Livable design creates new days

Livable design creates new days

การออกแบบผลงานอย่างสร้างสรรค์และประณีต ล้วนต้องอาศัยความรักและความเข้าใจ เช่นเดียวกับสองหนุ่มดีไซน์เนอร์ ‘เก้า-ไพทูรย์ เกียรติคีรีรัตน์’ และ ‘บิ๋ว-ชวินทร์ หาญจริง’ จับมือร่วมกันสร้างแบรนด์ Partly Cloudy ที่มีฟังก์ชั่นการใช้งานที่หลากหลาย ตอบโจทย์การใช้งานในชีวิตประจำวันได้อย่างลงตัว พร้อมกับความสวยงามและเรื่องราวที่แฝงอยู่ในชิ้นงานอันเป็นเอกลักษณ์เฉพาะตัวของร้าน

“พวกเราเปิดร้านได้ประมาณ 3 ปีแล้วครับ ผมถนัดด้านการออกแบบภายใน ส่วนบิ๋วถนัดการทำดิสเพลย์ โดยใช้ความเป็นอินทีเรียที่มีฟังก์ชั่นกับความเป็นดิสเพลย์ นำมาผสมผสานกันจนเกิดเป็น Partly Cloudy ผมรู้สึกว่าเราอยากทำอะไรที่มันสื่อสารกับมนุษย์โดยที่ไม่ต้องเป็นงานอินทีเรียจริง ๆ เพราะงานอินทีเรียจะต้องทำออเดอร์ตามลูกค้าใช่ไหม แต่ถ้าเราทำอะไรก็ได้ที่เป็นงานศิลปะแล้วมันมีฟังก์ชั่นด้วย ซึ่งมันตอบโจทย์เราทั้งหมด”

ผลิตภัณฑ์ของ Partly Cloudy หลัก ๆ เป็นเฟอร์นิเจอร์และของตกแต่งบ้าน อาทิ ตู้ชุดครัวรูปบ้าน, ตู้หนังสือ, กระปุกออมสิน, ที่แขวนติดผนัง และเก้าอี้สวิง ด้วยดีไซน์ที่เรียบง่าย เน้นการใช้งานได้จริง โดยนำเส้นสายและรูปทรงหลากหลายประเภทมาผสานกับเหล็กและไม้ ภายใต้คอนเซ็ปต์ ‘Livable design creates new days’ แถมการันตีผลงานด้วยดีกรีรางวัล A’ Design Award & Competition 2014 จากประเทศอิตาลี 

“คำว่า Partly Cloudy ความหมายตรงตัวคือมีเมฆมากเป็นบางส่วน แต่สำหรับคำนิยามของพวกเรามันสอดคล้องกับคอนเซ็ปต์ของเราด้วยที่ว่า ‘Livable design creates new days’ เป็นวันดี ๆ เหมือนกับดีไซน์ที่สร้างวันดี ๆ สร้างบรรยากาศที่ดีได้ อย่างเวลาเราเจอของสวยงามมันทำให้เรารู้สึกอิ่มเอมหรือสัมผัสแล้วรู้สึกดี เราเลยรู้สึกว่าวันดี ๆ ของคนไทยในมุมของดีไซน์เนอร์คือวันที่อากาศไม่ร้อนเกินไป เย็นสบาย”

ผลงานที่โดดเด่นของ Partly Cloudy อยู่ที่ตัวคอลเลคชั่นชุดบ้าน เป็นตู้ชุดครัวที่มีรูปทรงเหมือนบ้าน แฝงฟังก์ชั่นการใช้งานทุกตารางนิ้ว สามารถวางจาน ช้อนส้อม แก้ว ขวดไวน์ พร้อมช่องใส่กระดาษทิชชู่ นอกจากการใช้งานแล้วที่สำคัญยังซ่อนเรื่องราวไว้ในตัวอีกด้วย

“ตัวที่ได้รับรางวัลก็คือตัวนี้แหละครับ มีชื่อว่า ‘Baan Dinner Set Cupboard’ ตัวนี้ค่อนข้างเล่าเรื่องราวเยอะหน่อย เพราะมันโดนแทนค่าจากการที่เราให้ความสำคัญตอนกินข้าวเย็นที่บ้าน แล้วรู้สึกว่าช่วงเวลานั้นมันสำคัญ เราเลยคิดว่าทำยังไงก็ได้ให้ของเราไปอยู่ในโมเม้นท์ที่ดีที่สุดของบ้าน ก็เลยเอาจุดนั้นมาใช้โดยการแทนค่าการใช้งานของมันและความหมายของบ้านที่เอามาใช้ เช่นตรงนี้ครัว ใส่ฟืน เตาผิงก็เป็นที่เก็บช้อนส้อม หรือตรงบันไดก็ออกแบบให้เป็นที่วางจานแบบนี้ครับ 

“เราพยายามเล่าเรื่องผ่านสิ่งของ อย่างผลงานล่าสุดของเราเป็นตัว ‘Bookworm’ หนอนหนังสือ ซึ่งเราใส่ความหมายแฝงสองแง่ อย่างแรกหนอนหนังสือคือคนที่ชอบอ่านหนังสือ ส่วนอีกแง่หนอนหนังสือก็ต้องกินใบไม้ ซึ่งโครงสร้างและเส้นสายของตัวนี้ก็คือเส้นใบไม้ และข้างในตรงชั้นวาง เราก็ใช้ดีเทลของการเย็บหนังสือมาใช้เหมือนเวลาที่เราเปิดอ้าหนังสือ ส่วนรูด้านนอกที่เห็นก็เป็นเหมือนรูที่หนอนกินใบไม้ครับ

