วิทิตนันท์ โรจนพานิช

วิทิตนันท์ โรจนพานิช

“ถ้าผมไม่ได้ทำงานหรือไม่ได้ทำอะไร จะรู้สึกหงุดหงิดมาก ต้องหาอะไรทำ อยู่เฉยๆ ไม่ได้ ตอนนี้ทำงาน 7 วันมาสิบกว่าปีแล้วครับ ไม่เคยหยุดเสาร์อาทิตย์” บทสนทนาของเรากับเขาเริ่มต้นขึ้นแบบนั้น

ในด้านหนึ่งเรารู้จักเขาดีจากข่าวโด่งดังในฐานะที่เป็นคนไทยคนแรกที่ปีนยอดเขาเอเวอร์เรสต์ ประเทศเนปาลได้สำเร็จ เมื่อวันที่22 พฤษภาคม พ.ศ.2551 ร่วมกับนักปีนเขาชาวเวียดนาม 3 คน แต่ในอีกด้านหนึ่ง น้อยคนที่จะรู้ว่าเขามีอาชีพเป็นครีเอทีฟรายการโทรทัศน์ ผู้กำกับภาพยนตร์ นักเขียน นักเขียนบท นักแสดง นักถ่ายภาพ และอาจารย์สอนศิลปะการแสดง จึงจัดได้ว่าเขาเป็นคนทำงานได้หลากหลาย แถมผลงานยังออกมาดีอีกต่างหาก

“สิ่งที่ผมทำมันเกิดมาจากความรักตั้งแต่สมัยมัธยม ผมไม่ค่อยเรียนหนังสือหรอก โดดเรียนเพื่อไปทำกิจกรรมตลอด ผมทำกิจกรรมเยอะ เป็นประธานสี สมัครประธานนักเรียน คิดว่าถ้าเป็นประธานนักเรียนก็คงไม่ต้องเรียนหนังสือเพราะมีกิจกรรมเยอะ”

“ผมชื่นชอบละครเวทีมากก็เลยเข้าไปในกลุ่มคณะละครมะขามป้อม ตั้งแต่ละครมะขามป้อมเพิ่งเปิดในยุคแรกๆ เลย ทำให้มีประสบการณ์กลับมามาก หลังจากนั้นก็ได้อย่างอื่นตามมา ทั้งการแสดง การเขียนบท การถ่ายภาพ เรียกว่าผมมีประสบการณ์จริงมาตั้งแต่ยังเรียนไม่จบ จึงถือว่าได้เปรียบคนอื่นพอสมควร

“พอมาอยู่มหาวิทยาลัย ผมก็เปิดบริษัทร่วมกับเพื่อนๆ เลยครับ คือคิดจะจัดการแสดงไปเล่นที่ต่างประเทศ เพราะที่ต่างประเทศเขามีเทศกาลละครเยอะ พอมีโอกาสได้ไปสัมผัสก็คิดจะเอารำไทย เอาโขนไปแสดงบ้าง เพราะผมชอบดู คิดว่ามันเจ๋งมาก แต่เพราะตอนนั้นเรายังเด็ก มีแต่ไอเดีย ไม่มีสปอนเซอร์ ก็เลยเจ๊งครับ (หัวเราะ)”

การได้สั่งสมประสบการณ์ลองผิดลองถูกนั่นเองที่ทำให้เขามีความเชี่ยวชาญเรื่องของศิลปะแสดงละคร การเขียนบท ปัจจุบันเขาจึงตกผลึกทางความคิด จนนำความรู้เหล่านี้มามาเผยแพร่และกลายเป็นอาจารย์สอนศิลปะการแสดงที่มีลูกศิษย์ในวงการบันเทิงมากมาย

“ที่ผมเป็นแบบนี้ได้เก็พราะมาจากตัวเองไปเรียนละครก่อน ทำให้เกิดความรักในงานศิลปะ จากนั้นก็ได้มาวาดรูป ได้เล่นละครแล้วก็เริ่มเขียนบท แล้วจึงได้สอนการแสดงอิสระ ทุกวันนี้การสอนการแสดงก็คือการสอนวิธีคิด Attitude Performer ในเรื่องเทคนิคหมดเลย เทคนิคในการ Act as Singer นักร้องลูกทุ่ง หรือดาราที่แสดงละคร ส่วนจะมาเรียนกับผม 70% ของนักแสดงเมืองไทยรู้จักผมหมด เพราะผมสอนการแสดงมาเกือบ 20 ปีแล้ว” 

เราถามเขาถึงงานที่เขายกให้เป็นมาสเตอร์พีซของชีวิต เขาเลือกรายการ “สุดฟ้า ท้าโลก” ซึ่งจัดขึ้นในโอกาสมหามงคลเฉลิมพระชนมพรรษาครบ 84 พรรษาของพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัวฯ โดยมีเป้าหมายที่จะอัญเชิญพระบรมฉายาลักษณ์ไปสถิตเหนือจุดสูงสุดของยอดเขาที่สูงที่สุดของแต่ละทวีป รวม 7 ทวีป เป็นรายการที่จะเสนอการผจญภัย โดยมีตัวเขาและทีมงานฝ่าฟันอุปสรรคความหนาวเหน็บและเหนื่อยล้า เพื่อพิชิตยอดเขาทั้งเจ็ด

“มันเหมือนการบุกป่าฝ่าดงไปปีน 7 ยอดที่สูงที่สุดใน 7 ทวีป ก็มี เอเวอร์เรส (Everest) ที่สูงที่สุดในเอเชีย ซึ่งผมไปมาแล้วยอดที่สองคือ อาคอนคากัว (Aconcagua) สูงที่สุดในอเมริกาใต้ ที่อาร์เจนติน่า ยอดที่สามเดนาลี (Denali) สูงที่สุดในอเมริกาเหนือ อยู่ที่อลาสกา ยอดที่สี่ คาเซนปิรามิด (Carstensz Pyramid) สูงที่สุดในทวีปออสเตรเลียและโอเชียนเนีย 
อยู่ที่ west papua อินโดนีเซีย ยอดที่ห้า เอลบรุส (Elbus) สูงที่สุดในทวีปยุโรป อยู่ที่รัสเซีย ยอดที่หก คิริมันจาโร(Kilimanjaro) สูงที่สุดในแอฟริกา อยู่ที่แทนซาเนีย และลูกสุดท้าย Vinson Massif อยู่ที่แอนตาร์กติก้าหรือขั้วโลกใต้ครับ

“รายการนี้เราทำขึ้นเพื่อเฉลิมพระเกียรติพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว 7 รอบ ซึ่งยังไม่มีใครเคยมีใครทำแบบนี้มาก่อน ผมอยากประกาศให้โลกรู้ว่าพระมหากรุณาธิคุณของพระองค์ท่านปกแผ่ไพศาลไปทั่วทั้ง 7 ทวีป นี่คือความฝันของผมที่เป็นจริงครับ”

เรานัดหมายกับคุณหนึ่ง วิทิตนันท์ โรจนพานิช