ค่าเงิน กับ ค่าตัว อะไรวิ่งไวกว่ากัน ???

ค่าเงิน กับ ค่าตัว อะไรวิ่งไวกว่ากัน ???

นี่คือคำอุทานของผม ตอนรู้รายละเอียดค่าเทอมอนุบาลของลูกสาวคนโตผม เมื่อประมาณ 12 ปีที่แล้ว คืออารมณ์ประมาณว่า ค่าใช้จ่ายอนุบาลนี่ มันแพงกว่าค่าหน่วยกิต สมัยผมเรียน ABAC อีกนะ ซึ่งสมัยนั้นก็ถือว่าแพงมากแล้วนะ แต่มาเจอค่าเทอมอนุบาลโรงเรียนเอกชนของไทย ที่ขนาดว่าไม่ใช่อินเตอร์ ยังอุทานแทบตกเก้าอี้ มันอะไรกันเนี่ย

คุณฉุกคิดอะไรบ้างไหมครับ? ว่าอะไรอะไร มันแพงขึ้นแพงขึ้นไวจริงๆ แค่เราเผลอสนุกสนานไปวันๆ จนเราเรียนจบมา เริ่มทำงานมาปีสองปีแป๊บเดียว คุณลองนึกย้อนหลังดูสิว่า ตอนเราเด็กๆ ใครขับรถเบนซ์คันละล้านนี่ หรูโคตร มหาเศรษฐีแน่ๆ แต่เดี๋ยวนี้ มีล้านหนึ่งนี่ยังซื้อรถญี่ปุ่นคันใหญ่หน่อยไม่ได้เลยนะ แล้วเราจะไม่วางแผนการเงินล่วงหน้ากันหน่อยหรือครับ? ต้องคิดหนักแล้วล่ะ ว่า “ค่าเงิน” กับ “ค่าตัว” อะไรมันวิ่งไวกว่ากัน แล้วถ้ามันวิ่งไม่สัมพันธ์กันล่ะ เราจะทำยังไงกัน

มาลองเทียบง่ายๆ กันดู ตอนผมจบ ABAC เมื่อปี พ.ศ. 2537 เงินเดือนผมเริ่มที่ 13,000 บาท แต่ตอนนี้คนจบปริญญาตรีเงินเดือน 15,000 บาท เพิ่มขึ้นนิดเดียวเองนะผ่านมาตั้ง 20 ปี ทำไมเงินเดือนเพิ่งจะเพิ่มนิดเดียว แล้วลองมาดูค่าเทอมเด็กอนุบาลสิ แค่ 20 ปี มันไปไกลกว่าค่าหน่วยกิต ABAC ไปกี่เท่าแล้ว โอ้ว พระเจ้าจอร์จ คลูนี่ย์ แล้วคุณจะยังใช้ชีวิตไปวันๆ แบบไม่วางแผนการเงิน หรือ เพิ่มรายได้ให้ตัวเองที่มันมากกว่าเงินเดือน ที่อีก 20 ปี อาจจะเพิ่มแค่กะจึ๋งเดียวอีกเหรอ

รู้สึกเหมือนมีใครเอาหินมาขว้างใส่หัวไหมครับ พอเห็นตัวเลขแบบนี้แล้วมาเริ่มเลย ลงมือตั้งแต่วันนี้ที่พอคุณแต่งงาน มีลูกแล้ววันไปจ่ายค่าเทอมจะได้ไม่ต้องเป็นลมให้ครูอนุบาลมาปฐมพยาบาลคุณ อะอ๊า! ถ้าคุณจะเถียงว่าไม่เอา ฉันจะไม่แต่งงาน ไม่มีลูก ให้เปลืองฉันหรอก แต่ขอโทษนะครับ ที่ต้องบอกความจริงว่า ยังไงคุณก็ต้องแก่ ต้องป่วย แต่แค่เป็นหวัด เข้าโรงพยาบาลเอกชนโดนแน่ๆ 2-3 พันนะครับ ดังนั้นหยุดหาข้ออ้างแล้วมาเริ่ม

ค่าเงิน กับ ค่าตัว อะไรวิ่งไวกว่ากัน ???
ค่าเงิน กับ ค่าตัว อะไรวิ่งไวกว่ากัน ???

