เรื่องมหัศจรรย์

เรื่องมหัศจรรย์

เดือนที่ผ่านมาเรื่องที่เป็นทอล์กออฟเดอะทาว์นคงหนีไม่พ้นการเป็นแชมป์พรีเมียร์ลีกสมัยแรกของขุนพลจิ้งจอกสยาม เลสเตอร์ ซิตี้ ซึ่งฤดูกาลที่ผ่านมาไม่ใช่แค่แฟนจิ้งจอกเพียงอย่างเดียว แต่แฟนบอลชาวไทยต้องการที่จะเห็นสโมสรที่มีคนไทยเป็นเจ้าของสร้างประวัติศาสตร์มหัศจรรย์ของเทพนิยายลูกหนังอีกเรื่อ

ลูกทีมของ เคลาดิโอ รานิเอรี่ สามารถคว้าแชมป์ลีกสูงสุดสมัยแรกนับตั้งแต่สโมสรก่อตั้งเมื่อ 132 ปีที่แล้ว ในปี 1884 ถือว่าเป็นอะไรที่ “ยิ่งใหญ่” เหนือคำบรรยาย ด้วยเงินทำทีมในฤดูกาลนี้ประมาณ 30 ล้านปอนด์ ซึ่งถือว่าน้อยนิดถ้าเทียบกับบรรดาทีมใหญ่ในลีกอย่างพวก แมนฯ ซิตี้, เชลซี, แมนฯ ยู หรือแม้กระทั่งคู่แข่งสำคัญที่เบียดแย่งแชมป์อย่าง สเปอร์ส ยิ่งอัตราร้านพนันถูกกฎหมายในอังกฤษที่ออกราคาการเป็นแชมป์ของทีมก่อนเปิดฤดูกาลที่ แทง 1 จ่าย 5000 ถือเป็นราคาที่แทบจะเป็นไปไม่ได้

ประเด็นที่น่าสนใจในกรณีของเลสเตอร์ ซิตี้ มีมากมายจนสามารถเขียนเป็นหนังสือได้หลายเล่ม ตั้งแต่เรื่องของตัวเจ้าของทีม ตัวกุนซือ และบรรดานักเตะภายในทีม ที่มีดราม่ามากมายก่อนที่จะมาถึงจุดนี้ได้

เริ่มจากตัวเจ้าของทีมซึ่งถ้าทีมเป็นแชมป์ คุณวิชัย ก็จะเป็นเจ้าของทีมชาวเอเชียโซนตะวันออกคนแรกที่ได้แชมป์ลีก ทั้ง ๆ ที่ก่อนหน้านี้มีเสี่ยจากภูมิภาคนี้มากมายไม่ว่าจะ คาร์สัน หยาง (เบอร์มิงแฮม) จากฮ่องกง วินเซนต์ ตัน (คาร์ดิฟฟ์) จากมาเลเซีย หรือ โทนี่ เฟอร์นานเดซ (ควีนปาร์ก เรนเจอร์) จากมาเลเซีย เป็นเจ้าของทีมที่เล่นในลีกสูงสุดของอังกฤษ แต่ตอนนี้ทีมของทุกคนอยู่ในลีก แชมเปี้ยนชิพ 

เชื่อว่า บรรดาแฟนบอลของทีมเหล่านี้ต้องมีมุมอิจฉา แฟนบอลเลสเตอร์บ้างแหละว่าทำไมเจ้าของจากแดนไกลของทีมที่ตัวเองรักไม่เป็นแบบนี้ โดยเจ้าของ “คิง พาวเวอร์” เข้ามาชมเกมของทีมแทบจะทุกนัด วันเกิดมีเลี้ยงโดนัทและเบียร์อีกต่างหาก ต่างจากคนอื่นอย่าง คาร์สัน หยาง ที่มีมลทินในเรื่องของธุรกิจสีเทาจนเคยถูกสั่งห้ามยุ่งกับสโมสรมาแล้ว หรือ วินเซนต์ ตัน ที่ถึงขั้นเปลี่ยนสีประจำสโมสรจากแดงเป็นน้ำเงินที่ใช้มากว่าร้อยปีด้วยเหตุผลที่ว่าให้ซินแสดูแล้วว่า “ถูกโฉลก”

