เกษมสันต์ วีระกุล

เกษมสันต์ วีระกุล

ปัจจุบันท่านเป็นนักวิชาการอิสระ เชี่ยวชาญในเรื่องประชาคมอาเซียน เศรษฐกิจ เรื่องเกี่ยวกับบ้านเมือง รวมถึงการต่อต้านการคอรัปชั่น อีกทั้งยังเป็นอนุกรรมการให้กับ ปปช. ในเรื่องของการสื่อสาร การประชาสัมพันธ์ เป็นผู้บรรยายพิเศษในหลาย ๆ เรื่อง ส่วนใหญ่จะเกี่ยวข้องกับประชาคมอาเซียน โดยลงรายละเอียดเรื่องการใส่ใจผู้บริโภคมากยิ่งขึ้น และนี่คือมุมมองที่ท่านได้ถ่ายทอดให้เราฟัง

“ความดีสำหรับผมหมายถึงการที่คนเรากระทำสิ่งใดสักอย่าง แล้วส่งให้เกิดผลดีต่อตนเอง ต่อครอบครัว ต่อผู้อื่น รวมถึงต่อสังคม การส่งต่อเรื่องของการทำความดีนั้น ก่อนอื่นผมต้องขอบอกก่อนเลยว่าแรงบันดาลใจผมเริ่มจากที่บ้าน แรกเริ่มเดิมทีนั้นผมโตมาในครอบครัวของข้าราชการ ซึ่งคุณพ่อของผมทำงานอยู่ที่กรมสรรพากร ถ้าหากพูดถึงกรมสรรพากรคนฟังมักจะนึกถึงภาพลักษณ์ที่ดูไม่ค่อยสะอาดนัก แต่สำหรับคุณพ่อผมนั้นท่านได้ผ่านการทำงานสรรพากรจังหวัดมาหลายแห่ง เติบโตในหน้าที่การงานด้วยมันสมอง สามารถพูดได้เต็มปากอย่างภาคภูมิใจเลยว่าพ่อของผมเป็นคนที่มือสะอาด ในสมัยนั้นบ้านของผมถือว่าเป็นบ้านของสรรพากรจังหวัดที่จนที่สุดหลังหนึ่งเลยก็ว่าได้ คุณพ่อเป็นสรรพากรจังหวัด ในขณะที่คุณแม่และลูก ๆ ในครอบครัวทำขนมขาย

“ผมเป็นลูกชายคนโตก็จะมีหน้าที่ในการขับรถไปส่งขนม จนบัดนี้ที่คุณพ่อเกษียณ สิ่งที่ลูก ๆ ได้จากคุณพ่อก็คือ การศึกษา ลูกทุกคนของพ่อจบการศึกษาระดับปริญญาโททุกคน นั่นคือสิ่งที่คุณพ่อบอกเสมอว่าท่านให้ได้มากที่สุดเพียงเท่านี้ เพราะฉะนั้นเราจึงได้เห็นภาพของความซื่อสัตย์ สุจริต ที่คุณพ่อพึงกระทำอยู่เสมอตลอดมา เป็นต้นแบบ ซึ่งเราได้มีโอกาสเห็นโอกาสที่คุณพ่อสามารถเข้าไปทำให้มือสกปรกได้ แต่ท่านเลือกที่จะไม่ทำตรงนั้น

“จากแรงบันดาลใจนั้นผมก็เลยมีวิธีคิดเฉพาะตัวว่า เกิดมาเป็นคน ทำอะไรจะต้องซื่อสัตย์ สุจริต ตรงไปตรงมา นี่ก็เป็นสิ่งที่ผมยึดถือในการทำงานมาตลอด สิ่งที่ผมอยากจะแชร์เรื่องของการทำความดีก็ขอเรียนอย่างนี้ ตั้งแต่ผมจบการศึกษาระดับปริญญาโท จากมหาวิทยาลัยธรรมศาสตร์ ก็ได้มาเป็นอาจารย์ที่คณะเศรษฐศาสตร์ หลังจากเป็นอาจารย์ก็ได้มีโอกาสมาทำสื่อ เรียกว่าเกือบทุกช่องในประเทศไทยก็ว่าได้ พอมาทำสื่อก็เหมือนเราสามารถแสดงออกถึงความคิด ตามทัศนคติของเราได้อย่างเต็มที่ แต่ตลอดเวลา 30 ปีที่ผ่านมา ตั้งแต่สื่อการเมืองจนกระทั่งเป็นสื่อประชาคมอาเซียนในปัจจุบัน ทุกคอมเมนต์ทุกการแสดงความคิดเห็น ผมทำด้วยความซื่อสัตย์สุจริต ตรงไปตรงมาตลอดมา คนที่ติดตามผลงานผมมาเป็นเวลานานเมื่อได้มีโอกาสพบปะกันก็มักจะพูดเสมอว่าเขาชอบเรานะ เพราะว่าเราตรงไปตรงมา ไม่มีนอกมีใน ไม่ว่าคนนั้นจะเป็นใครก็ตาม นี่คือความดีที่ผมประพฤติปฏิบัติมาตลอดครับ

“ทำชั่วได้ดีมีถมไป ทำดีได้ดีมีที่ไหน ผมประสบพบเจอกับสิ่งนั้นด้วยตัวเอง คุณพ่อของผมกับชีวิต การทำงานราชการนั้น ถือว่าประสบความสำเร็จในหน้าที่การงานน้อยกว่าคนอื่นทั่วไป ก็รู้สึกว่ามันไม่ค่อยเป็นธรรมเท่าไรแต่ต้องเก็บไว้ แต่พอโตขึ้นมาผมกับคุณแม่ได้มีโอกาสกลับไปจังหวัดที่คุณพ่อเคยทำงาน ปรากฏว่าท่านมีแต่ผู้คนพูดถึง ทุกคนที่นั่นรักใคร่ นี่แหละคือทำดีแล้วได้ดี ความดีนั้นขึ้นอยู่ในตัวของมันเอง คนรอบข้างก็รับรู้ได้ ส่วนเรื่องของคนทำชั่ว แต่ละคนผลกรรมมาไม่พร้อมกันหรอกครับ แต่สุดท้ายก็ต้องประสบกับผลที่เขาทำแน่นอนครับ

“พระบาทสมเด็จพระปรมินทรมหาภูมิพลอดุลยเดช บรมนาถบพิตร ในหลวง รัชกาลที่ 9 ขนาดพระองค์ทรงทำเพื่อประชาชนแค่ไหน ก็ยังมีคนครหา สมเด็จพระสัมมาสัมพุทธเจ้าก็เช่นเดียวกัน เราเป็นเพียงเศษเสี้ยวธุลีของโลกด้วยซ้ำ ก็คงจะหลีกเลี่ยงการครหาของผู้อื่นไม่ได้ ขอให้พึงระลึกไว้เสมอว่า ทำดีได้ดี ทำชั่วได้ชั่ว ใครจะพูดอะไรก็ปล่อยเขาไป ความดีที่เราทำทั้งหลายจะเป็นเกราะคุ้มครองเราเอง ทุกคนทำดีได้ง่าย ๆ ในชีวิตประจำวันครับ ซื่อสัตย์ สุจริต บริสุทธิ์ใจ ไม่ว่าจะเป็นใครก็สามารถทำได้ในทุก ๆ วันครับ”

รอยทำแห่งความดี