วุฒิแท้ VS วุฒิเทียม วิเคราะห์ปัญหา เสนอทางออกการศึกษาไทย
การปลอมแปลงวุฒิการศึกษาเกิดขึ้นมานานทั้งในประเทศและต่างประเทศล่าสุดต้นปี พ.ศ.2567 ที่ผ่านมา “ตำรวจไซเบอร์” ได้บุกทลาย 2 เครือข่ายเปิดรับทำวุฒิการศึกษาปลอมส่งขายออนไลน์ผ่านทางโซเชียลปรากฏว่ามีสถาบันการศึกษาชื่อดังทั้งรัฐและเอกชนถูกปลอมวุฒิการศึกษาเป็นจำนวนมาก
แม้การปลอมแปลงวุฒิการศึกษาหรือเอกสารใช้เพื่อศึกษาหรือสมัครงานเป็นความผิดทางอาญา แต่การกระทำดังกล่าวยังคงมีให้เห็นกันทั่วไปในสังคมไทยโดยเฉพาะอย่างยิ่งในสถาบันการศึกษาเอกชน
ในต่างประเทศประสบปัญหาดังกล่าวนี้เช่นเดียวกันเช่น สหราชอาณาจักร สหรัฐอเมริกา เป็นต้น กลวิธีที่ใช้มีหลากหลายรูปแบบ ตั้งแต่ระดับปริญญาตรี ปริญญาโทจนถึงปริญญาเอก
ผมวิเคราะห์แรงจูงใจสำคัญของการปลอมแปลงวุฒิการศึกษาว่ามีดังนี้
1.ใช้สมัครงาน เป็นสาเหตุสำคัญ สังคมแห่งการแข่งขันทำให้งานดีมีจำนวนไม่มากนัก ต้องแก่งแย่งกันเพื่อให้ได้รับเข้าทำงาน
2.ใช้ทางธุรกิจ เพิ่มความน่าเชื่อถือ ทำให้เกิดการยอมรับ เป็นประโยชน์ต่อการสร้างเครือข่ายและการทำธุรกิจ
3.ใช้ทางการเมือง สภาพสังคมที่เปลี่ยนแปลงไป การหาเสียงกับกลุ่มคนรุ่นใหม่นิยมคนมีความรู้ความสามารถ การมีโปรไฟล์เป็นที่ยอมรับเป็นสิ่งสำคัญ
การปลอมแปลงวุฒิการศึกษาส่งผลกระทบทั้งต่อระดับปัจเจกบุคคลสถาบันการศึกษา หน่วยงาน/องค์กร และประเทศชาติ ดังนี้
1.ผลกระทบต่อประเทศชาติ เป็นการฉ้อโกงหลอกลวงผู้อื่น ผิดกฎหมาย สร้างความเสียหายแก่สังคมส่วนรวม เช่น ขาดความรู้ความสามารถทำให้ตัดสินใจผิด ทำผิด แก้ปัญหาผิดวิธี ให้คำแนะนำไม่ถูกต้อง เป็นต้น
2.ผลกระทบต่อหน่วยงาน/องค์กร ได้คนไม่มีคุณภาพเข้าทำงาน ขาดความรู้ความสามารถ ไม่สามารถทำงานได้จริง เสียโอกาสได้คนมีคุณภาพ
3.ผลกระทบต่อสถาบันการศึกษา เสียชื่อเสียง ถูกเข้าใจผิดว่าผลิตบุคลากรไม่มีคุณภาพ กรณีให้วุฒิปลอม ลดความน่าเชื่อถือของสถาบันฯ
4.ผลกระทบต่อปัจเจกบุคคล “ทำดีไม่ได้ดี” คนเรียน ไม่มีงานทำ คนไม่ได้เรียน ได้ทำงาน เพราะการเห็นแก่ประโยชน์ส่วนตนของบางบุคคล
