คมสันต์ เชษฐโชติศักดิ์

คมสันต์ เชษฐโชติศักดิ์

ด้วยความที่อาร์เอสไม่เคยหยุดนิ่งอยู่กับที่ จึงมักสร้างสิ่งใหม่ๆ ขึ้นมาเสมอ แม้แต่ผู้บริหารก็ยังได้คนหนุ่มไฟแรงอย่างคุณกวง คมสันต์ เชษฐโชติศักดิ์ ที่มีดีกรีปริญญาตรีจาก University of California, Santa Barbara ปริญญาโทจาก Illinois Institute of Technology โดยมานั่งแท่นบริหารงาน เริ่มตั้งแต่กรรมการผู้จัดการ บริษัท สกาย-ไฮ เน็ตเวิร์ค จำกัดดูแลสื่อวิทยุ 2 คลื่น คือ Max 103 Maximum Hits และ Cool 93 Fahrenheit และอีกตำแหน่งคือ รองผู้อำนวยการสายงานภาพยนตร์ และประธานเจ้าหน้าที่ฝ่ายพาณิชย์ บริษัท อาร์เอส จำกัด (มหาชน)

 

ในส่วนของภาพยนตร์ สมัยที่คุณกวงเข้ามาใหม่ๆ บริษัทอาร์เอสกำลังขยายธุรกิจไปยังต่างประเทศ โดยเฉพาะภาพยนตร์ จึงมีความพยายามที่จะนำภาพยนตร์ของตัวเองออกไปยังต่างประเทศซึ่งตอนนั้นมีอยู่ 3 ตลาดหลักๆ เลยก็คือเมืองคานส์ มิลาน และแคลิฟอร์เนีย

 

“ช่วงปลายปีที่แล้วมีการปรับโครงสร้าง มีการเปลี่ยนแนวทางในการทำธุรกิจ เราจะปรับให้เป็นสตูดิโอหนัง คล้ายๆ ฮอลลีวู้ด วิธีการก็คือเราไม่มีบริษัทโปรดักชั่นเฮ้าส์ที่จะป้อนให้บริษัทแม่ แต่เราจะรับโปรเจ็คท์จากผู้กำกับข้างนอกมา สิ่งที่ได้ก็คือความหลากหลาย วิธีการทำงานของเราก็จะมีบอร์ดเลือกกันว่าหนังโอเคมั้ย ถ้าทุกอย่างผ่านก็โอเค”

 

ส่วนคลื่นวิทยุที่เขาดูแลอยู่นั้นก็ยังเป็นไปตามแผนงานที่วางไว้ มีการจัดหากลยุทธ์มากมายเพื่อทำให้วิทยุสามารถอยู่ในวงการเพลงได้อย่างต่อเนื่อง

 

“ผมยกตัวอย่าง Cool 93 FM ที่มีเรทติ้งอันดับหนึ่ง ต้องบอกว่าเราทำการตลาดอย่างต่อเนื่อง ไม่ว่าจะเป็นเรื่องของแบรนด์แอมบาสเดอร์อย่างคุณไหม วิสา สารสาส คุณศรีริต้า เจนเซ่น ที่ทำหน้าที่เหมือนกระบอกเสียงออกไป แล้วเราเดินในเรื่องของแฟชั่นมาร์เก็ตติ้ง โดยการทำกิจกรรมเพื่อให้ภาพชัดเจนขึ้น เรามีการจับเป็นพาร์ทเนอร์กับแบรนด์ยี่ห้อดังๆ มีการสร้างของพรีเมี่ยมขึ้นมาแล้วก็ทำแจกลูกค้า รวมทั้งมีทริปไปต่างประเทศด้วย”

 

สุดท้ายคือส่วนของงานบริหารลูกค้าองค์กร เขาบอกว่าต้องใช้เวลาค่อนข้างเยอะอย่างการวิ่งเข้าไปหาลูกค้า สร้างความสัมพันธ์ที่ดีกับลูกค้า ลูกค้าบางคนที่ไม่เคยติดต่อกับอาร์เอสเลย เขาก็จะมีหน้าที่เข้าไปพรีเซ็นต์ให้เห็นว่าอาร์เอสมีศักยภาพอย่างไรบ้าง

 

