ครั้งนี้ MiX MAGAZINE ได้รับเกียรติจาก บริษัท มาสด้า เซลส์ ประเทศไทย จำกัด ให้ร่วมทำการทดสอบสมรรถนะ Mazda CX-5 XDL เครื่องยนต์ดีเซล 2.2 ลิตร ที่ทั้งแรงและประหยัด ด้วยเทคโนโลยีล้ำสมัยอย่าง SkyActiv บนเส้นทางที่แสนคดเคี้ยวจาก เชียงใหม่ถึงเชียงราย ด้วยระยะทางกว่า 200 กิโลเมตร

Mazda CX-5 ถือเป็นคอมแพกต์เอสยูวี รุ่นใหม่ ที่มาสด้าพัฒนาและผลิตขึ้นเอง โดยไม่อิงกับฟอร์ดเหมือนที่ผ่านมา อันเนื่องมาจากในปัจจุบันมาสด้าไม่ได้อยู่ในร่มเงาของ
ผู้ผลิตรถยนต์จากอเมริกาอีกต่อไป นอกจากนั้นยังเป็นผลผลิตแรกที่มีการพัฒนาขึ้นโดยอิงเทคโนโลยีแบบ SkyActive ทั้งคัน ตั้งแต่ เครื่องยนต์ ช่วงล่าง ระบบขับเคลื่อน โครงสร้างตัวถัง ฯลฯ แถมยังได้รับรางวัลยอดเยี่ยมของญี่ปุ่น หรือ Japan Car of the Year (JCOTY) ปี 2012 -2013 อีกด้วย

จุดเด่นของ CX-5 อยู่ที่งานออกแบบใหม่ที่เรียกว่า KODO design ที่สื่อถึงจิตวิญญาณแห่งการเคลื่อนไหว ด้วยการศึกษาความเคลื่อนไหวของเสือชีตาห์ ในทุกท่วงท่าที่สง่างาม และนำมาใช้ในการออกแบบ CX-5 ดังนั้นรูปลักษณ์ภายนอกจึงแสดงออกถึงความแข็งแกร่งมีพลัง และความคล่องแคล่วปราดเปรียว ด้วยกระจังหน้าทรงห้าเหลี่ยมเอกลักษณ์เฉพาะของมาสด้า รูปทรงและตำแหน่งของไฟหน้าที่คล้ายกับดวงตาของเสือซีตาห์ที่จ้องเขม็งมองเหยื่อ เส้นสายรอบตัว บ่งบอกได้ถึงพละกำลังมี่ซ่อนอยู่ได้เป็นอย่างดี 

ภายในบอกตามตรงว่าดูเรียบไปสักหน่อย เมื่อเทียบกับภาพลักษณ์ภายนอกที่ดูโฉบเฉี่ยวซะเหลือเกิน เบาะนั่งคู่หน้า ออกแบบในสไตล์สปอร์ต โดยมีฟองน้ำที่บาง แต่กลับนั่งสบาย ปีกข้างเบาะรองนั่งโอบรัดและซัพพอร์ทได้ดี เหมือนเช่นปีกข้างของพนักพิงหลัง ส่วนเบาะด้านหลังไม่ได้นั่งเอง แต่มีเสียงบอกมาว่านั่งได้สบายไม่เมื่อย 
ไม่ไหลไปไหน ถึงแม้จะผ่านมากี่โค้งก็ตาม 

จุดเด่นอีกอย่างภายในรถ  คงจะเป็นเครื่องเสียงและชุดลำโพงของ BOSE ที่ติดตั้งมาให้ คืออยากจะบอกว่า หากคุณได้ลองนั่ง หรือได้มีโอกาสทดลองขับแล้วล่ะก็ อย่าลืมเตรียมเพลงเพราะๆ ใส่ CD หรือ Flash drive ไปทดลองด้วยนะครับ แล้วคุณจะติดใจ

