เดนิส เจลีลชา คัปปุน เผยเสน่ห์ความสวยในแบบฉบับลูกครึ่งอีสาน – อเมริกัน สะท้อนอินเนอร์ผ่านธีม ‘Dimensions of Believe มิติแห่งความศรัทธา’
เสน่ห์ในแบบฉบับลูกครึ่งอีสาน – อเมริกัน สะท้อนมิติแห่งตัวตนของ ‘เดนิส เจลีลชา คัปปุน’ เอาไว้ได้อย่างน่าสนใจ เธอคนนี้คือนักแสดงสาวผู้แจ้งเกิดจากภาพยนตร์ Horror แห่งยุคอย่าง ‘ธี่หยด’ ตามมาด้วยละครดังอย่าง ‘อีบัวกับไอ้ขวัญ’ อันสุดจะฮอตฮิตและโดดเด่น จน MiX ต้องพาตัวมาขึ้นปก Cover Fashion ฉบับที่ 205 พร้อมนั่งสัมภาษณ์เธอต่ออย่างเป็นกันเอง กระทั่งสัมผัสได้ถึงความสดใสจริงใจในทุก ๆ น้ำเสียง

อาชีพในฝันของ ‘เดนิส เจลีลชา’
หนูเริ่มต้นจากการเป็นเด็กแคสโฆษณาตอนอายุประมาณ 10 ขวบค่ะ ทำมาเรื่อย ๆ จนอายุ 14 ปีถึงไปแคสเข้าช่อง 3 และได้เริ่มเล่นละคร จริง ๆ มีความคิดอยากจะเป็นนักแสดงตั้งแต่อยู่ประถมแล้ว มันเป็นอาชีพที่อยากทำเลยมุ่งเป้าไปยังสิ่งนี้สิ่งเดียว เพราะตอนเด็กหนูชอบพี่ใหม่ ดาวิกามาก ๆ เขาคือคนที่สร้างแรงบันดาลใจทำให้อยากเป็นนักแสดง ส่วนตอนนี้อีกคนที่รู้สึกชื่นชมการแสดงของเขาไม่แพ้กันคือพี่ญาญ่า อุรัสยาค่ะ (ยิ้ม)

‘หยาด’ แห่งจักรวาล ‘ธี่หยด’
‘ธี่หยด’ คือโปรเจกต์ที่ทางช่อง 3 กำลังจะทำ หนูเลยขอไปแคสเรื่องนี้เองเพราะอยากเล่นภาพยนตร์มาก ๆ มันเป็นอีกหนึ่งความฝันและคิดว่าครั้งนี้โอกาสมาถึงแล้ว หนูได้ไปแคสทั้ง 2 บทเลยคือ ‘หยาด’ กับ ‘แย้ม’ ซึ่งสุดท้ายพอได้บท ‘หยาด’ มาก็รู้สึกดีใจมาก ๆ ค่ะ เหมือนกับว่า Mission Complete ไปแล้วอย่างหนึ่ง
การแสดงในภาพยนตร์เรื่องนี้ ทำให้พัฒนาตัวเองขึ้นมาก ๆ ด้วยเพราะมันยากทุกอย่างค่ะ เริ่มจากภาคแรกที่หยาดเป็นเด็กม.ต้นอายุแค่ 15 – 16 ปีเลยต้องปรับตัวเยอะ ส่วนภาค 2 ตัวละครเขาเติบโต เรื่องราวมันจะมีมากขึ้นอย่างที่ทุกคนได้เห็นไป แต่พอมาภาค 3 หนูที่ยังไม่มีแฟนก็ต้องเล่นบทคนท้องแล้ว (หัวเราะ) ถือเป็นประสบการณ์ที่ยากมาก ๆ และตัวละครมันพัฒนาขึ้นตลอดเวลา ต้องทำการบ้านค่อนข้างเยอะ
จากจอละครสู่จอภาพยนตร์
ด้วยความที่หนูเล่นละครมาก่อน พอต้องมาเล่นภาพยนตร์เลยจะเห็นว่ามันต่างกันในเรื่องการทำงานที่เปลี่ยนไปค่ะ เราต้องปรับตัวเยอะ บทของหยาดเองก็ยากพอสมควร แล้วมันเป็นภาพยนตร์ Horror ซึ่งต้องเล่นกับความเชื่อและอะไรที่มองไม่เห็น ทำให้โดยรวมต้องทำการบ้านเยอะมากเพราะภาค 2 ภาค 3 ยิ่งยากขึ้นไปอีกเรื่อย ๆ