• เริ่มออมเงิน ให้มีเหลือเก็บ แค่พยายามใช้ให้น้อยกว่าที่หามาได้ 

(คุณผู้ชายครับ เที่ยวและดื่มให้น้อยลงหน่อย เงินเหลือแน่นอนครับ)

• หักดิบให้หักเงิน 10% ของเงินเดือนมาแยกบัญชีไว้ เตรียมเป็นเงินลงทุนที่ไปหารายได้มากกว่าเงินฝากธนาคาร

(แหม ที่เปิด member เกิน 10% ของเงินเดือนยังเปิดได้ อย่าบอกว่าหัก 10% แล้วไม่พอใช้นะ)

• ศึกษาหาทางเพิ่มรายได้ให้ตัวเอง เดี๋ยวนี้ผมว่าคนที่มีรายได้จากเงินเดือนอย่างเดียวไม่ปลอดภัยแล้วนะครับ

(ขายของทาง NET รับจ้างทำงานพิเศษ หุ้นกับเพื่อนเปิดร้านอะไรสักอย่าง ฯลฯ ลองดู)

• เมื่อศึกษาข้อมูลจนเริ่มมั่นใจแล้ว เริ่มลงทุนครับ ไม่ว่าจะกองทุนรวม บัญชีออมหุ้น หรือซื้อหุ้นเพื่อลงทุนระยะยาว

(แนะนำว่า ต้องศึกษาหาข้อมูลให้ดีครับ การลงทุนมีความเสี่ยง แต่การไม่ยอมลงทุนมันเสี่ยงกว่า ผมเชื่อว่าไม่มีอะไรเกินความพยายามครับ)

นี่แค่เบื้องต้นของยุทธวิธี ไม่ให้ค่าเงิน มันวิ่งเร็วเกินค่าตัวนะครับ แค่อยากจะเตือนท่านๆ ทั้งหลายไว้ เพราะบางทีใช้ชีวิตเพลินเกินห้ามใจ มารู้สึกตัวอีกทีนี่มันเลยไปไกลเกินจะยูเทิร์นซะแล้ว ไว้มีโอกาสจะมาเล่าอะไรสนุกๆ ให้ฟังต่อนะครับ 

มีผลการวิจัยมากมายที่ระบุว่า  ผู้ชายเรามีนิสัยกล้าได้กล้าเสีย กล้าตัดสินใจอะไรเสี่ยงๆ มากกว่าผู้หญิง จุดนี้แหละที่เป็นจุดหนึ่งที่ต้องระวังเพราะการตัดสินใจแบบเด็ดขาดกับการวางแผนล่วงหน้าบางทีมันไม่ได้มาพร้อมๆ กัน อยากจะให้ลอง “หยุด” แล้ว“คิด” เรื่องชีวิตล่วงหน้าสักนิดหนึ่ง โดยเฉพาะอย่างยิ่ง เรื่อง “ค่าเงิน” กับ “ค่าตัว” ที่ผมอยากพูด เพราะผมเห็นหลายคนมากๆ ที่ประมาทในเรื่องนี้ และไม่มีการวางแผนล่วงหน้า มันคงเหมือนบางที คุณอาจจะต้องโดนหินหล่นใส่หัวก่อน แล้วถึงจะแหงนมองว่าข้างบนมันมีการก่อสร้าง “มันอันตราย”

ค่าเงิน กับ ค่าตัว อะไรวิ่งไวกว่ากัน ???
ค่าเงิน กับ ค่าตัว อะไรวิ่งไวกว่ากัน ???

Know Him

โอภาส  ถิรปัญญาเลิศ (ใหญ่)

ผู้เขียนหนังสือ “พลิกพอร์ตหุ้น ใหญ่ HI”  และผู้ชนะเลิศโครงการ “The stock master” รุ่นที่ 1 ของหลักทรัพย์บัวหลวงติดตามพูดคุยกับคุณใหญ่ต่อได้ทาง   Facebook FANPAGE : พลิกพอร์ตหุ้นใหญ่ HI

หา !!! อะไรนะ บ้าไปแล้ววววววววววววว !!!