Misbelieve

Misbelieve

6. ปวดหัว ตัวร้อน ต้องพาราฯ 

เคยสังเกตไหมครับว่าทุกครั้งที่เราไปพบแพทย์ ด้วยอาการไม่ว่าจะอะไรก็ตาม ยาอย่างหนึ่งที่เรามักจะได้กลับมาเสมอๆ ก็คือ ยาพาราเซทามอล บางคนเป็นหวัด บางคนเป็นไข้ แต่หลังจากที่กินยาชนิดนี้ลงไปแล้ว อาการที่เป็นก็ดีขึ้น และทำให้เรารู้สึกดีขึ้นทั้งๆ ที่ความเป็นจริงแล้วร่างกายเรากำลังโดนหลอกอยู่ เพราะการกินยาพาราฯ เข้าไปนั้น ไม่ใช่เป็นการแก้ปัญหาที่ถูกจุด

 

ก่อนอื่นต้องขออธิบายง่ายๆ ก่อนว่า ร่างกายของมนุษย์ทุกคนนั้น มีสารชนิดหนึ่งที่สามารถต่อสู้กับโรคภัยต่างๆ ที่เข้ามากร่ำกรายร่างกายเราอยู่แล้ว นั่นก็คือ เม็ดเลือดขาว และเมื่อเราเจ็บป่วยเม็ดเลือดขาวก็จะต่อสู้แทนเราทุกๆ ครั้ง และจะทำงานได้ดีในอุณหภูมิที่สูงกว่าอุณหภูมิร่างกาย หมายความง่ายๆ ก็คือเวลาที่เราตัวร้อนนั้น สาเหตุก็เนื่องมาจากเม็ดเลือดขาวกำลังต่อสู้อยู่ และกำลังจะเอาชนะเชื้อโรคต่างๆ ที่บุกเข้าไป แต่เมื่อเรากินยาพาราเซทามอลเข้าไป ร่างกายก็ปรับอุณหภูมิเข้าสู่ภาวะปกติซึ่งเป็นภาวะที่เชื้อโรคชื่นชอบ ทำให้เม็ดเลือดขาวเสียเปรียบ ไม่สามารถทำงานได้เต็มประสิทธิภาพ โรคที่เป็นอยู่ก็แค่ถูกกดทับไว้เท่านั้น แทนที่ร่างกายจะแข็งแรงเร็วขึ้น กลับกลายเป็นเลี้ยงไข้ไปแทน

 

นอกจากนี้ ยังมีผลข้างเคียงจากยาพาราเซทามอลนี้อีก เพราะส่งผลรุนแรงต่อตับ ดังนั้นไม่ควรกินติดต่อกันเกิน 5 วัน วิธีที่ดีที่สุดในการแก้ตัวร้อนก็คือการเช็ดตัว เพราะจะช่วยทำให้ร่างกายถูกกระตุ้น และทำงานได้มีประสิทธิภาพที่สุด ส่วนอาหารปวดหัวพักผ่อนให้เพียงพอแค่นี้อาการก็ดีขึ้นเอง อย่าถึงขั้นต้องกินยาเลยครับ

 

7. อาหารเสริมรักษาโรค

ถ้าลองอ่านสลากข้างขวดของอาหารเสริมทุกขวดดีๆ จะเห็นได้อย่างชัดเจนว่า มีการเขียนระบุไว้ว่า “ไม่มีผลต่อการรักษาโรค”เพราะอาหารเสริมก็คืออาหารเสริม ไม่ใช่ยาที่จะทำหน้าที่เข้าไปรักษาโรคใดๆ ได้ อาหารเสริมนั้นเป็นเพียงตัวช่วยที่ทำให้ร่างกายได้รับสารอาหารต่างๆ ที่ขาดในรูปแบบที่รวดเร็วและสะดวกเท่านั้น แต่ไม่สามารถรักษาโรคนั้นๆ ที่เป็นได้อย่างร้อยเปอร์เซ็นต์