“แบรนด์ของเราอาจเป็นตลาดส่วนน้อย เพราะเราสร้างผลงานที่ต้องการสื่อสารด้วยรอยยิ้ม เราไม่รู้ว่าคนอื่นเข้าใจแค่ไหน แต่เราทำแล้วรู้สึกว่าชอบ มันดูมีอะไร ซึ่งมันเกิดการสื่อสารระหว่างคนกับคน หรือคนกับสิ่งของ อันนี้เราว่ามันเป็นสิ่งที่การตลาดไม่มี ส่วนมากท้องตลาดทั่วไปโต๊ะคือโต๊ะ เก้าอี้ก็คือเก้าอี้ มันแค่ทำงานด้านการใช้งานแต่ไม่ได้ทำหน้าที่สื่อสาร เราไม่ได้จำกัดรูปทรงของผลงานแต่ด้วยเรื่องราว ฟังก์ชั่น และวิธีการมันสอดคล้องกันเลยได้รูปทรงใหม่ ๆ โดยที่เราไม่เคยคิดมาก่อน เราไม่ได้ตั้งใจว่าจะทำรูปบ้านเพราะเราเริ่มจากโต๊ะอาหารก่อน เราชอบบรรยากาศมัน จากนั้นก็ค่อยๆ แทนค่ามันออกมาจนได้แต่ละตัว ถ้าเรากะเกณฑ์ว่าจะเอารูปทรงแบบนี้ มันจะเดินต่อไปลำบาก”

หากถามถึงหัวใจของการออกแบบ พวกเขาบอกว่ามองย้อนกลับไปที่ชื่อแบรนด์ Partly Cloudy ว่าต้องสร้างวันดี ๆ ได้ ถ้าคุณได้เห็น สัมผัส หรือใช้ของที่มีดีไซน์แล้วรู้สึกมีความสุข นั่นคือสำเร็จแล้ว มันคือการสื่อสารอย่างสมบูรณ์ ไม่ว่าจะเป็นการออกแบบชิ้นใด ถ้าทำให้คนใช้งานมีความสุขทุกอย่างก็เรียกได้ว่าสำเร็จในระดับหนึ่งแล้ว

“กลุ่มเป้าหมายของเรา 50/50 ระหว่างชาวไทยกับชาวต่างชาติ อาจเพราะร้านเราขายอยู่จตุจักรเลยทำให้มีชาวต่างชาติสนใจ อีกส่วนก็เป็นร้านอาหาร ดีไซน์เนอร์ และกลุ่มคนตกแต่งบ้านครับ ส่วนตอนนี้เหมือนเรากำลังรีแบรนด์ นำผลงานเก่า ๆ มาทำให้สมบูรณ์ขึ้น ตอนนี้ไอเดียเราล้นหลามแต่ว่าจะทำยังไงให้มันสมบูรณ์กว่านี้ในเรื่องของการผลิตและโปรดักชั่น พูดจริง ๆ ทุกครั้งที่มีออเดอร์ผมรู้สึกกังวลว่ายังทำได้ไม่ดีพออย่างที่เราต้องการ สมมติของชิ้นนี้ออเดอร์มาสัก 20 ชิ้นก็เกิดปัญหาแล้ว เพราะมันเป็นการทำด้วยมือ เราต้องหา Supplier ที่ตอบสนองเราได้ดีกว่านี้ แน่นอนว่าเราหนีตลาดแมสไม่พ้น แต่เราก็ต้องอยู่บนพื้นฐานความเป็นศิลปะของเราด้วย ถ้าเราไม่ขายแมสเราก็อยู่ไม่ได้

“อนาคตเราอยากบุกตลาดต่างประเทศเหมือนกัน แต่เราไม่ได้ขีดเส้นไว้ว่าเราจะต้องทำเฟอร์นิเจอร์ของเราให้โดดเด่นในยุโรป ค่อนข้างเปิดกว้างเลยว่า Partly Cloudy จะทำงานศิลปะยังไงหรือสื่อสารกับคนอื่นยังไงให้เราอยู่ได้ในเชิงพาณิชย์ แล้วเราก็มีความสุขในการทำกับมัน อนาคต Partly Cloudy อาจจะเป็น Design Space, Art Installation, Bar, Hostel หรือร้านอาหารก็ได้ ซึ่งเราไม่ได้จำกัดว่าจะต้องเป็นเฟอร์นิเจอร์อย่างนี้ไปตลอด ตอนนี้เราก็รวบรวมผลงานของเราทั้งหมด รอเวลาที่เหมาะสมเท่านั้นเอง บางทีวันดีคืนดีเราอาจจะแสดงงาน เป็นงานนิทรรศการเหมือนงานศิลปะก็ได้ครับ (ยิ้ม)”

อย่างที่พวกเขาบอกท้ายที่สุด Partly Cloudy อาจไม่ใช่เฟอร์นิเจอร์ทั้งหมด แต่จะกลายเป็นอะไรก็ได้ที่มีฟังก์ชั่นและงานศิลปะอยู่ในตัว ที่สำคัญสามารถเล่าเรื่องได้ นั่นคือ Partly Cloudy หากใครสนใจอยากไปเลือกชมหรือเลือกสัมผัสของจริงก็ตามไปได้ที่จตุจักรพลาซ่า โซน C ซอย 5 ห้อง 32 

Partly Cloudy วันดี ๆ กับดีไซน์ที่โดนใจ