห้วยเสือเฒ่า หูสองข้างของพวกเธอเจาะเป็นรูกว้างดูสะดุดตา ประดับต่างหูและหินสีตามแบบชนเผ่าปะกากญอ ผมขอพวกเธอถ่ายภาพ ทั้งสองยิ้มเขินอาย ขณะแนบตากับช่องมองภาพ จู่ๆผมก็เกิดความรู้สึกบางอย่าง เด็กหญิงชาวปะกากญอคล้ายทำให้ผมพบว่าตนเองจากบ้านมาไกลเพียงใดแล้ว

...  เหมือนเช่นวันวาน ม่านหมอกห่มคลุมเมือง อากาศหนาวเย็น ที่แม่ฮ่องสอน ชีวิตเริ่มต้นแต่เช้าตรู่ กิจกรรมเริ่มต้นตั้งแต่หมอกยังไม่ละลาย เราเข้าไปใส่บาตรในตัวเมือง ดาวบางดวงยังแขวนค้างบนท้องฟ้า คุณอมรรัตน์และน้องฟ้ามุ่ย-ลูกสาว ออกมารอใส่บาตรพร้อมกับพวกเรา หน้าเรือนไม้เก่าแก่อายุ ๑๑๒ ปีของครอบครัว คุณอมรรัตน์เล่าเรื่องราวเก่าๆ ให้ผู้มาเยือนฟัง สมัยพ่อแม่ท่านเดินทางลำบาก ต้องนั่งช้าง นั่งม้า มาสมัยพี่เริ่มสะดวกแล้ว มีทางรถยนต์ มีเครื่องบินโดยสาร” เรื่องราวเหล่านั้นย้อนกลับไปร่วมสามสิบปีแล้ว ความที่แวดล้อมด้วยทิวดอยซับซ้อนและป่าไม้ อยู่ไกลห่างจากเมืองอื่นจนเรียกได้ว่าโดดเดี่ยว เครื่องบินจึงเป็นพาหนะจำเป็นในการเดินทาง แม่ฮ่องสอนเริ่มมีสนามบินตั้งแต่ ..๒๔๘๒ โดยบริษัทเดินอากาศ จำกัด ใช้เครื่องบินแบบแฟร์ไซลด์  ที่นั่งบินระหว่างเชียงใหม่-แม่ฮ่องสอน-แม่สะเรียง หยุดให้บริการระยะสั้นๆ ระหว่างสงครามโลกครั้งที่  ปรับปรุงลานบินและเครื่องบินหลายครั้ง จนกระทั่งเป็นส่วนหนึ่งของกรมการบินพาณิชย์และบริษัทการบินไทย จำกัด เข้ามาให้บริการเมื่อ..๒๕๒๕ เครื่องบินเป็นช่องทางในการติดต่อกับโลกภายนอกที่รวดเร็วก็จริง ทว่าพาหนะที่นำโลกภายนอกเข้ามารวดเร็วแท้จริงคือทางหลวงหมายเลข ๑๐๙๕ เชียงใหม่-ปาย-แม่ฮ่องสอน พอโทรทัศน์มาถึง หลายอย่างก็เริ่มเปลี่ยนไป” พี่ติ่ง-เจ้าของบ้านเรือนไทยที่เราพัก ให้ความเห็น ด้วยวัยล่วง ๕๐ ผ่านการเดินทางมามากมาย คำพูดของแกทำให้ผมรับฟังและคิดตาม พูดได้ว่า พี่ติ่งเป็น “คนนอก” คนแรกๆ ที่เข้ามาใช้ชีวิตในแม่ฮ่องสอน สมัยยังเป็นหนุ่มน้อยวัย ๑๘ แกเคยแบกเป้รอนแรมไปไกลถึงเลห์ ลาดักสิกขิม ประเทศอินเดีย เนปาลกับปากีสถานก็ล้วนเคยไปเยือน จนวันหนึ่ง เมื่อครั้งขับรถเข้ามาซื้อน้ำมันยางที่นี่เมื่อ ๒๕ ปีก่อน... ผมไม่รู้หรอกว่า สถานที่หรือผู้คนที่ทำให้ชายคนหนึ่งค่อยๆ เดินทางน้อยลง ใช้เวลาเพิ่มขึ้นเรื่อยๆ ในเมืองเล็กห่างไกลเช่นนี้ หรือความเป็นจริง เราไม่อาจรู้เลยว่าการเดินทางจะพัดพาชีวิตไปยังทิศทางใด 