เครื่องยนต์ SkyActiv-D ขนาด 2.2 ลิตร มาพร้อมระบบเทอร์โบชาร์จเจอร์ 2 ตัว โดยจะทำงานที่ความเร็วรอบต่างกันไป เพื่อเน้นไปที่การประหยัดน้ำมันและการเลือกใช้พละกำลังที่เหมาะสม โดยเทอร์โบลูกเล็กจะเริ่มทำงานทันทีในรอบต่ำ และเทอร์โบลูกใหญ่จะเริ่มที่ประมาณ 3,000 รอบขึ้นไป ซึ่งตามสเปกนั้นให้กำลังสูงสุด 175 แรงม้า และแรงบิดสูงสุด 420 นิวตันเมตรตั้งแต่ 2,000 รอบ ส่งผลให้การตอบสนองดีเยี่ยมตั้งแต่รอบต่ำ ในทันทีที่กดคันเร่ง รถก็จะพุ่งตัวออกไปอย่างไม่ต้องรีรออะไร และส่งกำลังอย่างต่อเนื่องโดยมีเทอร์โบลูกใหญ่รอรับช่วงส่งกำลังต่อไป 

ช่วงล่างแน่นหนึบ เข้าโค้งได้ไม่ต้องกลัว ด้วยระบบกันสะเทือนหน้าเป็นแบบ แม็คเฟอร์สันสตรัต ส่วนด้านหลังเป็นแบบมัลติลิงค์ ที่เซ็ตมาเป็นอย่างดี ดูเหมือนจะนิ่มไปหน่อย แต่ให้ความมั่นใจได้ในขณะเข้าโค้ง ถึงแม้ตัวรถจะมีความสูงในระดับ Crossover SUV ก็ตาม

โดยรวมแล้วสร้างความประทับใจได้หลากหลายอย่าง ไม่ว่าจะเป็นรูปร่างหน้าตา  เครื่องยนต์ หรือแม้แต่ช่วงล่าง แต่สิ่งที่อยากจะให้ปรับปรุงนั้นก็คงจะเป็นเรื่องการดีไซน์ภายในที่ดูจะเรียบร้อยไปสักหน่อยเมื่อเทียบกับหน้าตาภายนอกเท่านั้น แต่ข้อนี้ก็ขึ้นอยู่กับความชอบส่วนบุคคลด้วยนะครับ

คู่แข่งในตลาด SUV ด้วยกันก็มีอยู่พอสมควร มีทั้งฝั่งที่มาจากอเมริกา ยุโรป หรือแม้แต่ทางเกาหลีเอง แต่ด้วยราคาเพียงแค่ 1,670,000 บาทเท่านั้น ทำให้ New Mazda CX-5 เป็นที่น่าสนใจของลูกค้าเป็นอย่างมาก ซึ่งเห็นได้จากยอดจองที่ได้มาตั้งแต่ยังไม่ได้เปิดตัวอย่างเป็นทางการเลยด้วยซ้ำ!!! 

Trick & Tip

เปลี่ยนไป เปลี่ยนมา ไม่ดีนะครับ 

การเปลี่ยนไป เปลี่ยนมาที่ว่านั้น  หมายถึงการเปลี่ยนตำแหน่งของเกียร์ไป - มาในตำแหน่ง N กับ D ในตอนรถจอดติดไฟแดง จริงอยู่ว่าหากเข้าเกียร์ N ทุกอย่างหยุดการทำงานจริง แรงดันในเกียร์ก็จะหยุดไปด้วย พอเข้าเกียร์ไปในตำแหน่ง D อีกทีทุกอย่างก็จะเริ่มทำงานใหม่ ต้องเพิ่มแรงดันเข้าไปใหม่ สลับไปสลับมาอยู่อย่างนี้ จะเป็นการบั่นทอนอายุการใช้งานของเกียร์อัตโนมัติลงถึง 50% เชียวนะครับ

New Mazda CX-5 คำตอบของคนที่ชอบ SUV