 

การกินอาหารเสริมยังทำให้ผู้คนหลงผิดคิดว่าไม่จำเป็นต้องห่วงสุขภาพ ละเลยต่อการกินอาหารที่ดี รวมไปถึงไม่ออกกำลังกายเพราะแม้อาหารเสริมระดับเทพก็คงไม่สามารถช่วยเยียวยาใดๆ ได้อย่างแน่นอน ดังนั้นการกินอาหารดีๆ ผักสด ผลไม้สด ข้าวกล้อง รวมทั้งออกกำลังกายเป็นประจำ ก็ทำให้ร่างกายได้รับวิตามินและแร่ธาตุอย่างพอเพียงแล้ว หากแต่ถ้าทำไม่ได้ การรู้จักใช้อาหารเสริมเป็นส่วนช่วยเพิ่มก็เป็นเรื่องที่ดี

 

8. ดื่มน้ำมากๆ ดีต่อสุขภาพแน่นอน

ความเชื่อนี้ทำให้คนจำนวนไม่น้อย ดื่มน้ำกันละทีเป็นลิตรๆ บางคนยิ่งรู้ว่ายิ่งดื่มยิ่งดีต่อสุขภาพ ก็ดื่มวันละหลายขวด หลายลิตรเรียกกันว่าดื่มกันลิตรต่อลิตรเลยทีเดียว การดื่มน้ำเยอะเกินไปแบบนี้เมื่อสะสมเป็นเวลานานเข้า ร่างกายก็จะเกิดอาการปัสสาวะมาก มีสีใส มือเท้าเย็น ทำให้ร่างกายรู้สึกหนาวง่าย นานวันเข้าก็เกิดเป็นอาการสะสมที่เรียกว่าอ่อนเพลียเรื้อรัง ขาอ่อนแรง และมีสิทธิ์ที่จะหย่อนสมรรถภาพทางเพศสูงอีกด้วย

 

เหตุผลง่ายๆ ที่ทำให้เป็นเช่นนี้ เพราะเวลาดื่มน้ำเข้าไปมากๆ นั้น ไตก็จะทำหน้าที่คัดกรองสิ่งที่เป็นประโยชน์ต่อร่างกายเก็บไว้เช่น เกลือแร่ แต่เมื่อเราดื่มน้ำเข้าไปมากเกินความจำเป็น ก็ทำให้ไตทำงานมากขึ้น เมื่อผ่านช่วงเวลาสะสมนานเข้า ก็กลายเป็นอาการ “พร่องพลังไต” นั่นเอง

 

แต่ก็ไม่ใช่ว่าทุกคนจะพร่องพลังไตกันหมด เพราะแม้ในมื้ออาหารที่เรากินเข้าไปในแต่ละมื้อจะมีน้ำอยู่แล้ว และเราก็กินน้ำอยู่ตลอดทั้งวัน แต่ร่างกายเราก็มีการขับถ่ายของเสียประเภทน้ำออกทางเหงื่อ ปัสสาวะ แถมยังใช้ในกระบวนการต่างๆ ของร่างกายอยู่แล้ว ดังนั้นหากไม่ดื่มน้ำเลยหรือดื่มน้ำน้อยไปก็ส่งผลเสียต่อสุขภาพเช่นกัน ทางออกที่ดีที่สุดก็คือ อย่ารอให้หิวกระหายน้ำแล้วค่อยดื่มน้ำ แต่ควรจิบน้ำอยู่เป็นประจำตลอดทั้งวัน ไม่ต้องกลัวว่าจะต้องไปเข้าห้องน้ำบ่อย หรือจะทำให้ไตทำงานหนัก เพราะการดื่มน้ำสะอาดๆ เป็นประจำอย่างน้อยวันละ 8 แก้ว มีผลทำให้ผิวเรามีสุขภาพดี รวมไปถึงร่างกายเราก็สุขภาพดีอีกด้วย

