ชีวิตกับ

ชีวิตกับ

สมัยเด็กๆ นั้น ผมเป็นคนชอบหมกมุ่นและ “เล่นสนุก” กับภาษา อาจจะมาจากพื้นฐานการเป็นคนชอบอ่านและชอบตั้งคำถามกับรากศัพท์ และที่มาที่ไปของคำพูดคำจา - ภาษาเขียนอยู่บ่อยๆ ตั้งแต่ภาษาร้อยแก้วเลยไปถึงวรรณกรรมประเภท โคลง ฉันท์ กาพย์ กลอนต่างๆ

โชคดีที่มีคุณยายเป็นอดีตอาจารย์ใหญ่ด้านภาษาไทย ผมจึงมี “ครู” ที่คอยสั่งสอนชี้แนะอยู่ที่บ้านด้วยตลอดเวลา และส่งผลให้ทุกชั่วโมงเรียนภาษาไทยและวรรณคดีที่โรงเรียนเป็นวิชาที่สนุกอย่างยิ่ง และได้ความตั้งใจเรียนจากผมมาโดยตลอด

พอตบะเริ่มแก่กล้า (ตามประสาเด็ก) ขึ้นมาอีกหน่อย ก็ถึงขั้นคิดประดิษฐ์ตัวอักษรและการผสมคำบวกกับการแปลความหมายขึ้นมาเองกับเพื่อนกลุ่มเล็กๆ คิดฝันไปไกลถึงว่าวันหนึ่งภาษาลับในกลุ่มเล็กๆ นี้ อาจได้รับความนิยมและแพร่หลายไปในหมู่ผู้นิยมด้านนิรุกติศาสตร์ เหมือนพวกเรา ถึงขั้นพิมพ์และโรเนียวกันเป็นปทานุกรมเล่มเล็กๆ เก็บไว้และใช้เป็นภาษาลับเฉพาะในกลุ่มกันอยู่นานทีเดียว

ครับ ... อารัมภบทถึงความฝันวัยเยาว์มาเสียเนิ่นนาน ก็เพราะวันนี้มีข้อมูลที่น่าสนใจที่อยากจะนำมาแชร์กัน เป็นความรู้ชนิดรู้ไว้ใช่ว่าเช่นเคย และน่าจะเป็นแหล่งข้อมูลที่ดีหากจะนำไปใช้อ้างอิง และยิ่งไปกว่านั้น หากจะทำให้เรารู้สึกและตระหนักได้มากขึ้นถึงความสำคัญของภาษาที่เราใช้กันอยู่ทุกวันนี้

ตั้งแต่ปี พ.ศ. 2542 เป็นต้นมา ที่องค์กร UNESCO ได้ตั้งให้วันที่ 21 กุมภาพันธ์ ของทุกปีเป็นวันภาษาแม่สากล (International Mother Language Day) เพื่อเน้นถึงความสำคัญของภาษาแม่ที่หลากหลายในทุกวัฒนธรรมของโลก รวมทั้งการรณรงค์เพื่ออนุรักษ์ภาษาแม่ที่กำลังล้มหายตายจากไป และเพื่อกระตุ้นจิตสำนึกของมหาชนเพื่อการพัฒนามาตรการต่างๆ ในการรักษาภาษาแม่เอาไว้ให้มากที่สุด

ปัจจุบันโลกของเรามีความหลากหลายของภาษาอยู่กว่า 7,000 ภาษา ไม่น่าเชื่อใช่ไหมครับว่าตามสถิติแล้ว ในทุกๆ 14 วันจะมีภาษาหนึ่งที่ตายลงไป นั่นหมายถึงอัตราเสี่ยงของการสาบสูญของภาษาจำนวนมากมาย โดยเฉพาะภาษาของชนกลุ่มน้อย เช่น ชนเผ่าอินเดียนแดงต่างๆ ในประเทศเม็กซิโก ภาษาชนกลุ่มน้อยในประเทศออสเตรเลีย ฯลฯ ล้วนแล้วตกอยู่ในขั้นวิกฤติ มีผู้เชี่ยวชาญได้ประมาณการเอาไว้ว่า เมื่อถึงศตวรรษหน้า เกือบ 3,500 ภาษาที่ใช้กันอยู่ในโลกปัจจุบันจะสูญพันธ์ไปตลอดกาล โดยที่ผู้คนและชุมชนท้องถิ่นจะพากันละทิ้งภาษาแม่ และหันไปใช้ภาษาอังกฤษ จีนกลาง หรือสเปนแทน

โดยภาษาที่มีผู้ใช้พูดกันมากที่สุดในโลกวันนี้คือ จีนกลาง (แมนดาริน) มีผู้ใช้เป็นภาษาแม่ถึง 845 ล้านคน และมีคนใช้พูดทั่วโลกทั้งหมดราว 1.3 พันล้านคน อันดับสองคือ ภาษาฮินดี ตามมาด้วยภาษาสเปนและภาษาอังกฤษ ตามลำดับ ส่วนที่อยู่ท้ายตารางมีอยู่ประมาณ 153 ภาษา ซึ่งมีผู้ใช้สื่อสารอยู่ไม่ถึง 10 คนต่อภาษา เช่น ภาษา Totora ในประเทศโคลัมเบีย มีผู้ใช้เหลืออยู่เพียง 4 คน ภาษา Lipan Apache มีผู้ใช้เป็น Native Indian อยู่ในประเทศอเมริกาเพียงแค่ 2 คน หรือภาษา Bikya ในประเทศแคเมอรูน ที่มีคนพูดได้หลงเหลืออยู่เพียงคนเดียว เป็นต้น