การปลอมแปลงวุฒิการศึกษาเป็นเพียงตัวอย่างหนึ่งที่สะท้อน “การไร้คุณภาพ” ของการศึกษาไทย ผมคิดว่า ปัญหาแท้จริงคือ “คุณภาพ” วุฒิแท้ในความหมายของผมคือ “มีคุณภาพ” และวุฒิเทียมคือ “ไร้คุณภาพ”
สถาบันการศึกษาทุกระดับมีหน้าที่ให้ความรู้ถึงระดับที่ยอมรับได้ และตีเส้นมาตรฐานการสอบและการให้คุณวุฒิการศึกษาที่วัดได้จริง เพื่อช่วยลดต้นทุนและเวลาของสังคมในการตรวจสอบ เป็นประโยชน์ต่อ หน่วยงาน องค์กร ในการคัดเลือกบุคลากรเข้าศึกษาต่อและเข้าทำงาน
ในระดับมหาวิทยาลัย ทุกมหาวิทยาลัยมีปัญหาไร้คุณภาพมิได้ทำหน้าที่ของตนเองอย่างแท้จริง คือการเป็นหน่วยงานเชี่ยวชาญพิเศษที่ให้ความรู้จากงานวิจัยของตนเองและของผู้อื่นสะสมมา ฝึกฝนสร้างผู้เรียนให้มีคุณภาพ ปริญญาตรีช่วยผู้เรียนถึงชายแดนความรู้เร็วสุด ปริญญาโทฝึกหัดทำวิจัยจนทำเป็นและปริญญาเอกทำวิจัยเป็น
ข้อเสนอทางออกของปัญหา วุฒิแท้ VS วุฒิเทียม
ผมขอเสนอทางออกเชิงสร้างสรรค์ ดังนี้
1.สร้างดัชนีวัดคุณภาพปริญญา ทำการจัดอันดับ (raking)และการจัดลำดับ (rating) มหาวิทยาลัยมีหน่วยงานกลางสร้างดัชนีวัดคุณภาพปริญญา
2.มีข้อสอบกลางทำให้เป็นมาตรฐาน วัดความรู้จริงของผู้เรียนได้อย่างถูกต้อง แม่นยำ
3.สอบวิทยานิพนธ์เปิดให้สาธารณะร่วมฟัง ทำให้เกิดบรรยากาศโปร่งใสตรวจสอบได้ ทั้งระดับปริญญาโทและปริญญาเอก
4.สร้างระบบรับผิดชอบร่วม ให้คุณให้โทษกับบุคคลที่เกี่ยวข้อง เช่น อจ. ที่ปรึกษาร่วมรับผิดชอบด้วย เป็นต้น
5.ส่งเสริมมีอุดมการณ์ในการเรียน เรียนอย่างมีเป้าหมาย นำความรู้ความสามารถมาใช้สร้างประโยชน์ให้แก่ประเทศชาติสังคมส่วนรวม
6.ทำระบบให้โปร่งใส ตรวจสอบได้ เปิดให้เข้าถึงข้อมูลผู้สำเร็จการศึกษาได้อย่างสะดวกรวดเร็วง่ายต่อการตรวจสอบ
7.ให้ความรู้ความเข้าใจแก่ประชาชน สามารถแยกแยะการปลอมแปลงวุฒิการศึกษา รวมถึงวิธีการสังเกตและมีหน่วยงานให้บริการตอบข้อสงสัย
8.เข้มงวดบังคับใช้กฎหมาย เอาจริงเอาจังจัดการแก้ปัญหาไม่ปล่อยคนผิด เพื่อเป็นแบบอย่างให้กับผู้อื่นและส่วนรวม
การปลอมแปลงวุฒิการศึกษามีมานานในสังคมไทยแต่ปัญหาแท้จริงของการศึกษาไทยคือ “การไร้คุณภาพ” ที่จำเป็นต้องได้รับการจัดการแก้ปัญหาอย่างจริงจัง
โดยศ.ดร.เกรียงศักดิ์ เจริญวงศ์ศักดิ์



