คำเท่ ๆ ที่หลายคนเคยได้ยินตามหนังฮ่องกง แนวมาเฟียชอบใช้กัน แต่จะมีสักกี่คนที่สามารถ “นิ่ง” ได้ในชีวิตจริง โดยเฉพาะกับเรื่องการเงินและการลงทุน

คำนี้อาจรู้สึกเหมือนอยู่กันคนละวงการ แต่ถ้าอยากรุ่งเรืองแล้วละก็ ความนิ่งเป็นสิ่งที่ควรคู่กับนักลงทุนชั้นเซียนเลยทีเดียว 

ทำไม?

ผมเคยได้คุยกับเจ้าพ่ออสังหาฯ เขาแบ่งปันแนวคิดเรื่องกฎการเก็บเงิน ซึ่งดีมาก ๆ ให้ผมได้ทราบ

คนส่วนใหญ่เวลาเก็บเงินแล้ว พอเกิดเหตุการณ์อะไรบางอย่างที่ต้องใช้เงินแบบเร่งด่วน ก็มักจะมาเอาเงินจากกองที่เป็นเงินออมเพื่อการลงทุนไปใช้ ทั้ง ๆ ที่ตกลงกับตัวเองเอาไว้แล้วว่า จะไม่แตะเงินกองนี้เด็ดขาด ถ้าไม่ใช่เพื่อ “การลงทุน” 

ทำให้ไม่มีเงินมากพอที่จะไปลงทุนสักที...นี่แหละคือสิ่งที่เรียกว่า “ใจไม่นิ่ง”

แต่สำหรับเขาแล้ว กฎตายตัวที่ “ห้ามฝ่าฝืนเด็ดขาด” คือ เงินทุกบาททุกสตางค์ที่จ่ายเข้าไปในส่วนที่เป็นเงินออมนั้น เปรียบเสมือนกับ “เงินที่จ่ายให้ตัวเองไปแล้ว” ไม่มีสิทธิเรียกร้องคืนเด็ดขาด เหมือนเวลาเราจ่ายค่าน้ำ ค่าไฟ ค่าโทรศัพท์ ค่างวดรถ ค่างวดบ้าน คุณจ่ายไปแล้ว เอาคืนไม่ได้ ไม่ว่ากรณีใด ๆ ทั้งสิ้น  

ค่าที่เราจ่ายไปเหล่านี้ก็เหมือนกัน เมื่อจ่ายไปแล้ว  “ห้ามเอาคืน” ถ้าอยากได้เงิน ร้อนเงิน ไปหาเอาที่อื่น!!

พอผมฟังเรื่องนี้เสร็จ ผมก็บอกตัวเองเลยว่า นี่แหละคือจุดแตกต่างของนักลงทุนที่สำเร็จและไม่สำเร็จ เพราะนี่มันเป็นเรื่องของ “วินัย” 

ใครมีวินัยที่แข็ง ก็มักจะเล่นตามเกม เดินตามระบบ ลงทุนอย่างนิ่ง ๆ แต่ระยะยาว เมื่อถึงเวลา ผลดอกก็งอกเงยออกมาตามแผนเป็นธรรมดา 

แต่กับนักลงทุนที่ไม่มีวินัย ใจไม่นิ่งพอ เอะอะก็แหกกฎ เอะอะก็ออกนอกระบบ รู้ตัวอีกทีก็ออกนอกเกม แผนการเงินที่อุตส่าห์วางไว้ซะสวยหรูก็สลายหายไป 

ยิ่งในวงการหุ้น นี่มีตัวอย่างให้เห็นตั้งไม่รู้เท่าไร สนามซ้อมนี่วินัยเยี่ยม ระบบอย่างเซียน พอเป็นสนามจริงเท่านั้นแหละ จังหวะออกไม่ยอมออก จังหวะ Cut  ไม่ยอม Cut ติดดอยกันซะสูงลิบ 

หรือง่าย ๆ แค่เรื่องการเก็บเงิน มีวิธีการต่าง ๆ นานาร้อยแปดพันเก้า เช่น 6 Jars บ้าง เก็บแบงค์ 50 บ้าง เก็บวันละ 100 บ้าง แล้วแต่ความชื่นชอบของแต่ละคน ซึ่งก็ต้องบอกว่าของแบบนี้ “ใคร ๆ ก็เริ่มได้ แต่ไม่ใช่ทุกคน ที่จบได้” 

ในมุมมองผมนั้น คนที่เก่งในเรื่องการเงิน เก่งในเรื่องของการลงทุน ไม่ใช่แค่คนที่เรียนรู้เก่ง ไม่ใช่แค่คนที่ข้อมูลแน่น ไม่ใช่แค่คนที่ต้นทุนชีวิตดี 

แต่เป็นคนที่  “ควบคุมตัวเองเป็น” 

มันอาจจะดูเหมือนเป็นเรื่องเล็ก มันอาจจะดูเหมือนเป็นเรื่องง่าย ๆ แต่คนเราเมื่อมีปัจจัยหลายอย่างมารุมเร้าจิตใจ ความโลภ ความเสียดาย ความกังวล ความกลัว 

จังหวะนี้แหละที่ต้องถามตัวเองว่า 

“ใจคุณนิ่งแค่ไหน?” 

Know Him

ภาสกร ไวยวรรณะ  (โค้ชสอง) 

Action Coach ของประเทศไทย ผู้เปลี่ยนชีวิตผู้คนมาแล้วมากมาย ด้วยแนวคิดการประสบความสำเร็จด้วยการเริ่มต้นลงมือทำ 

เจ้าของหนังสือ Bestseller  “เปลี่ยนนักฝันเป็นนักลงมือทำ”