สุรพจน์ เค้าอ้น

สุรพจน์ เค้าอ้น

ในเล่มส่งท้ายปีเก่าต้อนรับปีใหม่นี้ เราได้มีโอกาสพูดคุยกับผู้อยู่เบื้องหลังเหล่านักพากย์กีฬาและรายการเรียลลิตี้ของทรูวิชั่นส์ ซึ่งคุณตั้ม - พรรษิษฐ์ แนะนำให้เราได้มาพบกับเขาคนนี้ คุณพจน์ – สุรพจน์ เค้าอ้น ผู้จัดการฝ่ายรายการกีฬาและเรียลลิตี้  และ MiX MAGAZINE เป็นนิตยสารเล่มแรกที่เขา ... เปิดใจให้สัมภาษณ์ 

รู้จักกับตั้ม - พรรษิษฐ์ได้อย่างไร

รู้จักกันเพราะการทำงาน ตั้มเป็นผู้บรรยายกีฬาของทรูวิชั่นส์แล้วผมเป็นคนดูแลผู้บรรยายทั้งหมดว่ารายการไหนจะให้ใครบรรยายหรือใครบรรยายกีฬาอะไร ก็เลยรู้จักกันกับเขาเพราะผมเป็นคนดูรายการกีฬา หมดเรื่องงานก็เพื่อนพี่น้องกัน

คิดว่าเพราะอะไรคุณตั้มถึงส่งต่อมาให้เราได้พูดคุยกัน

คงจะเป็นเพราะว่าผมกับตั้ม เราสนิทกัน หรืออาจเป็นเพราะเราคุยกันถูกคอ เขาก็เลยแนะนำให้เราได้พูดคุยกัน 

เพราะอะไรถึงไม่เคยให้สัมภาษณ์ที่ไหนมาก่อน

ปกติไม่เคยให้ใครเลยนะ มีหนังสือมาติดต่อก็ไม่เคยให้ ขนาดช่องรายการของทรูวิชั่นส์ผมก็ยังไม่เคยให้สัมภาษณ์เลย คือผมทำงานหลังกล้องมาจนชินจะให้ไปอยู่หน้ากล้อง มันทำไม่ได้เลย มันเขิน 

พูดถึงงานโดยบทบาทหน้าที่คุณต้องดูแลอะไรบ้าง

โดยบทบาทผมเป็นผู้ดูแลการผลิตรายการกีฬาและเรียลลิตี้ทั้งหมด 

มาทำงานด้านนี้ได้อย่างไร

จริงๆ แล้วผมไม่ได้เรียนด้านนิเทศศาสตร์มา ผมจบช่างกล ตอนจบมาใหม่ๆ มีโอกาสได้มาช่วยงานเพื่อนในกองถ่าย ทำไปทำมาก็ชอบ เลยขอเขาทำงาน จากนั้นก็ทำต่อมาเรื่อย ตั้งแต่เป็นผู้ช่วยจนได้เป็นช่างภาพ จากช่างภาพก็ได้มาเป็นช่างตัดต่อ จนได้เป็นผู้กำกับ แรกๆ เลยทำกับบริษัทที่เป็น Production House แล้วก็ได้ไปทำที่แกรมมี่แล้วก็ย้ายไปทำบริษัทญี่ปุ่น จนมาอยู่ที่ UBC สมัยที่ยังเป็น IBC จากนั้นก็ทำต่อมาเรื่อยๆจนถึงยุค True Vision ในปัจจุบัน  

จากหนุ่มช่างกลมาเป็นคนสายนิเทศมีอุปสรรคอะไรไหม

ตอนแรกๆ เลยอุปสรรคคือเรื่องเทคโนโลยีพวกอุปกรณ์ต่างๆ ตอนเริ่มทำแรกๆ กดดันมาก เพราะเราไม่ได้จบมาทางด้านนี้โดยตรง คนที่จบมาก็จะได้เปรียบกว่า แต่อาศัยว่าเราชอบ ก็ศึกษาหาความรู้เอง ไปหาหนังสือมาอ่าน ตอนทำงานเราก็สังเกตการทำงานของคนอื่น ถามเขาบ้าง ครูพักลักจำบ้าง และก็อ่านหนังสือการใช้งานอุปกรณ์ เก็บเกี่ยวความรู้มาเรื่อย ทั้งหมดที่ทำด้วยใจรักทั้งนั้น เรียนจบช่างกลไฟฟ้ามายังไม่ได้ใช้เลย (หัวเราะ)

ระหว่างดูแลรายการกีฬากับเรียลลิตี้ชอบงานไหนมากกว่ากัน

ชอบทั้งสองงานนะ แต่เรียลลิตี้มันสนุกและมันก็ยากตรงที่รายการหนึ่งมีกล้องเกือบร้อยตัว ผมก็จะกำกับควบคุมดูแล อย่างบ้าน AF รอบบ้านมีแต่ทีมงานทั้งนั้นเลย มีกล้องเกือบทุกจุด อย่างผมคุมคอนเสิร์ตทีมงานก็เกือบสามร้อยคน แต่ถ่ายกีฬาผมควบคุมการวางกล้อง ดูแลการออกอากาศ มันสนุกต่างกัน ความยากไม่เหมือนกัน

แล้วการถ่ายทอดกีฬาในอนาคตจะมีการพัฒนาอย่างไร

มีแน่นอน เดี๋ยวรอดูการแข่งขันปิงปองที่หัวหมากเราจะมี Super Slow Motion อย่างฟุตบอลเราก็เคยใช้แต่ว่าราคามันสูงมาก ซื้อตัวนึง 30 - 40 ล้านบาท หนึ่งสนามใช้ตั้งหลายจุด วันหนึ่งแข่งหลายสนาม ตอนนี้เลยยังไม่มี แต่ในอนาคตเราต้องมีใช้แน่นอนต้องพัฒนาให้ใกล้เคียงกับต่างประเทศ

คิดว่าในปีหน้าจะมีอะไรให้เราติดตามบ้าง

เดี๋ยวเราจะมีโปรเจ็กต์ใหม่ เป็นรายการเรียลลิตี้ลูกทุ่ง คล้ายๆ บ้าน AF มีการเข้าบ้านคัดออก มีกติกาคล้ายๆ กันแต่เรื่องกฎเกณฑ์อาจจะมีการเปลี่ยนแปลง เดี๋ยวต้องรอดูในเดือนมกราคม จะมาแทนรายการ The Comedian เป็นรายการเรียลลิตี้เอาใจคอลูกทุ่ง ต้องติดตามนะครับ 

 

ผู้จัดการฝ่ายรายการกีฬาและเรียลลิตี้