ไม่มีชัยชนะใด ๆ จะได้มาด้วยความบังเอิญเสมอไป นี่คือคำนิยามของแชมป์ Red Bull BC One Thailand อย่าง ‘Harry BlackRock’ หรือ ‘แฮร์รี่ ปัณณธร บุญรอด’ นักเต้น Breaking ชาวไทยที่น่าจับตามองสุด ๆ ในเวลานี้ พบกับบทสัมภาษณ์ที่จะพาเราไปสำรวจมิติแห่งแพสชันของเขา ตั้งแต่จุดเริ่มต้นจนถึงวันที่ได้แชมป์เวทีแข่งขันระดับโลกซึ่งเจ้าตัวใฝ่ฝันมาโดยตลอด ด้วยการตั้งเป้าหมายเอาไว้อย่างแน่วแน่ พร้อมจะพุ่งไปคว้าอย่างไม่ลังเล กระทั่งทำมันสำเร็จได้ในที่สุด 

จุดเริ่มต้นของ B-Boy Harry

     ตอนผมอายุ 8 ขวบได้ไปปาร์ตี้งานแต่งเพื่อนแม่ที่มีคนหลากหลายชาติ แล้วจู่ ๆ ลุงคนหนึ่งก็ชวนออกมาเต้นในวงไซเฟอร์ (Cypher) จนเริ่มรู้สึกสนุก ทำให้สนใจการเต้นและเต้นมาตลอด แต่ถ้าเริ่มจริงจังขึ้นจะเป็นตอน ม.5 ครับ เวลาเรียนผมฟังครูไม่รู้เรื่องเพราะไม่ค่อยมีสมาธิ มัวแต่รอเวลาเลิกเรียนเพื่อจะรีบไปชมรม B-Boy มันเป็นอย่างนี้เกือบทุกวันจนรู้สึกว่าตัวเองคงไม่ได้อยากเรียนแล้วแหละ อยากเต้นอย่างเดียว ผมเลยตัดสินใจออกจากโรงเรียน

เพราะการเต้น Breaking คือความท้าทาย 

     ท่ายาก ๆ ท่าแรกที่ทำได้คือ Thomas (Flare) ครับ มันเป็นท่าจากยิมนาสติก เหมือนกังหันลม ต้องเอามือค้ำพื้น ผมทำท่านี้ได้ตอนประมาณ ม.3 และมีความคิดว่าการเต้น Breaking มันยากดี เพราะการจะทำท่าต่าง ๆ ได้ต้องใช้เวลา ใช้ความคิดแถมใช้แรงด้วย อย่างผมแข่งเสร็จแล้วกลับมาดูวิดีโอของตัวเอง มันจะรู้สึกสนุกเหมือนเราได้ดูหนังและปั้นคาแรกเตอร์หนึ่งขึ้นมาเลย

วางกลยุทธ์หลีกเลี่ยงจุดอ่อน 

     ตัวผมไม่ค่อยบาดเจ็บนะ เพราะว่าไม่ชอบทำท่าที่ตัวเองจะเจ็บเลยพยายามหาวิธีเลี่ยง โดยผมจะย่อยท่าเต้นให้ง่ายขึ้น เช็คร่างกายตัวเองก่อนว่าทำไมถึงทำท่านี้ไม่ได้ เรายังอ่อนแอตรงจุดไหน แล้วมองหาท่าอื่น ๆ ที่จะทำให้ร่างกายแข็งแรงขึ้นก่อน จริง ๆ แต่ละขั้นตอนการฝึกมันมีเยอะครับ ผมก็เริ่มจากไปเรียนและหาคนที่เขาเก่งในสกิลที่เราอยากฝึก ตรงนี้มันทำให้เริ่มได้ไปเจอคนเรื่อย ๆ

