ศรีสะเกษ นครหลวง

ศรีสะเกษ นครหลวง

อีกหนึ่งชนิดกีฬานอกจากฟุตบอลที่อยู่ในสายเลือดของคนไทยคงหนีไม่พ้นกีฬามวยซึ่งเป็นอีกชนิดกีฬาที่คนไทยมักตั้งความหวังไว้เวลามีอีเว้นท์กีฬาใหญ่ ๆ หรือแม้กระทั่งมวยสากลอาชีพเองถ้ามีนักชกไทยคนไหนชิงแชมป์โลกสถาบันใหญ่ ๆ ไม่ว่าจะรุ่นอะไร ก็มักจะต้องรอติดตามการถ่ายทอดสดเป็นประจำ

เมื่อเดือนที่แล้วเชื่อว่าคนไทยคงมีความสุขกับชัยชนะของ “เจ้าแหลม” ศรีสะเกษ นครหลวงโปรโมชั่น (ส.รุ่งวิสัย) เหนือ “ช็อกโกลาติโต้” โรมัน กอนซาเลซ นักชกจากนิคารากัวในการป้องกันแชมป์ดับเบิลยูบีซี (WBC) รุ่นซูเปอร์ฟลายเวต 115 ปอนด์ ซึ่งนักชกวัย 30 ปี จากอำเภออุทุมพรพิสัย สามารถน็อกคู่แข่งในยกที่ 4 แบบสมราคา โดยไฟต์ก่อนหน้านี้ “ศรีสะเกษ” ขึ้นชกชิงแชมป์กับคู่ชกคนนี้ที่มหานครนิวยอร์กเมื่อช่วงต้นปีและชนะคะแนนมาได้ จึงทำให้ไฟต์เมื่อเดือนที่แล้วเกิดขึ้น หลังจากนี้คงไม่มีข้อครหาว่า “ศรีสะเกษ” ชนะมาแบบฟลุ๊กหรือไม่โปร่งใส และต้องดูว่าทีมงานของนครหลวงโปรโมชั่นที่ดูแลเจ้าแหลมอยู่จะวางแผนอย่างไรเพื่อให้นักชกขวัญใจคนไทยคนนี้ก้าวขึ้นไปอีก
อย่างไรก็ตามสิ่งที่น่าสนใจนอกจากความยอดเยี่ยมของเจ้าแหลมในการขยันฝึกซ้อมตลอด 4 เดือนเต็ม บางวันต้องลงนวมถึง 12 ยก เพื่อให้ได้พละกำลังในเวลาชกจริง งานหลังบ้านภายใต้การดูแลของ “เสี่ยฮุย” นายสุรชาติ พิสิฐวุฒินันท์ บอสใหญ่ของค่ายนครหลวงโปรโมชั่น ที่มีการเตรียมตัวก่อนไฟต์นี้เป็นอย่างดี
ในเรื่องของการฝึกซ้อมมีลูกชายคนโตดูและมีการลงนวมซ้อมกับ ชลธาร อ.พิริยะภิญโญ ที่เป็นนักมวยรูปร่างใหญ่กว่า ส่วนเรื่องการติดต่อประสานงานมีลูกชายคนที่สองและคนที่สามซึ่งจบการศึกษาจากสหรัฐอเมริกาดูแลเรื่องการติดต่อประสานงานกับต่างประเทศซึ่งไม่ต้องห่วงเรื่องภาษา การสื่อสารที่อาจจะคลาดเคลื่อน ภายใต้การกำกับดูแลของเสี่ยฮุยที่มีความเก๋าในการเจรจาต่อรอง อยู่ในวงการมวยมายาวนาน ดังนั้นเรื่องของระบบการจัดการที่ดีของทีมงาน ทำให้การไปต่อยนอกบ้านครั้งนี้ไม่เสียเปรียบมาก ต่างจากนักมวยไทยส่วนใหญ่ที่ไปต่อยต่างประเทศมักจะถูกเล่ห์กลของเจ้าถิ่นจนแพ้กลับมา
กลับมาที่เจ้าแหลมก็ต้องให้เครดิตเต็ม ๆ ก่อนหน้าที่ได้เข็มขัดแชมป์โลกมาเมื่อช่วงต้นปีก็ถูกปรามาสว่า “ฟลุ๊ก” เพราะไม่มีใครคิดว่าจะไปได้แชมป์ แถมทางทีมงานโรมัน กอนซาเลซก็มองว่าเอาเจ้าแหลมมาต่อยเพื่อเพิ่มสถิติให้นักชกขวัญใจชาวนิคารากัว แต่เจ้าแหลมกับหักปากกาเซียนทั้งโลกด้วยการไปเอาชนะช็อกโกลาติโต้ได้จนต้องรีบให้มีการรีแมตซ์ในไฟต์ล่าสุด แถมเงินค่าส่วนแบ่งการชกของเจ้าแหลมก็น้อยกว่าคู่แข่งถึง 3 เท่า เพราะ ช็อกโกลาติโต้ชื่อติดในตลาดสหรัฐฯ มากกว่า
ไฟต์ล่าสุดเจ้าแหลมมีเวลาฟิตซ้อมหนักมากในระยะเวลา 4 เดือนลงนวมเกินไปกว่า 200 ยก ทำให้ภาพที่เห็นในไฟต์กับโรมัน กอนซาเลซ ล่าสุด คือสภาพร่างกายที่ฟิต หมัดที่หนักแถมทางเสี่ยฮุยและทีมงานทำการบ้านศึกษาคู่แข่งมาเป็นอย่างดี พอเขาเดินลุยตั้งแต่ยกแรกก็เข้าเป้าเราเพราะเตรียมมาดี อาวุธหนักกว่า จึงไม่แปลกที่มวยไฟต์นี้จะจบเร็ว ยิ่งไปกว่านั้นเรื่องของการคุมน้ำหนักซึ่งเป็นเรื่องสำคัญมาก ทางทีมงานเสี่ยฮุยทำได้ดี เวลาชกเท่าพิกัด 115 ปอนด์พอดี ต่างจากช็อกโกลาติโต้ที่ดูสภาพแย่กว่า เพราะพิกัด 115 ปอนด์ ผู้สันทัดกรณีหลายคนบอกว่าไม่ใช่พิกัดที่เหมาะสมกับเจ้าตัว จากไฟต์นี้นอกจากความยอดเยี่ยมของเจ้าแหลมแล้ว เป็นภาพสะท้อนของการทำมวยรุ่นใหม่ต่อจากนี้ที่ต้องพร้อมในเรื่องนอกสนามด้วย เพราะหลาย ๆ ครั้ง นักชกเรามักเสียเปรียบหรือแพ้จากการเตรียมตัวหลังบ้านที่ไม่ดี ต่อจากนี้คงต้องรอดูว่า เจ้าแหลมและทีมงานของเสี่ยฮุยจะยืนระยะในระดับโลกได้นานแค่ไหนซึ่งขึ้นอยู่กับตัว “นักมวย” และ “ทีมงาน” ที่ต้องเดินไปด้วยกันครับ

ความยอดเยี่ยมของ ศรีสะเกษ นครหลวงโปรโมชั่นและทีมงาน