ส่งท้ายปีเก่าต้อนรับปีใหม่ด้วยรถกระบะตัวเก่งจากแดนปลาดิบอย่าง Nissan NP300 NAVARA ก่อนที่ปีหน้าตลาดรถกระบะในบ้านเราจะต้องตอนรับรถกระบะโมเดลใหม่ๆ อีก 2 รุ่นเป็นอย่างน้อย เรียกได้ว่าปีหน้าที่จะถึงนี้ เป็นสงครามรถกระบะ
เชิงพาณิชย์เลยก็ว่าได้

All New Nissan NP300 NAVARA เน้นการออกแบบตัวถังภายนอกให้ดูโฉบเฉี่ยวทันสมัย แต่ยังคงไว้ซึ่ง DNA ของนิสสันอย่างเต็มเปี่ยม ด้วยตัวถังที่บึกบึน ใหญ่โต และแข็งแกร่ง กระจังหน้าที่โดดเด่น รับกับไฟหน้าโปรเจ็กเตอร์ พร้อมไฟขับขี่ในตอนกลางวันที่ใช้หลอด LED และซุ้มล้อขนาดใหญ่รับกับชุดล้อแม็กขนาด 18 นิ้ว เน้นภาพลักษณ์ที่ทรงพลัง ขับไปที่ไหนก็ดูแตกต่างจากกระบะธรรมดาๆ อย่างเห็นได้ชัด

ห้องโดยสารหรูหราสไตล์เก๋ง โดยใช้วัสดุคุณภาพดี พร้อมอัดฟังก์ชันที่เทียบเท่ารถยนต์ระดับหรู ลืมความรู้สึกของกระบะรุ่นเก่าๆ ไปได้เลย มีระบบ Push Start พร้อมกุญแจรีโมท หน้าจอแสดงข้อมูลการขับขี่แบบสี 3 มิติ ขนาด 5 นิ้ว ช่องแอร์สำหรับผู้โดยสารตอนหลังในรุ่น 4 ประตู และระบบแอร์อัตโนมัติแยกปรับอิสระ ซ้าย-ขวา เบาะนั่งแบบ Spinal Support พร้อมระบบปรับไฟฟ้า 8 ทิศทาง ให้ความสบายกับผู้ขับขี่ ไม่เมื่อยล้าแม้ต้องขับทางไกล นอกจากนี้ ยังครบครันด้วยสิ่งอำนวยความสะดวกอีกมากมาย เช่นพวงมาลัยมัลติฟังก์ชัน พร้อมปุ่มควบคุมเครื่องเสียง และควบคุมระบบ Cruise Control  เครื่องเล่นDVD พร้อมหน้าจอสัมผัสขนาด 7 นิ้ว ระบบนำทางเนวิเกเตอร์ กล้องมองหลัง ช่องเสียบ USB กระจกมองหลังปรับลดแสงสะท้อนอัตโนมัติพร้อมเข็มทิศดิจิตอล เป็นต้น

การทดสอบในครั้งนี้แบ่งเป็นสองช่วงด้วยกัน โดยทั้งสองช่วง ทางทีมงานต่างชาติของทางนิสสันได้เซ็ตเส้นทาง ทั้งออนโรด และออฟโรด โดยช่วงเช้าเป็นการวิ่งใช้งานในเมืองทั่วไป โดยใช้เอ็นพี 300 นาวารา เกียร์อัตโนมัติ 7 สปีด ขับเคลื่อน 2 ล้อ เครื่องยนต์ดีเซล คอมมอนเรล 2.5 ลิตร ใหม่ 4 สูบ แถวเรียง DOHC 16 วาล์ว VGS เทอร์โบแปรผัน ให้พลังแรงสุด163 แรงม้าที่ 3,600 รอบ/นาที ให้ความคล่องตัวสูง ขับง่ายกว่ารุ่นเก่า เนื่องด้วยวงเลี้ยวที่แคบกว่าเดิม การบังคับควบคุมจึงง่ายดาย สามารถขับขี่ได้อย่างสบาย แม้ตัวถังจะใหญ่โตกว่าชาวบ้านก็ตาม ส่วนด้านอัตราเร่งก็ถือว่าทำได้ดีเร็วทีเดียว 