 

9.กินไขมันแย่ ตายผ่อนส่ง

เป็นอีกหนึ่งความเชื่อที่หลายๆ คนคิดและยืนยันในการเลือกกินอาหารไร้มัน เพราะจะทำให้น้ำหนักขึ้น แต่นั่นไม่ใช่ทั้งหมดของสิ่งที่ไขมันมีอย่างแน่นอน เพราะนอกจากความอ้วนแล้ว ไขมันยังมีประโยชน์ในส่วนของเป็นสารประกอบพื้นฐานในเยื่อหุ้มเซลล์ช่วยสร้างเนื้อเยื่อของสมองและเส้นประสาท และมีความสำคัญในการทำให้เซลล์ เนื้อเยื่อ ต่อม และอวัยวะต่างๆ ทำงานได้ตามปกติ แถมยังเป็นตัวช่วยในการซ่อมแซมเซลล์ที่เสื่อมสภาพและให้พลังงานที่เสถียรกับร่างกายในระยะยาว

 

ไขมันยังเป็นตัวที่ช่วยในเรื่องของการละลายวิตามิน A, D, E, K ซึ่งมักจะพบมากในพวกถั่วเปลือกแข็งต่างๆ เช่น อัลมอลด์ วอลนัท เมล็ดธัญพืชต่างๆ หรือแม้กระทั่งอาหารจำพวกปลาที่มีไขมันสูงก็มีประโยชน์ เช่น ปลาแซลมอน ปลาทูน่า หรือผลไม้อย่างอะโวคาโด้ มะกอก ก็มีกรดไขมันตัวดีที่นำไปใช้และก่อให้เกิดประโยชน์ต่อร่างกายด้วยเช่นกัน

 

10.  กินผลไม้เยอะๆ มีประโยชน์

ความเชื่อนี้เกือบจริง เพราะผลไม้เป็นสิ่งที่มีประโยชน์และมีวิตามิน แถมมีกากใยอีกต่างหาก แต่นั่นไม่ได้หมายความว่าการกินผลไม้ชนิดเดียวกันมากๆ ต่อเนื่องยาวนาน จะมีประโยชน์ อย่างเช่น ถ้าเรากินทุเรียนหลังอาหารเย็นทุกวัน คุณคิดว่าจะทำให้สุขภาพดีขึ้นไหม เพราะในผลไม้นั้นมีน้ำตาลฟรุกโตสเป็นสารให้ความหวานหลัก ซึ่งมีโอกาสส่งผลให้ผู้ป่วยที่ป่วยเป็นโรคเบาหวานมีอาการน้ำตาลในเลือดสูง หรือแม้กระทั่งผู้ป่วยโรคหัวใจหรือความดันโลหิตสูงก็ตาม ผลไม้บางชนิดก็ไม่เหมาะด้วยเช่นกัน

 

โด๊ปยาเองถึงตาย

คงเคยได้ยินกันบ่อยๆ สำหรับคำว่า โด๊ปยา แต่ยาโด๊ปที่จะพูดถึงครั้งนี้ไม่ใช่ยาโด๊ปแบบนั้น แต่เป็นยาโด๊ปที่ช่วยรักษาอาการหย่อนสมรรถภาพทางเพศ การโด๊ปยาเองนั้น หากโชคดีก็ไม่เป็นไร แต่หากมีผลข้างเคียงเกิดขึ้น เช่น หายใจไม่ออก ช็อกไม่รู้สึกตัว เจ็บหน้าอก ฯลฯ ก็มีสิทธิ์ที่จะทำให้เสียชีวิตได้ ดังนั้นแล้วหากอยากเสริมสมรรถภาพทางเพศจริงๆ ปรึกษาแพทย์ผู้เชี่ยวชาญดีกว่าครับ 

 