แล้วนักแสดงแต่ละคนจะมีเทคนิคในการเล่นไม่เหมือนกันนะคะ อย่างหนูเองรู้สึกว่าทั้งสองสิ่งนี้มันต้องใช้ความเข้าใจในตัวละคร บท ปูมหลัง แต่วิธีการเล่นมันต่างตรงที่ละครจะมีความโอเวอร์ขึ้นมานิดหนึ่งเพื่อให้เหมาะสมกับจอโทรทัศน์ ส่วนภาพยนตร์มันจอใหญ่มาก ๆ เราก็ต้องเล่นทุกอย่างให้ดูมีความธรรมชาติมากที่สุดค่ะ
เป้าหมายในวงการบันเทิง
จริง ๆ มีอีกหลายอย่างที่อยากลองค่ะ แต่ถ้าพูดถึงบทบาทที่รู้สึกชอบและอยากเล่นคงจะเป็นแนวบู๊ ๆ หน่อย เพราะหนูพอมีสกิลอยู่บ้างเลยคิดว่าน่าสนใจดี ส่วนในพาร์ตของนักแสดงก็คิดว่าคงจะทำหน้าที่นี้ต่อไปให้ดีขึ้นเรื่อย ๆ ไม่ได้ตั้งโกลอะไรยิ่งใหญ่มาก อีกอย่างเพราะกำลังเรียนฟิล์มด้วยเลยอยากทำงานทั้งเบื้องหน้าและเบื้องหลังค่ะ อยากจะลองทำหนังเกี่ยวกับชีวิต เล่าเรื่องที่มันเสียดสีสังคมหรือสะท้อนอะไรบางอย่าง เพราะส่วนตัวเป็นคนชอบดูหนังประมาณนี้ทำให้อยากโชว์มุมมองของเราดูบ้าง
วัยเด็กของลูกครึ่งอีสาน – อเมริกัน
หนูอยู่กับแม่และยายที่จังหวัดอุดรธานี ทำให้ตอนเด็ก ๆ แม้จะเป็นลูกครึ่งแต่พูดภาษาอังกฤษไม่ได้เลย พูดได้แค่ภาษาอีสานจากความที่คลุกคลีกับมันมาตลอด แล้วก็มีเพื่อนผู้ชายเยอะด้วยเลยค่อนข้างจะห้าวค่ะ แต่โดยรวมถือว่าได้ใช้ชีวิตแบบเด็กทั่ว ๆ ไปนะ
‘เดนิส’ กับครอบครัวสายซัป
คุณแม่ซัปพอร์ตหนูมาก ๆ ค่ะ เขาคือนักซัปพอร์ตตัวจริง รู้สึกว่าตัวเองมาได้ไกลขนาดนี้เป็นเพราะคุณแม่ที่ไม่เคยขัดความเชื่อและเป้าหมายของเราเลยสักครั้ง ส่วนคุณพ่อช่วงแรก ๆ เขาค่อนข้างจริงจังเรื่องเรียนมาก เพราะกลัวว่ามาทำงานในวงการบันเทิงแล้วจะทิ้งมันไป แต่เราสัญญาเอาไว้ว่าไม่ทิ้งแน่นอน ทำให้ปัจจุบันนี้คุณพ่อและคุณแม่ต่างก็ซัปพอร์ตทั้งคู่แล้วค่ะ (ยิ้ม)

มิติแห่งความศรัทธาที่มีต่อ ‘ปู่พญานาค’
ไม่ได้ลบหลู่นะคะ ส่วนตัวหนูเป็นคนไม่กลัวผีและไม่กลัวความมืดเลย จะว่าเชื่อไหมก็ไม่รู้เพราะไม่เคยเจอ แต่คุณแม่กลัวมาก ๆ เลยคิดว่าอาจจะมีจริงแค่ไม่เคยเห็นหรือเปล่า อีกอย่างหนูเองเป็นสายมูตั้งแต่ลืมตาดูโลก ด้วยความที่คุณแม่พาไหว้ปู่พญานาคและเข้าวัดทำบุญบ่อยมาก ๆ ทำให้จนถึงทุกวันนี้ก็ยังรู้สึกว่ามันเป็นความสบายใจอย่างหนึ่งสำหรับตัวเราเหมือนกัน
ส่วนช่วงที่รู้สึกว่ามันมีผลกับตัวเองคงจะเป็นด้านการงานค่ะ เพราะตอนนั้นเพิ่งเข้าช่อง 3 แล้วมีละครเรื่องหนึ่งที่อยากเล่นมาก ๆ ซึ่งเราก็ไปแคสมาแต่ไม่รู้ว่าจะได้หรือเปล่าเลยขอพรกับปู่พญานาค พอขอเสร็จไม่ถึงชั่วโมง เขาโทรกลับมาว่าน้องได้เล่นเรื่องนี้นะ หลังจากนั้นหนูเลยรู้สึกว่าบูชาท่านแล้วสบายใจดี เหมือนเรา Manifest[1] มันไปในตัวด้วย
