สงกรานต์ เตชะณรงค์

สงกรานต์ เตชะณรงค์

“ผมไปเตะฟุตบอลแล้วโดนกระแทก ปกติผมก็เล่นกันแรงนะครับ ไม่เคยเป็นไรเลย แต่วันนั้นผมโดนเบียดเบาๆ มันคงโดนจุดสำคัญก็เลยเรียบร้อย ผมเคยเล่นกีฬาจนต้องเข้าเฝือกเพราะกระดูกหักมาแล้ว แต่งานนี้เจ็บที่สุดตั้งแต่เจอมา ตอนนี้ก็เลยเล่นเวทอย่างเดียว วิ่งไม่ได้เลย”

 

สงกรานต์ เตชะณรงค์ คือชายหนุ่มคนที่เราคุยด้วย เขาคือลูกชายคนโตของคุณไพวงษ์ เตชะรงค์ ปัจจุบันเขาคือผู้บริหารของโรงแรมโบนันซ่า รีสอร์ท เขาใหญ่ (The Bonanza Khao Yai Hotel) บนอาณาจักรที่มีพื้นที่กว่าห้าพันไร่ เพียบพร้อมทั้งรีสอร์ท โรงแรม สนามกอล์ฟ รวมไปถึงโซนกิจกรรมต่าง อาทิ รถเอทีวี มอเตอร์ไซค์วิบาก ปีนเขา ฯลฯ

 

การได้เข้ามาสานต่อธุรกิจของคุณพ่อ ทำให้คุณสงกรานต์เป็นที่รู้จักในแวดวงสังคมมากขึ้น โดยเฉพาะบรรดาสื่อมวลชน และนั่นก็เป็นเหตุให้เขาได้เข้ามามีบทบาทในวงการบันเทิง หลายคนคงเคยเห็นเขาในหนังโฆษณาผลิตภัณฑ์สำหรับผู้ชายยี่ห้อหนึ่ง และนับจากนี้คงจะได้เห็นหน้าเขามากขึ้น เพราะเขาเพิ่งรับเล่นภาพยนตร์เรื่อง My Best Bodyguard ของค่าย Oriental Eyes งานชิ้นนี้ใช้เวลาถ่ายทำนานกว่าครึ่งปี ทำให้เขาได้เจอกับนักแสดงมากความสามารถหลายๆ ท่าน

 

“ช่วงที่ผมแสดงมีคนประมาณ 30 คนเพ่งเราอยู่ มีทั้งผู้กำกับ มีทีมไฟ ทีมเสียง มันก็ทำให้เราเกร็งๆ เครียดแล้วก็เขินด้วยครับแล้วปัญหาของผมก็คือแอ็คติ้ง เพราะเจอแต่ละคนเก่งๆ ทั้งนั้นเลย กลัวว่าจะไปทำให้คนอื่นช้า รู้สึกไม่ชิน แต่ก็อยากให้ออกมาดีผมก็เต็มร้อย อยากให้คนชอบดู แล้วอยากทำให้คนอื่นประทับใจ”

 

เขายอมรับว่างานทางด้านการแสดงนั้นไม่ใช่งานที่ง่ายๆ ทั้งเรื่องของความชำนาญเฉพาะตัวในการแสดง เรื่องของคิวที่ไม่แน่นอนบางวันถ่ายทำตอนเช้าหรือบางครั้งถ่ายกันตอนมืด

 

“หนังเรื่องนี้เป็นประสบการณ์ที่ดีครับ ถ้าเราอายุเยอะขึ้น เราคงไม่มีโอกาส สภาพคงไม่เอื้ออำนวย อยากให้คนไปดูกันเยอะๆครับ ดูแล้วช่วยติชมผมหน่อย”

 

งานในวงการบันเทิงอาจเป็นเรื่องใหม่สำหรับเขา แต่ถ้าพูดถึงการบริหารงานในโบนันซ่า บอกได้คำเดียวเขาสามารถจัดการกับหลายๆ สิ่งได้อย่างลงตัวทีเดียว กิจกรรมต่างๆ ที่โบนันซ่านั้นมีความหลากหลายจนนับว่าเป็นจุดรวมการพักผ่อนที่ครอบคลุมและสมบูรณ์แบบที่สุดแห่งหนึ่ง และตอนนี้เขายังมีโครงการใหม่มานำเสนออีกด้วยนั่นก็คือ สนามแข่งรถ

