ชีวิตความเป็นอยู่ในเมืองกรุงปัจจุบัน นอกจากหลายคนจะทำงานหาเช้ากินค่ำแล้ว เรื่องที่อยู่อาศัยเป็นหลักแหล่งก็อาจจะยังไม่พร้อม ต้องเช่าหอ หรือคอนโดอยู่ แต่ด้วยรายจ่ายที่อาจไม่คาดฝันอาจเกิดขึ้นได้ทุกเมื่อ ก็มีโอกาสทำให้การค้างค่าเช่าเกิดขึ้นได้ แต่ในกรณีของ ริน เจ้าของห้องเช่าที่เธออยู่อาจจะดูโหดร้ายไปเสียหน่อย

ริน เป็นเด็กสาวที่เข้ามาแสวงหาโชคในเมืองใหญ่ ด้วยความรู้ระดับมัธยมปลายทำให้เธอไม่สามารถทำงานที่รับค่าตอบแทนสูงๆ ได้ ด้วยความอุตสาหะ นอกจากจะทำงานประจำแล้ว เธอยังหารายได้พิเศษจากการขายของนอกเวลางาน อีกทั้งหาเวลาว่างไปเรียนมหาวิทยาลัยเปิดแห่งหนึ่ง เพื่อหวังว่าจะมีชีวิตที่ดีขึ้นในวันข้างหน้า

ชีวิตเธอดีขึ้นนับ จากวันแรกที่มาถึงกรุงเทพฯ ด้วยเงินเดือนเพียงไม่กี่พันบาท แต่วันนี้ เธอก็สามารถจะซื้อข้าวของเครื่องใช้ที่มาอำนวยความสะดวกสบายให้กับเธอได้ ไม่ว่าจะเป็น โทรทัศน์ ตู้เย็น เครื่องซักผ้า หรือแม้กระทั่งเครื่องประดับเล็กๆ น้อยๆ

ด้วยชีวิตมิได้มีเพียงความสุขอย่างเดียว การที่เธอทำงานหนักเกินไปทำให้ล้มป่วย และไม่สามารถหาเงินได้ตามปกติ เป็นเหตุให้ต้องติดค้างค่าเช่าห้องที่เธออาศัยอยู่

ในช่วง เดือนแรกทางเจ้าของก็ยังอนุโลมให้ แต่แล้วพอเข้าเดือนที่สอง เธอก็ต้องพบกับเรื่องไม่คาดฝัน

เพราะทางเจ้าของห้องเช่าที่เธอพักอยู่ กลับล็อกห้องของเธอ ทำให้เธอไม่สามารถเข้าห้องได้ จนกว่าเธอจะนำเงินมาจ่ายค่าเช่าให้หมด

รินพยายามเจรจาต่อรองอย่างไรก็ไม่เป็นผล เธอจึงตัดสินใจที่จะย้ายออก เมื่อตัดสินใจเช่นนั้น ทางเจ้าของห้องเช่ากลับบอกว่าจะไม่คืนเงินมัดจำทั้งหมดให้ โดยอ้างว่าเพราะเธอกระทำผิดสัญญาเช่า

ริน : หนูมีเงินค่ามัดจำตั้ง 15,000 บาท หนูไม่ได้ทำอะไรของป้าเสียหายเลยแม้แต่น้อย หักค่าเช่าสองเดือนก็แค่ 5,000 บาทเท่านั้น ต้องคืนเงินมัดจำที่เหลือ

เจ้าของห้องเช่า : ไม่คงไม่คืนอะไรทั้งนั้นล่ะ มีอย่างที่ไหนทำให้เกิดเรื่องวุ่นวายแล้วยังจะมาทวงเงินมัดจำอีก ในสัญญาเช่าก็ระบุไปแล้วว่าเช่ากัน 1 ปี หากออกก่อนกำหนดจะไม่คืนค่ามัดจำให้ และหากทำให้เกิดความเสียหายก็ต้องชดใช้