งานอดิเรกและกิจกรรมยามว่าง
ปกติเวลาว่างจะชอบดูภาพยนตร์ แล้วก็มีอ่านหนังสือหรือไปฟิตเนสบ้าง ล่าสุดเพิ่งหัดยิงธนูค่ะ เพราะตอนแรกรู้สึกว่าผู้หญิงที่ยิงธนูได้น่าจะเท่ดี อารมณ์แบบนางเอกในเรื่อง Hunger Games แต่พอไปลองจริงดันเอนจอยกับสิ่งนั้นมาก ๆ มันทำให้มีสมาธิและไม่ได้จับโทรศัพท์เลย เหมือนกับว่าเราได้อยู่แค่เฉพาะตรงนั้นประมาณชั่วโมงสองชั่วโมง แถมได้ใช้เวลาอยู่กับตัวเองด้วย
Heargood: ช่องพอดแคสต์เติมเต็มความสุข
พอดแคสต์ไม่มีอะไรมากเลยค่ะ แค่เพื่อนสามคนนั่งคุยกันในหัวข้อสบาย ๆ และอยากให้คนดูได้นั่งฟังเราแบบจอย ๆ ส่วนจุดเริ่มต้นมันเกิดจากมีคนเคยพูดกับหนูว่าน่าจะไปทำพอดแคสต์เพราะเห็นพูดเก่ง หนูก็เลยชวนพี่ ๆ เขามาทำด้วยกันในหัวข้อ ‘เขาว่ากันว่า...’ ซึ่งเราอาจจะเอาอะไรตลก ๆ มานั่งคุยแบบมีสาระบ้างไม่มีสาระบ้าง แต่อยากให้คนดูแล้วมีรอยยิ้ม ตอนนี้เพิ่งทำได้ไม่นาน ทำกันเองหมดทุกอย่างไม่มีจ้างใครเลย ทุกคนลองไปดูกันได้นะคะที่ช่อง YouTube: Heargood
สำรวจความเป็นตัวเองในวัย 18 ปี
อย่างแรกรู้สึกว่าตัวเองเป็นคนที่อยากได้อะไรแล้วไม่ยอมแพ้ แต่จะทำจนกว่าจะได้สิ่งนั้นมา เพราะฉะนั้นคงชื่นชมในความพยายามของตัวเองแล้วกันค่ะ อย่างที่สองหนูชอบที่ตัวเองเป็นคนตั้งใจกับทุกอย่าง เพราะถ้าทำแล้วคิดว่ามันออกมาไม่ดีก็คงไม่ทำแต่แรก เมื่อทำแล้วต้องออกมาดีเท่านั้น และสุดท้ายคงชื่นชมที่ตัวเองมีความเข้าอกเข้าใจคนอื่นสูง เพราะรู้สึกว่าเราเป็นคนเข้าใจอะไรได้ง่าย ๆ ดีค่ะ
ตอนนี้หนูภูมิใจในตัวเองมาก ๆ นะ ส่องกระจกแล้วบอกตัวเองทุกวันว่ามันเป็นสิ่งที่ดีมากกับการที่เรามาได้ไกลขนาดนี้ทั้งที่อายุน้อยแถมยังเรียนไม่จบเลย แต่ก็คิดว่าสุดท้ายแล้วยังคงมีเป้าหมายอื่น ๆ รอให้ลองไปทำอีกเยอะแยะเหมือนกันค่ะ
ถ่ายแบบครั้งแรกกับ MiX MAGAZINE
รู้สึกดีใจและสนุกมาก ๆ เพราะส่วนตัวเป็นคนชอบถ่ายรูปอยู่แล้ว อีกอย่างพอทาง MiX บอกว่ามีคอนเซปต์ด้วย มันทำให้ได้ลองแต่งตัวในแบบที่ไม่เคยแต่งมาก่อนค่ะ เพราะฉะนั้นก็อยากจะฝาก MiX MAGAZINE ฉบับที่ 205 เอาไว้ด้วยนะคะ เราตั้งใจถ่ายกันมาก ๆ อยากให้ทุกคนได้มาดูและมาชมสิ่งสวยงามกัน (ยิ้ม)
[1] กฎแรงดึงดูด สิ่งที่คิดจะกลายเป็นจริง