เครื่องยนต์ 163 แรงม้าทำงานผสานกับเกียร์อัตโนมัติ 7 สปีดได้อย่างลงตัวและลื่นไหลนุ่มนวล ช่วงล่างแน่นหนึบดีกว่ารุ่นก่อนหน้าที่แข็งกระด้างมาก สามารถดูดซับแรงสะเทือน จากถนนที่เป็นหลุมบ่อได้ดีนุ่มนวลกว่าเดิมมาก ส่วนการเก็บเสียงรบกวนจากภายนอกก็เช่นกัน ทำได้ดีกว่ารุ่นก่อนเยอะ เผลอๆ จะดีกว่ารถเก๋งบางรุ่นบางยี่ห้อเลยก็เป็นได้

ช่วงบ่ายเป็นการทดสอบบนเส้นทางออฟโรด โดยช่วงนี้ขยับขึ้นมาเป็นตัวท็อปสุดของเกียร์ธรรมดา 6 สปีด เครื่องยนต์ดีเซลเหมือนเดิมแต่ให้พลังแรงม้ามากขึ้นถึง 190 แรงม้าที่ 3,600 รอบ/นาที ขับเคลื่อน 4 ล้อแบบ Shift-on-the-fly ปรับเปลี่ยนได้ในขณะขับ สามารถปรับเปลี่ยนจากขับ 2 เป็นขับ 4 ได้อย่างง่ายดาย นอกจากนี้ยังมั่นใจได้ด้วยระบบควบคุมเสถียรภาพการทรงตัว VDC ระบบช่วยการออกตัวขณะอยู่บนทางลาดชันหรือ Hill Start Assist และระบบช่วยควบคุมความเร็วขณะลงทางลาดชันหรือ Hill Descent Control ทำให้การขับขี่ในช่วงบ่าย เป็นไปอย่างง่ายดาย แม้เส้นทางจะเป็นทางธรรมชาติ ซึ่งค่อนข้างจะเป็นหลุมบ่อ มีทั้งหินลอย ขี้โคลน ทางขึ้นเขา ลงเขา แถมด้วยฝนที่ตกลงมาซ้ำอีก เลยทำให้เส้นทางดังกล่าวโหดขึ้นอีกหลายเท่าตัว แต่ด้วยสมรรถนะของ NP300 NAVARA ทำให้การขับบนเส้นทางดังกล่าว ง่ายดายขึ้นเยอะ

ด้วยเครื่องยนต์มีพละกำลังเหลือเฟือจึงทำให้ผ่านอุปสรรคต่างๆ ไปได้อย่างไม่ยากเย็นนัก แต่จะมีบางช่วงเกียร์ 2 ดูจะไม่ค่อยมีแรงเท่าไหร่ จึงทำให้ต้องเข้าเกียร์ 1 เพื่อเรียกกำลังกลับมา ซึ่งโดยรวมแล้วถือว่าทำได้ดีทีเดียวช่วงล่างดูดซับแรงกระแทกได้ดี แม้จะใช้งานอย่างหนัก ก็ไม่ได้แสดงอาการอะไรให้เสียความมั่นใจ

All New Nissan NP300 NAVARA คันนี้เรียกได้ว่าสร้างมาตรฐานใหม่ให้กับวงการรถกระบะเมืองไทยไปอีกขั้นเลยทีเดียว ด้วยรูปร่างหน้าตาที่โดดเด่น แข็งแกร่งเกินตัว และหรูหราเกินรถกระบะ แถมด้วยฟังก์ชันการใช้งานที่หลากหลาย จึงน่าจะครองใจสิงห์รถกระบะหัวใจเก๋งได้ไม่ยาก กับราคาเริ่มต้นที่ 575,000 - 996,000 บาทและมีถึง 18 รุ่นย่อยให้เลือกกัน ถือเป็นตัวเลือกที่น่าสนใจที่เดียวครับ 

Trick & Tip 

ซื้อยางอย่างไร ไม่ให้ถูกโกง

การเปลี่ยนยางใหม่ไม่ใช่เรื่องยาก แต่สิ่งที่ควรดูนอกเหนือจากการดูยี่ห้อ และดอกยาง นั่นคือปีการผลิตของยางเส้นนั้นๆ ซึ่งส่วนมากจะเป็นกลุ่มตัวเลขอยู่ 4 ตัวด้วยกัน 2 ตัวหน้าบอกสัปดาห์ของปี 2 ตัวหลังบอกปีที่ผลิต ซึ่งไม่ควรเกิน
1 ปีครึ่ง ถึง 2 ปีนะครับ 

 

Nissan NP300 NAVARA แข็งนอก อ่อนใน