ริน : ในสัญญาก็ไม่ได้ระบุไว้เช่นกันว่าเมื่อผู้เช่าผิดสัญญา ผู้ให้เช่าสามารถใช้สิทธิครอบครองทรัพย์สินที่เช่าได้ทันที ป้าก็ไม่มีสิทธิ์มาล็อกห้องเช่าเช่นกัน ถ้าป้าไม่คืนหนูก็จะฟ้องศาล

เจ้าของห้องเช่า : จะฟ้องก็เชิญเลย

Q : เอาล่ะครับ เรื่องมาถึงตรงนี้ ริน ต้องการจะย้ายออก และขอคืนเงินมัดจำในส่วนที่เหลือจากหักค่าเช่าแล้วจะได้หรือไม่ และเจ้าของห้องเช่าสามารถเข้าไปล็อกห้องของเธอได้หรือไม่

A : ตามอุทาหรณ์ในเรื่องของเงินมัดจำ รินเป็นฝ่ายผิดสัญญาต่อเจ้าของห้องเช่า โดยไม่ชำระค่าเช่าตามกำหนดระยะเวลาอีกทั้งยังเลิกเช่าก่อนกำหนดตามสัญญาเช่าอีกด้วย การกระทำดังกล่าวของรินจึงเป็นการเลิกสัญญา เพราะความผิดของรินเอง ดังนั้นเจ้าของห้องเช่าจึงสามารถริบเงินมัดจำของรินได้ตามประมวลกฎหมายแพ่งและพาณิชย์มาตรา 378 (2)

ส่วนกรณีเจ้าของห้องเช่าสามารถเข้าล็อกห้องของรินได้หรือไม่นั้น จากข้อเท็จจริงในสัญญาเช่าไม่มีการตกลงระบุถึงการที่ให้ผู้ให้เช่าสามารถใช้สิทธิครอบครองที่เช่าได้ทันที เมื่อผู้เช่าผิดนัดไม่ปฏิบัติตามสัญญาแต่อย่างใด เมื่อมีการเช่าเกิดขึ้นเท่ากับผู้ให้เช่าได้มีการมอบสิทธิการครอบครองแก่ผู้เช่าให้สามารถอยู่อาศัยอย่างเป็นปกติสุข ดังนั้นเจ้าของห้องเช่าจึงไม่มีอำนาจเข้าไปรบกวนการครอบครองของรินให้เกิดความไม่ปกติสุขแต่อย่างใด การกระทำดังกล่าวของเจ้าของห้องเช่าจึงมีความผิดฐานบุกรุกตามประมวลกฎหมายอาญา มาตรา 362

อย่างไรก็ตามปัญหาสามารถแก้ไขคลี่คลายได้หากยอมรับและเห็นใจในความเสียหายของผู้อื่น โดยมิได้คิดถึงแต่เพียงประโยชน์ส่วนตนเท่านั้น

ประมวลกฎหมายแพ่งและพาณิชย์
มาตรา 378 มัดจำ นั้น ถ้า มิได้ตกลงกันไว้ เป็นอย่างอื่น ท่านให้เป็นไป ดังจะกล่าว ต่อไปนี้ คือ
(2) ให้ริบ ถ้าฝ่ายที่วางมัดจำละเลยไม่ชำระหนี้หรือการชำระหนี้ตกเป็นพ้นวิสัยเพราะพฤติการณ์อันใดอันหนึ่งซึ่งฝ่ายนั้นต้องรับผิดชอบหรือถ้ามีการเลิกสัญญาเพราะความผิดของฝ่ายนั้น

ประมวลกฎหมายอาญา
มาตรา 362 ผู้ใดเข้าไปในอสังหาริมทรัพย์ของผู้อื่นเพื่อถือการครอบครองอสังหาริมทรัพย์นั้นทั้งหมดหรือแต่บางส่วน หรือเข้าไป กระทำการใดๆ อันเป็นการรบกวนการครอบครองอสังหาริมทรัพย์ ของเขาโดยปกติสุข ต้องระวางโทษจำคุกไม่เกินหนึ่งปี หรือปรับ ไม่เกินสองพันบาท หรือทั้งจำทั้งปรับ


Word of Wisdom
อย่าใช้ช่องว่างของกฎหมายเพื่อช่วยเหลือคนกระทำผิด
นิติธัช

ผิดสัญญา ... ผิดใจ