Ben Folds:  The Luckiest

Ben Folds: The Luckiest

เคยรู้สึกว่า เราเกิดมาพร้อมกับความไม่ได้อย่างใจ ไม่มีมากพอ ไม่พร้อม ไม่หล่อ ไม่สมบูรณ์ ไม่เก่ง มักจะผิดพลาดและเริ่มต้นทำอะไรด้วยความเงอะ ๆ งะ ๆ ไม่ได้เรื่องได้ราวบ้างไหมครับ ถ้าคำตอบคือ...ใช่ นี่คือเพลงของคุณครับ

ขณะที่ผมนั่งเขียนต้นฉบับนี้อยู่ เป็นห้วงเวลาที่หนังรักเรื่องหนึ่งเข้าฉาย ชื่อเรื่องว่า Me Before You ซึ่งมีกระแสกล่าวขวัญชื่นชมในทางบวกพอสมควร ตัวผมเองไปดูแล้วก็ชอบในระดับหนึ่ง แต่พอเอาไปเปรียบเทียบกับงานขึ้นหิ้งอย่าง About Time แล้วรู้สึกห่างชั้นกันอย่างช่วยไม่ได้ 

About Time เป็นหนังที่ออกฉายเมื่อสามปีก่อน (พ.ศ.2556) จากฝีมือการกำกับของ โทนี่ เคอร์ติส (Tony Curtis) ที่เคยทำเอาหลายคนซึ้งมาแล้วกับ Love Actually ในปี พ.ศ.2546 ก่อนจะมาเป็นผู้กำกับนั้นเคอร์ติส มีเครดิตเป็นผู้เขียนบทหนังดอกฟ้ากับหมาวัดอมตะอย่าง Notting Hill ในปี พ.ศ.2542 และอีกหลายเรื่อง 

โดยส่วนตัวเชื่อว่า โทนี่ เคอร์ติส เป็นผู้กำกับที่มีรสนิยมการฟังเพลงที่ดีมากคนหนึ่ง ดูได้จากหนังทุกเรื่องที่เขากำกับ จะมีเพลงประกอบ หรือ Soundtrack ที่ยอดเยี่ยมมาก รวมถึงการที่เขาเคยทำหนังชื่อ The Pirate Radio พูดถึงสถานีวิทยุที่นอกคอกจะต้องไปลอยเรือจัดรายการกลางทะเล เพื่อไม่ให้โดนจับ 

ในบรรดาเพลงเพราะ ๆ ในหนังเรื่อง About Time มีอยู่เพลงหนึ่งที่ผมชอบมากเป็นพิเศษ ชื่อเพลงว่า The Luckiest ผลงานของ เบน โฟลดส์ (Ben Folds) เนื้อเพลงนี้ บรรยายความเป็นไปของพระเอกได้ดี และเชื่อว่าน่าจะคล้ายกับชีวิตจริงของหลายคน ที่รู้สึกว่าเราเริ่มต้นชีวิต เริ่มต้นความสัมพันธ์ ด้วยการตัดสินใจผิดพลาดครั้งแล้วครั้งเล่า I don’t get many things right the first time, In fact, I am told that a lot ใคร ๆ ก็ตอกย้ำแบบนั้น 

แต่เมื่อเวลาผ่านไป เขากลับได้พบว่า Now I know all the wrong turns the stumbles, And falls brought me here อะไร ๆ ที่เขารู้สึกว่ามันไม่เป็นได้อย่างใจ เลี้ยวผิด สะดุด หกล้มหัวคะมำ กลับนำพาเขามาถึงจุดนี้ จุดที่ทำให้ผู้ชายคนนี้สามารถบอกรักผู้หญิง ด้วยความรู้สึกว่า ฉันนี่โชคดีที่สุดในโลก ที่ได้เป็นคนรักของเธอ 

ชื่อหนัง About Time แปลว่า “สมควรแก่เวลา” เขาพูดถึงคุณค่าของการมีชีวิตอยู่ ความพอเหมาะพอดีของเวลาที่จะมีรักแรก อกหัก ออกจากบ้าน ทำงาน เจอใครสักคน แต่งงาน มีลูก สมควรแก่เวลาที่จะรักและซื่อสัตย์กับใครสักคน 

พ่อของทิม (พระเอกในเรื่อง) บอกว่าสิ่งที่ดีที่สุดที่ได้ค้นพบจากการมีความสามารถพิเศษ ที่สามารถเดินทางข้ามเวลาไปมาได้ คือการใช้ชีวิตให้ดีที่สุดทีละวัน ๆ เพื่อจะไม่ต้องเสียใจ เสียดาย และนึกอยากย้อนกลับมาแก้ไขอะไร 

ชีวิตที่ผ่านมา อาจจะมีอะไรไม่สมบูรณ์แบบบ้าง ขาด ๆ เกิน ๆ เพลิดเพลินเกินไปบ้าง ก็ไม่เป็นไรหรอกครับ มันแล้วไปแล้ว แบบที่เนื้อเพลงเขาบอกว่า And where was I before the day that I first saw your lovely face, Now I see it every day. And I know that I am, I am, I am, the luckiest. ที่ผ่านมา จะไปอยู่ไหน ทำอะไร ไม่รู้ รู้แต่ว่าวันนี้ มีเธอ ได้เห็นหน้าเธอทุกวัน ก็รู้สึกว่า ฉันนี่ช่างโชคดีอะไรเช่นนี้ 

ไม่ได้มีแฟนสวยระดับอั้ม พัชราภา หรือดาราหน้าปก MiX ทั้งหลายก็ไม่เป็นไรหรอกครับ แค่พอใจกับคนที่เขาอยู่ข้างเรา รอเรากลับบ้านทุกวัน ยิ้มให้เราตอนตื่นมาจนเราอายุเก้าสิบแบบที่ในเพลงบอก ก็พอแล้ว หรือเราจะหวังอะไรมากกว่านั้นอีกครับ? 

 

Songwriters : Ben Folds

I don’t get many things right the first time,
In fact, I am told that a lot
Now I know all the wrong turns the stumbles,
And falls brought me here

And where was I before the day
That I first saw your lovely face,
Now I see it every day
And I know that I am, I am, I am, the luckiest

What if I had been born fifty years before you
In a house on the street where you lived
Maybe I’d be outside as you passed on your bike. Would I know?
And in a wide sea of eyes, I see one pair that I recognize

And I know that I am, I am, I am, the luckiest
I love you more than I have ever found the way to say to you

Next door there’s an old man who lived to his nineties 
and one day passed away in his sleep,
And his wife, she stayed for a couple of days, and passed away

I’m sorry I know that’s a strange way to tell you that I know we belong,
That I know that I am, I am, I am, the luckiest

 

โชคดีที่รู้จักพอ