ส่วนตัวของกุนซืออย่าง “ทิงเกอร์แมน” ที่ผ่านร้อนผ่านหนาวในวงการฟุตบอลมามากมายเคยคุมทีมชั้นนำมาทุกลีกดัง แต่กลับไม่ประสบความสำเร็จในการพาทีมเหล่านั้นคว้าแชมป์ลีกสูงสุดได้เลยสักครั้ง แถมก่อนมาคุมทีมจิ้งจอกก็ล้มเหลวไม่เป็นท่ากับ ทีมชาติกรีซ จนถูกมองว่าเป็น “ผู้แพ้” ประจำวงการ ดังนั้นการพาเลสเตอร์ ซิตี้ เป็นแชมป์ได้ย่อมถือว่าเป็นสิ่งที่ยิ่งใหญ่ที่สุดของชีวิตการเป็นโค้ชในวัยเลยหลัก 6 มาหมาด ๆ ที่ประชดประชันกว่านั้นคือ เลสเตอร์ ไม่ใช่ “ทีมใหญ่”

ที่ดราม่ากว่านั้นบรรดานักเตะแต่ละคนภายในทีมมีเบื้องหลังมากมาย ไม่ใช่แค่เพียง เจมี่ วาร์ดี้ หรือ ริยาร์ด มาร์เรซ ที่สู้ชีวิตมาตั้งแต่ติดลบ แต่คนอื่น ๆ โดยเฉพาะอดีตนักเตะเก่าของ แมนฯ ยูไนเต็ด หรือที่ถูก เร้ดเดวิลล์ “ปฏิเสธ” ในการเซ็นสัญญา เพราะถูกมองว่าเป็นนักเตะประเภทของเหลือไม่สามารถพัฒนาเล่นในชุดใหญ่ของทีมได้ ทั้ง แดนนี่ ซิมป์สัน, แดนนี่ ดริงค์วอลเตอร์ หรือ เจฟฟ์ ชลูปป์

รวมทั้ง แคสเปอร์ ชไมเคิล ผู้รักษาประตูที่ถูกปรามาสว่าไม่มีทางตามรอยเท้าคุณพ่ออย่าง ปีเตอร์ ชไมเคิล ได้ ซึ่งไม่ต่างจาก รานิเอรี่ ที่ไม่เคยพาทีมใหญ่คว้าแชมป์ลีกได้แต่ดันพาขุนพลจิ้งจอกเป็นแชมป์

นี้ไม่นับเรื่องที่เหนือคำอธิบายซึ่งทำให้ฝรั่งที่นั่นตกใจ คือการที่ คุณวิชัย เจ้าของสโมสรนิมนต์ พระพรหมมังคลาจารย์ (ท่านเจ้าคุณธงชัย) แห่งวัดไตรมิตรวิทยารามวรวิหาร ตรงแถวหัวลำโพง เพื่อทำบุญสโมสร ทำพิธีสวดชัยมงคลคาถากลางสนามบอลและประพรมน้ำพระพุทธมนต์ซึ่งถือว่าเป็นการสร้างกำลังใจในแบบศาสนาพุทธ ไม่เชื่อก็ต้อง “เชื่อ” สิ่งเหล่านี้ที่ตอนแรกฝรั่งไม่เชื่อแต่ท้ายที่สุด “ทีมก็เป็นแชมป์”

สุดท้ายกุญแจสำคัญที่พาทีมประสบความสำเร็จในฤดูกาลนี้ที่เห็นได้ในสนาม คือ “ทุกคนสู้ลืมตาย” ทั้งนักเตะที่เคยถูกมองว่าเป็นพวกของเหลือ และ กุนซือที่เคยถูกคนทั้งวงการหัวเราะเยาะ

กับผลงานในสนามฤดูกาลที่ต้องบอกว่าเป็น “เรื่องมหัศจรรย์” กับความสำเร็จในการเป็นแชมป์ลีกสูงสุดของฟุตบอลที่ได้รับความนิยมมากที่สุดในโลกครับ 

 

ของเลสเตอร์