
“The Queen” Phetjeeja Lukjaoporongtom
“แม้จะเห็นว่าโหดบนเวที แต่ข้างล่างคือน่ารักนะคะ (ยิ้ม) มาทักทายได้เลยเป็นคนเฟรนด์ลี่...”
ยอมรับว่าขณะสัมภาษณ์เจ้าของแชมป์โลกคิกบ็อกซิ่ง รุ่นอะตอมเวตหญิง 115 ปอนด์อยู่นั้น เราแทบจะละสายตาไม่ได้เลย ด้วยความน่ารัก สดใส อ่อนน้อม เหมือนเป็นคนละคนกับบนสังเวียน Mind - Self ฉบับนี้จะพาคุณไปรู้จักกับ นิล นิลดา มีคุณหรือเพชรจีจ้า ลูกเจ้าพ่อโรงต้ม นักมวยหญิงจาก One Championship ที่ทั้ง Mind และ Self มีแต่คำว่ารักในกีฬามวยอย่างเต็มเปี่ยม
เริ่มชกมวยตั้งแต่ 6 ขวบ
จุดเริ่มต้นของการชกมวยไทยคือได้ไปดูน้าชายชกมวยแล้วชอบเลยอยากลองฝึก มาขอคุณพ่อคุณแม่ซึ่งตอนแรกท่านก็ไม่สนับสนุน แต่หลังจากนั้นก็อนุญาตให้ลองซ้อมดูค่ะ จะมีพี่ชายเป็นเพื่อนคอยซ้อมมวยด้วยกัน โดยมีคุณพ่อเปิดค่ายมวยอยู่แล้วและเป็นครูมวยคนแรกด้วย
ไฟต์เปลี่ยนชีวิต
ตั้งแต่ 6 ขวบก็ชกมวยไทยมาตลอดค่ะ จนอายุ 11 ขวบเข้ามาชกในกรุงเทพฯ และเป็นเวทีใหญ่ ถือเป็นไฟต์ที่มีคนรู้จักเพชรจีจ้าเพราะเราชกกับนักมวยชาย คนก็จะจำเราได้ในฐานะนักมวยหญิงที่ชกกับนักมวยชาย
เบนเข็มมาต่อยมวยสากล
นิลหยุดชกมวยไปช่วงหนึ่งประมาณ 2 ปี เนื่องจากพระราชบัญญัติกีฬามวยที่ห้ามเด็กอายุต่ำกว่า 12 ปีขึ้นชกและเราก็หาคู่ชกหญิงยากขึ้นด้วย จนอายุ 15 ปีกลับมาชกมวยไทยอีกครั้งและมีเป้าหมายอยากไปโอลิมปิก เลยเบนเข็มมาชกมวยสากล อยากให้โอกาสตัวเองได้ลองดู ถ้าทำได้ไม่ดีก็จะกลับมาชกมวยไทย มีโอกาสได้ไปเก็บตัวทีมชาติไทยแต่ต้องบอกว่าเหมือนเป็นการเริ่มใหม่ทั้งหมดเลยตั้งแต่พื้นฐาน เรียนรู้หลายอย่างเพิ่มขึ้น ระหว่างเป็นเยาวชนเราก็มีโอกาสไปชิงแชมป์โลกกับชิงแชมป์เอเชียอยู่หลายแมตช์ค่ะ แต่ก็ตัดสินใจกลับมาสู่สังเวียนมวยไทยเพราะคิดว่ามวยสากลไม่เหมาะกับเราเท่าไหร่ด้วยระบบด้วยพื้นฐานหลายอย่าง เพราะจริง ๆ แล้วเราเริ่มมาจากมวยไทย
เวที One Championship
นิลรู้จักชื่อเสียงของ One Championship มาก่อนแล้ว พอเรากลับมาชกมวยไทยทาง One ก็ติดต่อมาเลยได้มีโอกาสขึ้นชกและเป็นแชมป์โลกคิกบ็อกซิ่งรุ่นอะตอมเวตหญิง 115 ปอนด์ค่ะ
มองว่าแพ้ชนะเป็นเรื่องธรรมดา
