Drifting Stones ผลงานการออกแบบจาก DoDesign ตั้งอยู่อย่างสงบนิ่งในหุบเขาเมืองฉงชิ่ง ประเทศจีน และถึงแม้ผลงานสถาปัตยกรรมแห่งนี้จะซ่อนตัวอยู่ในภูมิประเทศอันเงียบสงบ แต่กลับมีกระแสสะท้อนอันลึกซึ้งเกินขอบเขตทางกายภาพไปไกลความรู้สึกเมื่อได้พบ เปรียบได้กับการค้นพบซากโบราณจากอารยธรรมลึกลับหรือไม่ก็เป็นสถาปัตยกรรมจากนอกโลกเลยทีเดียว

Drifting Stone แห่งนี้นักออกแบบได้แรงบันดาลใจจากก้อนหินยอดแบนที่พวกเขาพบโดยบังเอิญ แล้วตั้งใจออกแบบที่แห่งนี้ให้เป็นพื้นที่พักผ่อนดึงดูดใจให้ผู้มาเยือนได้หยุดคิด พินิจ และเข้าถึงจังหวะอันลึกซึ้งของธรรมชาติ หลังคาหินของ Drifting Stone ถูกสร้างจากปูนซีเมนต์ผสมผงหินท้องถิ่นทำให้มีพื้นผิวและเฉดสีที่คล้ายหินจริงทั้งยังดูกลมกลืนกับหุบเขา โดยองค์ประกอบสำคัญของศาลาแห่งนี้ประกอบไปด้วย

The Stacks — ทางเดินหินที่มีจังหวะสม่ำเสมอ เรียงซ้อนกันเป็นแนวเหมือนเส้นทางธรรมชาติ ถูกออกแบบให้สอดคล้องกับสัณฐานภูมิประเทศ พาผู้มาเยือนสู่ลานพักที่ให้ความรู้สึกทั้งมั่นคงและเหนือจริง

The Hut — พื้นที่พักผ่อนแบบผนังกระจกใสรอบด้าน แทนความเงียบสงบและสะท้อนภาพโดยรอบกระจกไร้เฟรม ทำให้ “ขอบเขต” ระหว่างภายนอกกับภายในแทบจะหายไป ทิวทัศน์ถูกดึงเข้ามาภายใน สะท้อนกลับผ่านผิวกระจก และถูกครอบใหม่ด้วยองค์ประกอบของตัวอาคาร สร้างความรู้สึกว่าเราทั้งได้รับการปกป้องและถูกเปิดเผยในเวลาเดียวกัน

ทั้งสององค์ประกอบนี้ทำงานร่วมกันเพื่อนำทางผู้มาเยือนให้เดินผ่านหุบเขา พร้อมมอบประสบการณ์ทั้งทางสายตาและสัมผัสเพื่อชวนให้สังเกตภูเขา หน้าผา และธารน้ำที่ล้อมรอบ

แนวคิดทางการออกแบบของ Drifting Stone คือการศึกษาความสมดุลของธรรมชาติ แต่ไม่ใช่การลอกเลียนความเป็นธรรมชาติที่สมบูรณ์และไม่ใช่การแทรกแซงด้วยสถาปัตยกรรม ทว่าคือการอยู่ตรงกลางซึ่งเป็น “รอยต่อ” ระหว่างของแท้ทางธรรมชาติกับของมนุษย์ที่ออกแบบและสร้างขึ้น ซึ่งเมื่อเป็นเช่นนั้นได้จะทำให้ทั้งสองด้านเกื้อหนุนและส่งเสริมซึ่งกันและกัน โดยองค์รวมจะก่อให้เกิดความรู้สึกประหลาดใจแต่สงบ ชักชวนให้ผู้มาเยือนหยุด สังเกต และค้นหาความสมดุลของตนเองระหว่าง “ธรรมชาติ” กับ “สิ่งปลูกสร้าง” โดยไม่รู้ตัว

การออกแบบให้ตรงคอนเซปต์และให้สวยงามดูกลมกลืนธรรมชาติว่ายากแล้ว แต่การก่อสร้างให้ตรงตามที่ต้องการก็ยากไม่แพ้กัน สิ่งที่เป็นอุปสรรคมากที่สุดคือการก่อสร้างในพื้นที่ห่างไกล การขนย้ายวัสดุนั้นเป็นโจทย์แรกที่จะต้องแก้ โดยต้องวางแผนการขนย้ายเพื่อไม่ให้เป็นการสิ้นเปลืองหลายรอบ เริ่มจากในการตั้งไข่ขึ้นรูปก่อสร้างจะใช้โครงเหล็กขึ้นรูปเป็นโครงสร้างหลัก จากนั้นจึงหล่อซีเมนต์เป็นเปลือกนอกแล้วให้ช่างฝีมือท้องถิ่นทำการแกะลายเลียนแบบพื้นผิวหินนั่นเอง จากนั้นจึงได้มาเก็บรายละเอียดในส่วนอื่นของการก่อสร้าง

ในด้านคุณค่าแล้ว Drifting Stone ไม่ได้เป็นแค่สิ่งปลูกสร้าง ไม่ใช่แค่ที่พักพิง แต่เป็นขอบเขตระหว่างธรรมชาติกับสถาปัตยกรรม เก่ากับใหม่ หนักกับเบา ซึ่งเปิดประสบการณ์ของผู้เข้าเยี่ยมชมให้สัมผัสกับบทกวีของธรรมชาติและพลังแห่งการออกแบบอย่างมีสตินั่นเอง