...  วันสุดท้ายที่อยู่แม่ฮ่องสอน ผมได้มิตรใหม่พาเดินชมเมือง ด้วยน้ำใจอันงดงาม มิตรใหม่พาผมไปชมเรือนโบราณในแบบไทยใหญ่อายุ ๑๒๓ ปี คุณอวัสดา ไชยศร ทายาทรุ่นที่  และคุณแม่ พาชมตัวเรือนอย่างคนใจดี ความเก่าแก่ของเรือนปรากฏบนพื้นไม้มันเลื่อม ลวดลายไม้ฉลุโบราณแบบไทยใหญ่ที่เรียกว่า “ฝาลาย” เรือนหลังนี้มีโอกาสต้อนรับคนเดินทางมากหลาย ทั้งญาติมิตร ข้าราชการ พ่อค้าวาณิช ช่วงสงครามโลกครั้งที่  บ้านหลังนี้เป็นที่พักของทหารญี่ปุ่น ผู้มาเยือนจากไปเนิ่นนานแล้วทว่าอักษรญี่ปุ่นที่สลักไว้บนพื้นไม้ยังไม่เลือนหาย ขณะทอดตามองอักษรสลัก ความรู้สึกบางอย่างก็จู่จับเข้ามาภายใน นอกจากจะย้ำเตือนถึงการเดินทางมาเยือนแม่ฮ่องสอนเมื่อสิบกว่าปีก่อนลายเส้นรางๆ นั้นยังทำให้ผมพบว่า แท้ที่จริงแล้วไม่มีสิ่งใดยั่งยืนแน่นอน ในความเป็นจริง ผมก็เป็นแค่ผู้ผ่านทางซึ่งไม่อาจล่วงรู้เลยว่า ตนเองจะมีโอกาสกลับมาเยือนที่นี่อีกครั้งเมื่อใด และกับระยะทางอันยาวไกล ทิวเขาซับซ้อน คดโค้งมากหลาย สิ่งเหล่านี้ไม่อาจกางกั้นความรู้สึกดีๆ ที่ผมมีต่อแม่ฮ่องสอนได้ เพราะมีเมือง” ไม่มากนักแล้วที่จะสงบ งดงาม รักษาเสน่ห์ของตนไว้ได้เช่นเมืองเล็กๆ ในหุบเขาเมืองนี้

คู่มือเดินทาง

เนื่องจากอยู่ห่างไกล แวดล้อมด้วยหุบเขา ทำให้แม่ฮ่องสอนเป็นเมืองเล็ก เงียบสงบ ทั้งเมืองและผู้คนเปลี่ยนแปลงค่อนข้างช้า ในตัวเมืองแม่ฮ่องสอน ยามเช้าน่าแวะไปใส่บาตรที่ถนนสิงหนาถบำรุง ซึ่งเป็นถนนสายเก่าแก่ของเมือง ในตลาดสายหยุดมีของกินพื้นเมืองขาย ใกล้ ๆ มีร้านแฟร์บุ๊ค ขายก๋วยจั๊บ ขนมจีบ ไข่กระทะ กาแฟ ฝั่งตรงข้ามมีร้านข้าวแกงราชบุรี-ข้าวแกงหลากหลาย ข้างๆ วัดจองคำมีร้านแม่ร่องสอน ขายอาหารมุสลิมรสดี โรตี-แกงกะหรี่ ข้าวหมกไก่ ซุปหางวัว หลังพระบิณฑบาตน่าขึ้นไปชมพระธาตุดอยกองมู มีจุดชมทิวทัศน์เมืองแม่ฮ่องสอน สายๆ เดินชมตัวเมือง วัดจองคำ-จองกลาง เรือนไทยใหญ่โบราณอายุ ๑๒๓ ปี ตกค่ำ ข้างหนองจองคำจัดถนนคนเดิน มีทั้งของที่ระลึกและผ้าทอจากชนเผ่าต่าง ๆ จำหน่าย ติดตลาดทุกวันตลอดฤดูหนาว ตั้งแต่ ๑๗.๐๐-๒๒.๐๐ นาฬิกา

แนะนำที่พัก 

แม่น้ำคอตเทจ บ้านทุ่งกองมู มีบ้านพัก ๖ ห้อง ห้องละ ๖๐๐ บาท บ้านทรงไทยพักได้ ๑๐ คน คนละ ๓๐๐ บาท บ้านแฝดพักได้ ๘ คน คืนละ ๓,๐๐๐ บาท บ้านริมน้ำมี ๒ ห้อง ห้องละ ๖๐๐ บาท โทรศัพท์ (๐๕๓) ๖๑๑-๙๔๕, ๐๘-๙๙๕๒-๒๗๘๒ในตัวเมืองรอบหนองจองคำมีเกสต์เฮาส์ให้เลือกหลากหลาย หน้าวัดจองคำมีคิวรถนำเที่ยวพระธาตุดอยกองมู ปางอุ๋ง บ้านรักษ์ไทยภูโคลนน้ำตกตาดผาเสื่อ ครึ่งวัน ๑,๕๐๐ บาท เต็มวัน ๑,๘๐๐ บาท คณะละไม่เกิน ๑๐ คน

How to Go?

บริษัทสมบัติทัวร์มีรถประจำทางปรับอากาศ VIP ชั้น ๑ และชั้น ๒ กรุงเทพฯ-แม่ฮ่องสอน ทุกวัน เที่ยวเวลา ๑๕.๐๐, ๑๗.๐๐,๑๘.๐๐, ๒๐.๔๕ นาฬิกา ใช้เวลาเดินทางประมาณ ๑๕ ชั่วโมง โทรศัพท์ ๐-๒๙๓๖-๓๕๘๗-๘, (๐๕๓) ๖๘๔-๒๒๒ ที่สถานีขนส่งอาเขตมีรถตู้เอกชนให้บริการเส้นทางเชียงใหม่-ปาย-แม่ฮ่องสอน ใช้เวลาประมาณ ๕ ชั่วโมง บริษัทการบินไทย จำกัด(มหาชน) มีเที่ยวบินเชียงใหม่-แม่ฮ่องสอน โทรศัพท์ ๐-๒๓๕๖-๑๑๑๑ เว็บไซต์ www.thaiairways.com 

กว่าสิบปีแล้วที่ผมไม่ได้มาเยือนแม่ฮ่องสอน