สื่อสิ่งพิมพ์เมืองไทยชั่วโมงนี้น่าสงสาร

สื่อสิ่งพิมพ์เมืองไทยชั่วโมงนี้น่าสงสาร

อาจจะเป็นเพราะว่าโลกเรามีการเปลี่ยนแปลงค่อนข้างเยอะ เทคโนโลยีทำให้มีการเปลี่ยนแปลง โดยเฉพาะในเรื่องของสื่อ พฤติกรรมการเสพสื่อของคนไทยนั้นเปลี่ยนแปลงไปมาก จนแทบไม่มีเค้าโครงเก่าเหลืออยู่เลย สมัยก่อนแค่ได้อ่านหนังสือพิมพ์หรือนิตยสารสักเล่มที่ชอบก็มีความสุขแล้ว แต่ปัจจุบันสื่อสิ่งพิมพ์ไม่ว่าจะหนังสือพิมพ์หรือนิตยสารกำลังจะหมดไป 

เหตุผลที่ผมพูดถึงสื่อสิ่งพิมพ์ที่กำลังจะหมดไปเพราะว่า ตลอดเวลา 1 ปีที่ผ่านมาผมได้ข่าวหนังสือพิมพ์หลาย ๆ ฉบับที่กำลังจะปิดตัวลงหรือนิตยสารหลาย ๆ ฉบับ ไม่เฉพาะแต่กีฬาที่ปิดตัวลงไป เพราะทนพิษบาดแผลไม่ไหวกับค่าใช้จ่าย โดยเฉพาะค่ากระดาษที่สูงขึ้นเรื่อย ๆ กับต้นทุนการบริหารจัดการ เม็ดเงินที่ได้จากการขายหนังสือกับค่าโฆษณานั้นไม่สมดุลกัน ทำให้นายทุนทั้งหลายที่เคยมีความสามารถในการจัดการก็ต้องปิดกิจการลง

เรื่องเหล่านี้ใครเตรียมตัวล่วงหน้าก่อนก็จะทนพิษบาดแผลไหวแต่ใครที่ตั้งอยู่ในความประมาทไม่มีการหาสิ่งทดแทนมา พอถึงเวลาก็ต้องพบกับเหตุวิกฤติทั้งเรื่องค่ากระดาษที่แพงขึ้น จำนวนคนเสพสื่อน้อยลง ยอดขายตกลงทำให้ยอดโฆษณาน้อยลง ค่าใช้จ่ายยังคงเดิมแต่รายได้กลับมีน้อยลง ทำให้อยู่ไม่ได้ก็ต้องปิดกิจการลง

สำหรับตัวผมเองอาจจะเป็นคนรุ่นใหม่ที่เข้ามาทำสื่อในช่วงท้าย ๆ ผมทำทีวี และวิทยุมา 14 ปี หนังสือพิมพ์ฮอตสกอร์ 8 ปี สิ่งต่าง ๆ เหล่านี้ถ้าเป็นสมัยเริ่มต้นผมคงไม่สามารถทำให้ธุรกิจการซื้อเวลาทีวี, วิทยุ และหนังสือพิมพ์ เดินอยู่ได้เพราะค่าใช้จ่ายนั้นสูงมาก ๆ

ในแต่ละเดือนผมเองก็มีค่าเช่าที่ต้องจ่ายให้สถานีโทรทัศน์, วิทยุ และค่าใช้จ่ายในเรื่องของการจัดการกอง บก. ค่าใช้จ่ายในการพิมพ์หนังสือกับค่ากระดาษ ในแต่ละเดือนตัวเลขค่อนข้างสูง ผมปรับตัวเร็วเพราะรู้ว่าถ้าไม่ลดขนาดตัวเองลงก็คงจะอยู่ไม่ได้ ทำให้ผมเตรียมตัวล่วงหน้ามา 3 ปี ทำให้อาการบาดเจ็บไม่เรื้อรัง สามารถทำให้ธุรกิจของผมยังอยู่ได้