กลับมาดูสถานการณ์ภาษาถิ่นในประเทศไทยกันนะครับ นอกจากภาษาไทยของเราแล้ว เรายังมีทั้งหมดกว่า 70 กลุ่มภาษากระจายอยู่ทั่วประเทศ หลายภาษากำลังอยู่ในภาวะวิกฤติเสี่ยงต่อการสูญพันธ์เช่นเดียวกัน อันเนื่องมาจากหลายชนเผ่าเจ้าของภาษาได้สูญหายไป และไม่มีระบบการจัดเก็บรักษาที่ดี โดยเฉพาะอย่างยิ่งภาษาที่มีแต่ภาษาพูด แต่ปราศจากภาษาเขียน ซึ่งหากปราศจากมาตรการอนุรักษที่ดีพอแล้ว ภาษาถิ่นเหล่านี้ก็จะสูญหายจากประเทศไทยเป็นการถาวรไปวนที่สุด เช่น 1) ชอง 2) กะซอง 3) ชมเรม 4) ชุอุง5) มลาบรี 6) มานิ (ซาไก) 7) ญัฮกุร 8) โซ่ (ทะวืง) 9) ลัวะ (ละเวือะ) 10) อึมปี 11) บิซู12) อูรักละโวย 13) มอเกล็น 14) ละว้า (ก๋อง) ซึ่งทุกภาษาที่ว่านี้ มีผู้พูดเหลือเพียงร้อยกว่าคนในปัจจุบันเท่านั้น

เห็นข้อมูลแล้วก็น่าใจหาย ทุกวันนี้เราตื่นตัวเรื่องอนุรักษ์สิ่งต่างๆ กันอย่างมากมาย กับเรื่องของภาษา ซึ่งเปรียบเสมือนสัญลักษณ์ทางวัฒนธรรมที่งดงามเหล่านี้ ควรได้รับความใส่ใจที่จะเก็บรักษาคุณค่าเอาไว้ และส่งต่อให้เยาวชนรุ่นหลังที่สนใจได้รับรู้ด้วยความภาคภูมิใจได้ดีกว่านี้ไหมครับ ด้วยระบบจัดเก็บที่ทันสมัยและเครื่องไม้เครื่องมือที่ไฮเทคในปัจจุบัน ไม่ใช่เรื่องยากเกินไปอย่างแน่นอน ขอฝากผู้ที่มีส่วนเกี่ยวข้องเอาไว้ด้วยแล้วกันนะครับ

โธ่! อย่าว่าแต่ภาษาเก่าแก่โบราณใช้กันเฉพาะในชนกลุ่มน้อยอย่างนี้เลย แค่ภาษาไทยที่เราใช้กันอยู่ทุกเมื่อเชื่อวัน แค่เผลอพูดเร็วหรือพิมพ์ไวไปนิดเดียว ความหมายยังกลับตาลปัตรวิบัติไปซะงั้น มีตัวอย่างขำๆ พอให้ได้อมยิ้มกับภาษาเขียน (ผิด) ประจำวันมาฝากส่งท้ายกันตรงนี้ครับ

“ลูกชายผมสองขวบมีไข่สูงมากให้กินพาราได้ไหมครับ ขอคำตอบด่วนครับ”
“แฟนเป็นคนเสียวดังมากครับ ผมอายคนอื่นเค้า ผมจะเตือนเธอยังไงดีครับ”
“กลุ้มใจจัง แฟนเราเป็นคนเชื่อมั่นในตัวเองสูง ไม่ค่อยจะอมใครง่ายๆ”
“มีพี่ที่ทำงานคนหนึ่งเพิ่งเข้ามาทำงาน เธอเป็นลูกน้องผมแต่อายุแก่กว่าผมมาก ผมจะสอยเธอยังไงดีครับถึงจะไม่น่าเกลียด”
“ถ้าพิจารณาความเสี่ยวแล้วคาดว่าคุ้มถ้าลงทุนต่อไป”
“อยากไปเที่ยวท้องฟ้าจำลองที่ปิดไฟมืดๆ แล้วฉายภาพดาวค่ะ ไม่ทราบว่าเข้าชมฟรีหรือต้องเสียตัวด้วยหรือเปล่าคะ”
“ข่าวดีค่ะปลื้มใจอยากบอก ไปขยายรูแต่งงานมาแล้ว ออกมาสวยมากๆ ขนาดแฟนเป็นคนไม่ค่อยพูดยังออกปากชม ไม่รู้มาก่อนว่าดีแบบนี้”
“พี่ๆ ครับ ผมจะไปสอบใบขับขี่พรุ่งนี้แต่ผมยังไม่ชำนาญเรื่องการถอยรถเข้าซ่องเลย ใครพอแนะนำเทคนิคได้บ้างครับ”
“อาจารย์คะ ปีนี้ข้อสอบวิทย์จะเน้นอกเรื่องอะไรคะ หนูจะได้เตรียมตัวมาแต่เนิ่นๆ”
“ผมมีปัญหากับแฟนใหม่ของเธอครับ ไม่น่าคิดมากเลย แค่โทรเรียกเธอมาเจอเพราะอยากเลียร์ให้มันสบายใจทั้งสองฝ่าย”
“จะไปเชียงใหม่ค่ะ หนุ่มคนเมืองที่ไหนพอแนะนำได้บ้างคะ อยากถามว่าขนมจีนน้ำเจี๊ยวที่ไหนอร่อยบ้าง
“แล้วหนูจะตดต่อมาใหม่นะคะ”

อ่านแล้วอย่าคิดมาก ... สัปดนวันละนิดจิตแจ่มใสนะครับ 

ภาษา