บรรยากาศการซ้อมของเหล่านักเต้น

     ช่วงแรกซ้อมกันอยู่ไม่กี่คน บางทีผมก็ซ้อมคนเดียวหรือมีคนในทีมคอยมาซ้อมด้วย ส่วนบรรยากาศการซ้อมมันแล้วแต่วันครับ ถ้าคนเยอะ ๆ จะรู้สึกเหมือนได้เจอเพื่อน รุ่นพี่ รุ่นน้อง แล้วผมชอบที่พวกเขาเก่งกันคนละด้าน ถ้าอยากได้ทักษะอะไรจากเขาสามารถเข้าไปถามได้เลย เพราะวงการ B-Boy ในไทยไม่ได้ใหญ่มันเลยทำให้เรารู้จักกันเองเยอะ บางทีผมก็ถามคนอื่นว่าทำยังไงให้เต้นได้ดีขึ้น ซึ่งแต่ละคนจะแนะนำไม่เหมือนกัน บางคนแนะนำเรื่องเทคนิคการฝึก บางคนแนะนำเรื่องการใช้ชีวิต  

เจ้าของแชมป์ Red Bull BC One Thailand 2025

     ก่อนหน้านี้ผมเคยได้แชมป์จากงานอื่น ๆ มาบ้างครับ แต่ว่า Red Bull BC One Thailand เป็นงานแข่งที่ใหญ่สุด จริง ๆ หลังออกจากโรงเรียนมาเต้น ผมก็ตั้งใจแล้วว่าอยากเป็นแชมป์งาน Red Bull BC One เพราะฉะนั้นเลยต้องรีบซ้อมรีบแพลนไว้เดี๋ยวจะเสียเวลา

อุปสรรคคือชัยชนะเหนือความกดดัน

     เวลาไปแข่งผมตื่นเต้นและกดดันตลอด บางทีไม่เป็นตัวเองด้วย แบบว่าลงไปแข่งแล้วดันไม่เหมือนกับที่ซ้อมไว้ เพราะการซ้อมกับการแข่งไม่เหมือนกันไงครับ ตอนซ้อมมันสนุกมาก มันได้อยู่กับเพื่อน มันได้เป็นตัวเอง แต่พอไปแข่งกลับตื่นเต้นและกดดันจนทำให้ไม่สนุกเหมือนซ้อม ผมเลยรู้สึกว่าถ้าทำได้ดีบนเวทีแข่งเหมือนกับที่ซ้อมมาก็คงจะดี  

พร้อมแข็งแกร่งทั้งกายและใจ

     ช่วงนี้ผมอยากโฟกัสอย่างอื่นด้วยไม่ใช่แค่เรื่องเต้นอย่างเดียว แต่เป็นเรื่องการจัดการอารมณ์หรือจิตใจ เพราะบางทีอะไรที่ฝืนหรือไม่ชอบผมก็ไม่อยากเก็บไว้ อยากปลดล็อกตัวเองในด้านจิตใจให้ยอมรับว่าชอบ-ไม่ชอบแบบไหนก็พูดเลย แล้วใช้ความรู้สึกตรงนี้แหละไปแข่งขัน เพราะมันสำคัญกว่าการฝึกฝนแค่เฉพาะร่างกาย ผมว่าเราต้องแข็งแรงทั้งภายนอกและภายใน ซึ่งปัจจุบันผลลัพธ์มันก็ยังครึ่ง ๆ ครับ แบบว่ากำลังวิจัยอยู่ เหมือนนักวิทยาศาสตร์ (หัวเราะ)   

เตรียมตัวก้าวไปทีละสเต็ป

     ผมอยากบอกตัวเองว่าค่อย ๆ เดินทางไปกับมัน ไม่ต้องรีบ เดี๋ยวก็เห็นผลลัพธ์เองถ้าเรายังทำต่อไปเรื่อย ๆ เพราะผมแค่อยากจะพิสูจน์ตัวเองเฉย ๆ ว่าที่เราพูดเอาไว้มันทำได้จริง ๆ ครับ