“หน้าที่หลักๆ ก็คือการคอนแทร็คโปรดักชั่นระหว่างบริษัทอาร์เอสกับลูกค้า เมื่อลูกค้ามองมาที่บริษัทจะเรียกว่ามี Business Unit ค่อนข้างเยอะ เพราะฉะนั้นส่วนงานบริษัทจะมีเยอะมากเลย เพราะเขาไม่รู้ว่าจะคุยกับใคร เขาก็จะคุยกับผมได้ ผมสามารถที่จะจัดไปให้เขาได้ ส่วนของการแก้ไขปัญหาต่างๆ อย่างมีปัญหากับ Unit อื่นภายใต้บริษัท ก็จะคุยกับผมได้เลย”

 

“ลูกค้าที่เราสนิทอยู่แล้วก็ไม่เท่าไหร่ แต่ลูกค้าที่เราไม่เคยเจอ บางทีเราอาจต้องใช้ความสม่ำเสมอ และใช้เวลาค่อนข้างยาวจึงเห็นผล เพราะลูกค้าแต่แบบมีลักษณะไม่เหมือนกัน จึงต้องมีกลยุทธ์ในการเข้าหาอีกด้วย บางทีเข้าหาโดยตรงอาจจะไม่ใช่ คงต้องผ่านใครสักคน คือมันต้องมีวิธีการค่อนข้างเยอะ”

 

การนำพาบริษัทผ่านวิกฤติจนสามารถสร้างกำไรมหาศาลได้ขนาดนี้ไม่ใช่เรื่องง่าย แต่เขาพูดอย่างถ่อมตนว่าเครดิตทั้งหมดขอยกให้ลูกน้อง

 

“ผมได้ลูกน้องเก่งครับ คือก็ต้องบอกว่าส่วนหนึ่งเราก็ต้องดูภาพรวม แล้วในเรื่องทิศทางเราก็ต้องดู แต่ว่าเรื่องของรายละเอียดเรื่องของ Action Plan หรือกลยุทธ์บางอย่างก็ต้องเป็นลูกน้องเป็นทำ พวกเขาสัมผัสมา เรื่องของข้อมูลเขาจะรู้ดีกว่าเรา”

 

มาถึงอาร์เอสทั้งที หากเราไม่ถามเรื่องราวของวงการเพลงก็คงจะดูแปลกๆ คนวงในอย่างคุณคมสันต์บอกว่า ช่วงก่อนหน้านี้จะได้รับผลกระทบจากเทปผีซีดีเถื่อนเยอะ แต่ในช่วงปีที่ผ่านมา ตลาดดาวน์โหลดเริ่มปรับตัวดีขึ้น เรียกว่าเข้ามาแทนในส่วนที่หายไปแล้วได้มาเพิ่มมากกว่าที่คาดหวังไว้ด้วย

 

“เอนเตอร์เทนเมนต์หรือผู้ผลิตคอนเทนต์มันวิ่งตามเทคโนโลยี แล้วเทคโนโลยีเป็นช่องทางหนึ่งที่พาไปหาผู้บริโภคเข้ามาได้สมมติอินเตอร์เน็ตเข้ามา ผู้บริโภคก็อาจจะซื้อของผ่านทางอินเตอร์เน็ตได้ เดี๋ยวนี้อาจจะเป็นเรื่องของมือถือที่จะเป็นช่องทางเข้าไปหาผู้บริโภคโดยตรง เราก็เลยต้องวิ่งคู่ไปกับเทคโนโลยีที่เข้ามา มีอะไรเราก็ต้องปรับกลยุทธ์เข้าหา วันนี้ถ้าเราอยู่เฉยๆ ก็คงจบเลยครับ”

 

About His!

• เขาคือลูกชายคนโตของเฮียจั๊ว เกรียงไกร เชษฐโชติศักดิ์ ผู้ร่วมก่อตั้งบริษัทอาร์เอส

• ก่อนที่จะเข้ามาทำงานที่บริษัท อาร์เอส จำกัด (มหาชน) ในปี 2000-2002 คุณคมสันต์
เคยได้ร่วมงานกับบริษัท KPMG Thailand ซึ่งเป็นบริษัทเกี่ยวกับสำนักงานบัญชีในตำแหน่ง Financial Consultant (Due Diligence, Valuation, Business Reviews)

• หนังสือเล่มโปรดของคุณคมสันต์คือ Good to Great โดย Jim Collins

เวลาที่เราพูดถึงค่ายเพลงชื่อดังของบ้านเรา ต้องมีชื่อค่าย อาร์เอส