แม้ว่านิลจะมองว่าการแพ้ชนะเป็นเรื่องธรรมดาของกีฬาแต่เราก็ไม่อยากแพ้ วิธีการที่จะทำให้ไม่แพ้คือทุ่มเทไปกับการฝึกซ้อม มีเหมือนกันที่แพ้ เราก็จะกลับมาเรียนรู้และทำให้ดีกว่าเดิม พัฒนาตนเองให้ดีขึ้น แก้ไขข้อบกพร่องอยู่ตลอด
ตารางเวลาทุ่มเทให้กับการซ้อมมวย
ชีวิตนักมวยอย่างที่หลายคนทราบค่ะ ว่าจะมีแค่ซ้อมมวย กินข้าว และพักผ่อน (ยิ้ม) อาจจะมีรีแลกซ์บ้างวันอาทิตย์หรือหลังจากไฟต์ก็จะมีเวลาพักนานหน่อย นิลจะใช้เวลาช่วงนั้นพักจะได้กลับมาแบบสดใส ส่วนตัวชอบไปทะเลมาก จะรู้สึกผ่อนคลายค่ะ
เคยท้อจนอยากเลิกชกมวย
ก็มีหลายช่วงค่ะ อย่างตอนชกมวยสากลก็เครียดมาก เพราะกลัวไม่ได้เหรียญอย่างคนอื่นกลัวไม่ได้ไปถึงเป้าหมายแต่ก็บอกตัวเองว่าสู้ให้เต็มที่ ถ้าเรามุ่งมั่นแล้วแพ้ก็จะไม่เสียใจ หรือตอนชกมวยไทยก็มีช่วงนึงที่อยากเลิก อยากใช้ชีวิตปกติ เรียนหนังสือ กลับบ้าน แต่ก็บอกตัวเองว่า เลือกที่จะมาชกมวยแล้วก็อยากไปไกลที่สุดเท่าที่จะทำได้ ตอนนี้เป็นแชมป์โลกคิกบ็อกซิ่งและอยากเป็นแชมป์มวยไทยอีกเส้นเลยยังมุ่งมั่นต่อค่ะ
ครอบครัวให้กำลังใจตลอด
คุณพ่อคุณแม่เป็นฝ่ายสนับสนุนที่ดีมากค่ะ และท่านจะมีคำพูดให้กำลังใจให้เราดูแลร่างกายให้ดีก็จะห้ามเรื่องการขับขี่รถมอเตอร์ไซค์ ท่านกลัวอุบัติเหตุค่ะ เวลากลับไปชลบุรี ( บ้านเกิด ) ก็จะไปหาท่านและไปพักผ่อนที่ทะเลค่ะ
ตัวจริงสายกิน
นักมวยกินเยอะค่ะ นิลเองก็เป็นสายกินด้วย วันหยุดก็จะชอบเดินห้าง หาของอร่อยๆกินค่ะ
มีอะไรอยากบอกคนอื่นให้ทราบเกี่ยวกับตัวคุณบ้าง
แม้จะเห็นว่าโหดบนเวทีแค่ข้างล่างคือน่ารักนะคะ (ยิ้ม) มาทักทายได้เลยเป็นคนเฟรนด์ลี่ ติดตลิกด้วยค่ะและก็ฝากติดตามผลงานของเพชรจีจ้า ช่องทางการติดตามก็จะมี IG : phetjeeja ช่อง Tiktok : @phetjeeja_nin และฝากว่าใครอยากออกกำลังกาย กีฬามวยก็เป็นอีกหนึ่งตัวเลือกหรือถ้าใครอยากฝึกเป็นอาชีพก็ขอแค่มีใจสู้ มุ่งมั่น ก็จะเป็นนักมวยอาชีพได้อย่างแน่นอนค่ะ
World Champion : ATOMWEIGHT KICKBOXING
The Winner’s Timeline
6 ขวบ
เริ่มชกมวยโดยมีครูมวยคนแรกคือคุณพ่อและคู่ซ้อมคือพี่ชาย
11 -13 ปี
เริ่มเป็นที่รู้จักเนื่องจากชกในเวทีใหญ่และมีชื่อเสียงจากการชกกับนักมวยชาย
16-21 ปี
เบนเข็มไปชกมวยสากล
21-23 ปี
กลับมาชกมวยไทยในเวที One Championship และเป็นแชมป์โลก ATOMWEIGHT KICKBOXING
ขอขอบคุณสถานที่ : Pad Thai Padel สนามปาเดลเทนนิส