เคล็ดลับขจัดเครียด

ชีวิตมีอะไรให้คิดและวุ่นวายมากเกินไป ทำให้ความเครียดมาอยู่เป็นเพื่อนได้เสมอๆ การผ่อนคลายความเครียดนั้นทำได้หลากหลายวิธี เช่น เล่นกีฬา ดูหนัง ฟังเพลง ร้องเพลง เล่นดนตรี อ่านหนังสือ เล่นเกม หรือทำกิจกรรมที่คุณชื่นชอบต่างๆ

 

อีกเคล็ดลับหนึ่งก็คือให้ทำตรงข้ามกับสิ่งที่คุณทำเป็นประจำ เช่น ถ้าคุณอยู่กับงาน ก็ควรจะหยุดทำงานเสียบ้าง แล้วผ่อนคลายด้วยการเดิน เพื่อให้ร่างกายได้เคลื่อนไหว เพราะความเครียดนั้นเกิดขึ้นได้ตลอดทั้งวัน เราควรที่จะเรียนรู้ที่จะยอมรับมัน และหาวิธีผ่อนคลายมันอยู่เสมอๆ

 

โรคเรื้อรัง เสี่ยงทำซึมเศร้า

โรคหัวใจและหลอดเลือด เบาหวาน มะเร็ง ถุงลมโป่งพองเรื้อรัง โรคเรื้อรังต่างๆ เหล่านี้ สำหรับบางคนไม่อาจรักษาให้หายขาดได้และนั่นเป็นสาเหตุที่ทำให้เกิดโรคแทรกซ้อนต่างๆ ตามมา และโรคหนึ่งที่มีโอกาสเป็นได้สูงสุดก็คือ โรคซึมเศร้า เพราะผู้ป่วยเหล่านี้มีความวิตกกังวลกับโรค บ้างก็กังวลว่าจะดำรงชีวิตต่อไปอย่างไร บ้างก็กลัวสังคมไม่ยอมรับ บ้างก็กลัวที่จะต้องเสียชีวิตฯลฯ ความวิตกกังวลเหล่านี้ เมื่อสะสมมากๆ เข้า ก็ทำให้ผู้ป่วยไม่อยากจะสุงสิงกับใคร ตรอมใจ และไม่คิดหาทางออก หมกตัวอยู่คนเดียว และกลายเป็นโรคซึมเศร้า มีโอกาสที่โรคที่เป็นอยู่จะทรุดหนักลงมากกว่าเดิม

 

สหพันธ์สุขภาพจิตโลกจึงได้ออกมารณรงค์ เพื่อให้ทั่วโลกให้ความสำคัญกับสุขภาพจิตพอๆ กับสุขภาพกาย โดยมีสโลแกนว่าสุขภาพจะดีไม่ได้ ถ้าสุขภาพจิตไม่ดี (No Health without Mental health) ใครอยากสุขภาพดีก็คงต้องดูแลสุขภาพจิตไปด้วยครับ

 

พญายอ สมุนไพรแก้พิษ

พญายอ สมุนไพรชนิดนี้มีชื่อเรียกหลากหลายชื่อ เช่น พญาปล้องทอง พญาปล้องคำ ผักมันไก่ ผักลิ้นเขียด คุณสมบัติของพญายอก็คือ ใบเป็นยา โดยใบที่ไม่อ่อนไม่แก่เกินไป สามารถรักษาอาการอักเสบของหูได้ดี แถมยังรักษาอาการอักเสบเฉพาะที่จากแมลงสัตว์กัดต่อย มีบางงานวิจัยที่ระบุว่าใบพญายอสามารถฆ่าเชื้อไวรัสที่ก่อให้เกิดโรคอีสุกอีใสและงูสวัดได้อีกด้วย นับว่าเป็นสมุนไพรไทยที่มีประโยชน์หลากหลายจริงๆ

คำว่า ความเชื่อ นั้นวนเวียนอยู่ในสังคมไทยมานานแล้ว