แต่ผมไม่แน่ใจว่าถ้าพฤติกรรมการเสพสื่อยังเป็นแบบนี้ ในอีก 2 ปี ข้างหน้าหนังสือพิมพ์เมืองไทยหรือนิตยสารจะไม่เหลืออยู่เลย หรือว่าจะเหลือก็ต้องเป็นสื่อสิ่งพิมพ์ที่ได้รับการยอมรับ ต้องมีโฆษณาที่สามารถให้เม็ดเงินจำนวนสูงมากพอที่เจ้าของกิจการจะสามารถบริการจัดการได้ แต่ถ้าคนเสพสื่อลดลงเรื่อย ๆ ยอดขายของธุรกิจโดยเฉพาะคอนซูเมอร์โปรดักซ์น้อยลง การซื้อสื่อโฆษณาน้อยลงเหมือนเดิมก็คงต้องลำบากสำหรับคนที่ทำสื่อ ถือว่าเป็นเรื่องค่อนข้างอันตรายสำหรับใครก็ตามที่ใช้ชีวิตในการทำสื่อปัจจุบัน

หากถามว่าจะทำอย่างไรให้คนเสพสื่อในเมืองไทยเปลี่ยนแปลงลง ก็คงต้องช่วยกันชั่วโมงนี้เป็นของผู้บริโภคที่สามารถเลือกเสพสื่อได้ ถ้าสื่อฉบับไหนมีคอนเท้นต์ไม่ดีพอ โอกาสที่จะอยู่รอดมีน้อยมากสื่อบางสื่อมีเนื้อหาค่อนข้างดี เชื่อว่าก็ยังเดินต่อไปได้ คุณภาพจะเป็นตัวชี้นำสำหรับสื่อสิ่งพิมพ์ว่าใครจะอยู่ได้ หรือไม่ได้

ส่วนเรื่องทีวีกับวิทยุ ก็เป็นอีกช่องทางหนึ่ง ใครที่ใช้เม็ดเงินจากโฆษณาอย่างเดียวก็คงลำบาก การปรับตัวเพื่อลดขนาดลงเพื่อให้ทุกอย่างอยู่ได้ คนที่ทำต้องมีใจรัก ร่วมด้วยช่วยกัน ต้องมีความเข้าใจ บางอย่างอาจจะต้องลดลง บางอย่างต้องคงไว้เพื่อให้เนื้อหายังมีคุณภาพเหมือนเดิม ก็แน่ใจได้เลยว่าการทำสื่อสิ่งพิมพ์ ไม่ว่าจะเป็นรายวัน,ราย 3 วัน หรือรายปักษ์ ทุกอย่างต้องมีคุณภาพที่ดีพอเพื่อให้ผู้บริโภคนำเม็ดเงินมาซื้อ ทำให้คอนซูเมอร์โปรดักซ์มาซื้อโฆษณาได้ ถือว่าเป็นช่วงวิบากกรรมจริง ๆ ของคนทำสื่อ บางคนทำงานหนักแลกกับเม็ดเงิน ผมมองว่าไม่เกินปลายปีนี้จะมีหนังสือพิมพ์ปิดตัวลงอีกหลายฉบับ เพราะว่าทนพิษบาดแผลไม่ไหว

อยากฝากไปยังทุกท่านด้วยว่า อย่าลืมอุดหนุนสื่อสิ่งพิมพ์ อย่าลืมเสพสื่อทีวี และวิทยุ สิ่งเหล่านี้ เป็นเครื่องบันเทิงที่จะทำให้ท่านมีชีวิตอยู่ได้อย่างสบายใจ รายการไหนทางทีวีหรือวิทยุที่ทำให้ท่านไม่ชอบใจ ก็ไม่ดูไม่ฟังได้ แต่สำหรับรายการที่ทำให้ท่านรู้สึกดี มีรอยยิ้มบนใบหน้า ก็อย่าลืมดูหรือฟังเป็นประจำ และบอกต่อ ๆ กัน เพื่อให้คนที่เป็นเจ้าของสื่อได้รับรู้ว่าเรตติ้งในชั่วโมงนี้ คนฟัง,คนอ่านสำคัญที่สุด และคนที่เสพสื่อทุกชนิดยังมีความสำคัญกับอาชีพผู้ผลิตสื่อไม่ว่าจะหนังสือพิมพ์หรือนิตยสารครับ 

การเปลี่ยนแปลงไปจากสื่อสิ่งพิมพ์เมืองไทยที่คุณผู้อ่านควรรู้