 

“สนามแข่งรถจะเสร็จสิ้นประมาณปลายปี งบประมาณที่ใช้ไปก็เยอะพอสมควร แต่เราไม่ได้หวังกำไรเพราะที่บ้านจะชอบเล่นกีฬาความฝันเล็กๆ น้อยๆ ของเราก็คือสนามแข่งรถจะสามารถดึงต่างชาติเข้ามาแข่งได้ ส่วนคนไทยก็จะได้พัฒนาเรื่องกีฬาอีกด้วย”

 

แม้ก่อนหน้าที่เขาจะเข้ามาดูแลโบนันซ่าอย่างเต็มตัวนั้น ที่นี่จะมีระบบการทำงานที่ดีอยู่แล้ว แต่เขาก็สามารถพัฒนาให้ที่นี่มีมาตรฐานขึ้น ทั้งในส่วนของการปรับภาพลักษณ์ เรื่องของงานบริการ และด้านต่างๆ เพื่อความพร้อมในการให้บริการมากที่สุด

 

“การบริหารงานของผม ผมกระจายงานให้หัวหน้างานแต่ละส่วนให้มากที่สุด แล้วเราจะไปดูความเรียบร้อยมากกว่า ไปดูแลแขกที่เข้ามาพัก ดูแลความเรียบร้อยของงานที่เราทำไว้ว่าเป็นอย่างไร ขาดเหลืออะไรเราก็จะมาช่วยเสริม

 

“อย่างปัญหาที่เราพบบ่อยๆ เลยก็คือเรื่องของคน เพราะงานบริการจะได้พบคนอยู่ตลอดเวลา มันไม่ค่อยมีปัญหาใหญ่มากนัก แต่จะมีปัญหาเล็กๆ น้อยๆ ที่สะสมกันมาจนกลายเป็นปัญหาใหญ่ อย่างแขกที่เข้ามาเป็นร้อยคน แต่ละคนก็จะมีปัญหาของตัวเองส่วนการแก้ปัญหาก็คือต้องมีการเตรียมงานให้ดี ถ้าเราไม่เตรียมให้ดีมันจะลำบากภายหลังได้”

 

แม้จะพบกับอุปสรรคต่างๆ แต่เขาก็ยังยืนยันว่า ตัวเองเป็นคนที่มองโลกในแง่ดีเอามากๆ เพราะจะพยายามไม่คิดถึงปัญหาให้ต้องมาเป็นกังวล เขาบอกว่าสำหรับเขานั้นปัญหาคือความท้ายมากกว่า

 

“ตอนนี้ที่ยังขาดอยู่คือเป้าหมายของผมที่ยังไม่บรรลุ นั่นคืออยากทำให้โบนันซ่าสมบูรณ์แบบขึ้นไปอีก ให้มีความพร้อม พนักงานให้การบริการอย่างดีที่สุด อนาคตผมอยากจะมีรีสอร์ทที่อื่นบ้าง มีหลายที่ในเครือ นั่นคือความฝันอย่างหนึ่ง แต่ยังไงมันก็ต้องใช้เวลา อยู่กับหุบเขามานาน ลองเปลี่ยนเป็นแถบทะเลทางใต้บ้างก็น่าจะดี”

 

Know Him

• เขาคือบุตรคนโต ในจำนวนพี่น้อง 4 คน ของคุณไพวงษ์ และคุณภัสสรา เตชะณรงค์ โดยมีน้องอีก 3 คนคือ คุณไพพรรณีคุณพัทธมน และคุณภูผา เตชะณรงค์

• เขาจบการศึกษาเกรด 10 จากประเทศอังกฤษ และปริญญาตรี คณะนิติศาสตร์ จากมหาวิทยาลัยเอแบค

• เมื่อหลายปีก่อนเขาเคยเข้ามาอยู่ในวงการบันเทิงบ้างแล้ว โดยการถ่ายแบบให้กับนิตยสารอย่าง เธอกับฉัน ดิฉัน ฮาร์ท ฯลฯและยังเคยเล่นมิวสิควิดีโอของกรรณิการ์ ซายน์ ในเพลง อย่าโกรธได้ไหม

“ตอนนี้ขาผมเจ็บครับ จะทำงานอะไรที่เกี่ยวกับการใช้ขาก็ลำบาก”