เหมาเจ๋อตง

เหมาเจ๋อตง

เหมาเจ๋อตงเป็นคนกินเผ็ด สูบบุหรี่จัด เวลาดื่มชามักเคี้ยวใบชากินลงไปด้วย ในลักษณะนิสัยที่ค่อนไปทางจอมยุทธ แปลกที่ประท่านเหมาเป็นคนไม่ดื่มสุรา

กฏข้อบังคับหลายอย่างของนักรบจรยุทธกองทัพแดง เป็นเหมือนกฏคุณธรรมของจอมยุทธ เช่น ไม่ลักขโมยของๆ ชาวบ้านแม้แต่เข็มสักเล่ม, ถอดเอาบานประตูของชาวบ้านมายืมเป็นเตียงนอนแล้วเช้าขึ้นต้องประกอบคืน,  เด็ดผักผลไม้ของชาวบ้าน หากไม่เจอเจ้าของต้องจ่ายเงินเหน็บไว้ที่ต้น ... ฯลฯกฏข้องบังคับแบบ “จอมยุทธ” ของนักรบกองทัพแดงเช่นนี้ สามารถชนะใจของประชาชนตลอดเส้นทางที่ผ่าน ช่วงที่ยังทำสงครามแย่งชิงอำนาจรัฐกับกว๋อหมินตั่ง (ก๊กมินตั๋ง) มีข้อมูลเรื่องเล่าเกร็ดเล็กเกร็ดน้อยมากมาย เรื่องเล่าเหล่านี้ทำให้เห็นภาพของท่านประธานเหมาในฐานะมนุษย์ธรรมดา หนังจีนที่สร้างในจีนแผ่นดินใหญ่มีอยู่หลายเรื่องที่เล่าเรื่องภาคความเป็นมนุษย์ของท่านประธานเหมา 

เรื่องกินเผ็ดของท่านประธานเหมาเป็นที่เล่าลือ ปกติชาวหูหนานก็เป็นกลุ่มที่กินอาหารรสเผ็ดอยู่แล้ว แต่ท่านประธานเหมากินเผ็ดชนิดเคี้ยวพริกสดเป็นเม็ดๆ อย่างหน้าตาเฉย และการเคี้ยวพริกสดแบบนี้ก็เคยพาท่านออกจากสถานการณ์อึดอัดบางอย่าง ดังเรื่องเล่าต่อไปนี้ 

เหมาเจ๋อตง
เหมาเจ๋อตง

ปี 1949 หมี่เกาหยาง (ออกเสียงตามตัวอักษรจีน 米高扬) เดินทางไปเยือนเอี๋ยนอาน ในงานเลี้ยงต้อนรับตัวแทนจากโซเวียตรัสเซียผู้นี้คารวะสุรากับท่านประธานเหมาครั้งแล้วครั้งเล่า ราวกับว่าอยากจะพิสูจน์ว่าใครจะคอแข็งกว่ากัน เพื่อไม่ให้เกิดความขุ่นข้องหมองใจระหว่างมิตร และเพื่อไม่ให้ทำอะไรพลั้งพลาดจากการดื่มสุรา ท่านประธานเหมาคิดอุบายที่จะเลี่ยงการดื่มเหล้า จึงพูดกับหมี่เกาหยางว่า คนจีนมีคำพูดพื้นบ้านว่า “ดื่มเหล้าแรง กินพริกเผ็ด” คนหูหนานมีประเพณีอย่างหนึ่ง คือ ดื่มสุราต้องกินเผ็ด วันนี้เราดื่มสุรา 1 จอก ต้องกินพริก 1 เม็ด ใครกินไม่ไหว ถือเป็นแพ้ 

และแล้วทั้ง 2 ฝ่ายก็เปิดศึกการดื่มเหล้าแกล้มพริกสดกัน ประธานเหมานั้นสบายมาก ยิ่งเผ็ดยิ่งชอบ เพราะปกติก็เคี้ยวพริกเวลากินข้าวอยู่แล้ว แต่ท่านผู้แทนฝ่ายรัสเซีย ดื่มไป 2 จอก เคี้ยวพริกไป 2 เม็ด ก็หน้าแดง หูแดง ด้วยความเผ็ดร้อนของพริก ท่านประธานเหมาเลยฉวยโอกาสรินสุราจอกใหม่ แล้วหยอกว่า “ท่านดื่มไม่ไหวแล้วหรือ เอางี้ก็ได้ ผมดื่มจอกนี้แทน คุณเคี้ยวพริก 1 เม็ด” หมี่เกาหยางหลงกลท่านประธานเหมา รีบพูดว่า “ผมดื่มเหล้า ท่านประธานเคี้ยวพริกก็แล้วกัน” ดังนั้น การแข่งดื่มสุราจึงเปลี่ยนกติกาใหม่ ฝ่ายรัสเซียดื่มสุรา ท่านประธานเหมาเคี้ยวพริก, 1 จอกต่อพริก 1 เม็ด ตอนงานเลี้ยงเลิก ท่านผู้แทนฝ่ายโซเวียตรัสเซียเป็นฝ่ายเมาเพียบ 

ครั้งหนึ่งเหมาเจ๋อตงจัดเลี้ยงสุราเผิงเต๋อฮว๋าย 彭德怀 ผู้บัญชาการสูงสุดกองทหารอาสาสมัครและคณะกรรมการการเมือง ที่บ้านพัก อาหารมีผัดมะระกับเนื้อรมควัน ปลาเปรี้ยวหวาน และอาหารง่ายๆ ในบ้านอีกนิดหน่อยหลังจากดื่มสุรากันไปได้หลายจอก เหมาเจ๋อตงก็พูดถึงความตั้งใจของเหมาอ้านอิง 毛岸英 บุตรชายของเขา ว่าอยากอาสาไปรบที่เกาหลีเหนือ สงครามครั้งนั้นจีนรบช่วยฝ่ายเกาหลีเหนือในสงครามต่อต้านอเมริกา 

ท่านประธานเหมาพูดว่า “ช่วยเกาหลีเหนือต่อต้านอเมริกาเป็นมติรวมหมู่ของสหายกรมการเมือง ลูกชายผมสมัครเป็นทหารอาสาสมัครด้วยการตัดสินใจของเขาเอง เขาขอให้ผมเซ็นต์อนุมัติ แต่ผมไม่ได้มีอำนาจอันนี้หรอกนะ! คุณเป็นผู้บัญชาการ คุณลองดูนะว่าจะรับพลทหารคนนี้เอาไว้ไหม ?เผิงเต๋อฮว๋ายเห็นว่าเหมาอ้านอิงมีจิตใจเร่าร้อนที่จะเข้าร่วมในกองทัพ และเห็นว่าเหมาเจ๋อตงเองก็สนับสนุน จึงตอบรับว่ายินดีให้เหมาอ้านอิงเข้าร่วมในกองทัพ

งานเลี้ยงวันนั้นเหมาเจ๋อตงมีความสุขมาก คารวะสุราต่อเผิงเต๋อฮว๋าย และดื่มสุราต่อเนื่องหลายจอก แท้จริงแล้วท่านประธานเหมาดื่มสุราได้ เพียงแต่ท่านพยายามหลีกเลี่ยงการดื่ม เพราะเกรงจะทำความผิดพลาดต่อภาระหน้าที่ที่รับผิดชอบนั่นเอง! 

กับสุรา