ในฉบับที่แล้วได้เกริ่นถึงเรื่องของการมาถึงของโทรทัศน์ความละเอียดสูงที่ละเอียดกว่า Full HD ถึง 4 เท่าตัว ซึ่งถูกคาดหมายว่าจะมาเติมเต็มความบันเทิงในห้องนั่งเล่นได้อย่างสมบูรณ์แบบ ...

อย่างไรก็ดี การที่โทรทัศน์ Ultra HD, 4K เป็นเทคโนโลยีใหม่ (หรือชื่ออื่นที่คล้ายๆ กันนี้ แต่เพื่อความเข้าใจตรงกันในที่นี้ผมขออนุญาตเรียก 4K นะครับ) ที่สำคัญคือยังมีราคาค่อนข้างสูง ดังนั้นจึงเป็นการดีกว่าที่เราจะมาทำความเข้าใจถึงตัวเทคโนโลยี ข้อดีข้อเสีย รวมไปถึงการเตรียมตัว จะทำอย่างไรเพื่อที่จะได้สามารถใช้ประโยชน์หรือสัมผัสอรรถรสที่เทคโนโลยี 4K พึงให้ได้อย่างเต็มที่จริงๆ ... โดยต่อไปนี้คือคำถามน่าสนใจที่ผมได้รวบรวมคำตอบมาฝากครับ

Full HD กับ 4K ต่างกันจนรู้สึกได้?

แน่นอนครับว่าเราจะสามารถรับรู้ถึงความละเอียดที่สูงขึ้นได้อย่างชัดเจน เนื่องจากเทคโนโลยี 4K จะมีจำนวนจุดพิกเซลบนหน้าจอมากถึง 8 ล้านจุด เทียบกับ Full HD ที่มีแค่ 2 ล้านจุดเท่านั้น นอกจากนี้ด้วยความล้ำหน้าของพาเนลจอรุ่นใหม่เหล่านี้ก็คือการให้ความกว้างของสีและมิติของภาพที่ลึกขึ้น แต่แน่นอนว่าคุณจะไม่สามารถสัมผัสถึงข้อได้เปรียบเหล่านี้ได้เลยถ้าหากไม่ได้รับชมภาพยนตร์หรือเนื้อหาที่เป็นแบบ 4K จริงๆ (Native 4K) 

แล้วปัจจุบันมีเนื้อหา 4K ให้ดูมากน้อยแค่ไหน? 

ถือเป็นเรื่องชี้เป็นชี้ตายว่าซื้อโทรทัศน์ 4K มาแล้วจะใช้คุ้มหรือไม่ ข่าวดีก็คือผู้ให้บริการชื่อดังอย่าง Netflix, Amazon, M-GO  ได้ประกาศว่าจะเปิดให้บริการ 4K ภายในปีนี้แน่นอน ประเดิมโดย Netflix ในเดือนเมษายนที่ผ่านมา นอกจากนี้สถานีโทรทัศน์หลายแห่งในยุโรป เกาหลีใต้ และญี่ปุ่น ซึ่งฟุตบอลโลก 2014 ที่บราซิลที่ผ่านพ้นไปหมาดๆ นั้นก็มีการถ่ายทอดสดในความละเอียด 4K ด้วย

ข่าวร้ายก็คือทั้งหมดที่บอกไปนั้นไม่ได้เฉียดมาบ้านเราเลยสักนิด แต่ช้าก่อน อย่างน้อยขณะนี้ก็มีข่าวว่า โซนี่ เตรียมนำภาพยนตร์จาก Sony Pictures มารีมาสเตอร์เป็น 4K และนำใส่เซิร์ฟเวอร์ให้ลูกค้า “ยืม” ไปดูกันได้หากใช้โทรทัศน์ ‘โซนี่’  ... สรุปว่าความหวังเดียวของบ้านเราตอนนี้เห็นจะมีแค่ YouTube เท่านั้น (แต่อย่าลืมอัพเกรดความเร็วเน็ตให้เป็น 20Mbps เป็นอย่างน้อยด้วยล่ะ)

แล้วถ้าดูบลูเรย์บนโทรทัศน์ 4K จะเป็นอย่างไร?

ก่อนหน้านี้เราคงเคยเห็นพวกเครื่องเล่นดีวีดีที่สามารถ ‘อัพสเกล’ ความละเอียดมาตรฐาน 480p ให้เป็น 1080p สำหรับเล่นบนโทรทัศน์ Full HD ได้ ในทิศทางเดียวกัน เครื่องเล่นบลูเรย์รุ่นใหม่ ก็จะมีความสามารถในการอัพสเกลความละเอียด 1080p ให้เป็น 4K (ปัจจุบันโทรทัศน์ 4K ทุกรุ่นจะมีความสามารถในการอัพสเกลภาพโดยอัตโนมัติ) ซึ่งถามว่าภาพที่ได้จะสวยงามและชัดเปรี๊ยะเท่าเนื้อหาที่มีความละเอียดเต็ม 4K จริงๆ หรือไม่ผมเดาว่าทุกท่านคงตอบเองในใจได้

แล้วแผ่นบลูเรย์ที่ติดสติ้กเกอร์ว่า ‘Mastered in 4K’ ล่ะ?

นี่เป็นเรื่องของการตลาดล้วนๆ แถมยังทำให้ผู้บริโภคอย่างเราๆ สับสนอีกต่างหากซึ่งความจริงแล้วแผ่นบลูเรย์เหล่านี้มีความละเอียดสูงสุดแค่ 1080p เท่านั้น เพียงแต่ในกระบวนการผลิตนั้นได้นำต้นฉบับภาพยนตร์ที่เป็นแบบ 4K มาบีบอัดเพื่อให้เข้ากับมาตรฐานและสามารถเล่นกับเครื่องเล่นบลูเรย์ในปัจจุบันเท่านั้น ... ความละเอียดไม่ได้เพิ่มเป็น 4K แต่อย่างใด

ถึงตรงนี้ ถ้าคุณเข้าใจและยอมรับได้กับข้อจำกัดคร่าวๆ ที่ผมบอกไปได้ ก็เชิญไปรับตัวพวกมันมาเป็นเพื่อนในห้องนั่งเล่นได้เลย แต่ถ้ายังลังเล ผมจะบอกให้ว่าตอนนี้มีการพูดถึงและทดสอบเทคโนโลยี 8K ที่ละเอียดกว่า 4K ถึง 4 เท่ากันแล้ว!