จูหมิง

จูหมิง

จางซานเฟิง (เตียซำฮง) 张三丰 ทำให้มีมวยไท้เก๊ก (ไท่จี๋) 太极 เกิดขึ้นบนโลก

บรู๊ซ ลี  李小龙 ทำให้มวยจีนเกิดขึ้นในโลกภาพยนตร์

จูหมิง 朱铭 ทำให้ไท้เก๊ก หรือ ไท่จี๋ 太极 เกิดขึ้นในโลกศิลปะ ...

จูหมิง เดิมชื่อ จูชวนไท่ 朱川泰 เป็นชาวไต้หวัน เกิดในปี 1938 เป็นลูกคนจนในครอบครัวที่มีลูกมาก ที่ตำบลทงเซียว อำเภอเมียวลี่ บิดาชื่อจูหลี่จี้ 朱李記 มารดาชื่อหวางอ้าย 王愛 เขาเป็นลูกคนเล็กในครอบครัว เนื่องจากตอนที่จูชวนไท่เกิดนั้นบิดามารดามีอายุรวมกัน 92 ปี ดังนั้นในวัยเด็ก จวนชวนไท่จึงมีชื่ออีกชื่อหนึ่งว่า 92

เนื่องจากครอบครัวยากจนเขาจึงมีโอกาสได้รับการศึกษาในระบบเพียงชั้นประถมต้น พออายุ 15 ปี ได้มีโอกาสสมัครเป็นศิษย์เรียนรู้งานช่างแกะไม้ตามขนบแบบจีนและการเขียนภาพกับอาจารย์ หลี่จินชวน  李金川 เป็นการก้าวเข้าสู่โลกของงานแกะสลักเป็นก้าวแรก จูชวนไท่รำลึกถึงคำสอนในช่วงแรกของอาจารย์ด้วยความสำนึกในบุญคุณอยู่เสมอ โดยบอกว่า อาจารย์หลี่จินชวนสอนว่า ถ้าจะแกะสลักให้ได้ดี จะต้องฝึกฝนการวาดภาพให้ได้ดีด้วย เพราะว่าการร่างภาพงานแกะสลักที่ตนเองต้องการได้ ทำให้ไม่ต้องคอยเลียนแบบแกะสลักตามผลงานของคนอื่น การวาดภาพแบบที่ตนเองต้องการแกะสลักเองไม่ได้ ก็เหมือนกับคนสร้างบ้านที่เขียนแบบบ้านไม่ได้ คำสอนนี้ทำให้จูชวนไท่ทำงานแกะสลักในเวลากลางวัน และฝึกฝนการวาดภาพในเวลากลางคืน ซึ่งคือการสร้างพื้นฐานที่ดีสู่ความสำเร็จในโลกศิลปะในภายหลัง 

หลังจากเรียนรู้ฝึกฝนอยู่กับอาจารย์หลี่จินชวนเป็นเวลา 3 ปี 4 เดือน จูชวนไท่ก็ตระเวนรับงานแกะสลักตามวัดและศาลเจ้าจีนตามเมืองต่างๆ ในไต้หวันจนผลงานเป็นที่ยอมรับในวงกว้าง ปี 1961 จูชวนไท่แต่งงานกับเฉินฟู่เหม่ย 陳富美 หญิงสาวร่วมตำบล และแกะสลักงานปฏิมากรรมไม้ชื่อ “เด็กหญิงเล่นทราย”  玩沙的女孩 กลายเป็นผลงานชิ้นหนึ่งที่สร้างชื่อเสียงในโลกศิลปะให้กับเขา 

จูหมิง
จูหมิง

ในช่วงเวลานี้ นอกจากจูชวนไท่จะทำงานแกะสลักในฐานะงานอาชีพแล้ว เขายังแสวงหาอยู่บนเส้นทางการสร้างสรรค์ในโลกศิลปะอีกด้วย ดังนั้น จูชวนไท่จึงเริ่มส่งผลงานปฏิมากรรมแกะไม้ของตนเข้าประกวด ปี 1966 ผลงานปฏิมากรรมชื่อ “เริงรื่น” (เซียงเย่ 相悅) ได้รับรางวัลปฏิมากรรมดีเด่นในการประกวดศิลปะกรรมแห่งชาติครั้งที่ 21 ของไต้หวัน ปีถัดมา ผลงานปฏิมากรรมแกะไม้ชื่อ “จากกันนาน” (จิ่วเปี๋ย 久別) ได้รับรางวัลที่ 3 ในการประกวดศิลปะกรรมแห่งชาติไต้หวันครั้งที่ 22 ถึงตอนนี้ จูหมิงในชื่อ จูชวนไท่ ก็เป็นช่างแกะสลักไม้ที่มีชื่อเสียงโด่งดัง เป็นที่ต้องการตัวของแวดวงสถาปัตยกรรมจีนที่ต้องการปฏิมากรรมไม้ในวงกว้างแล้ว 

ตอนที่เขาอายุ 30 ได้ขอสมัครเข้าเป็นศิษย์ของหยางอิงเฟิง 楊英風 ปฏิมากรผู้มีชื่อเสียงโด่งดังอยู่ในเวลานั้น การที่ช่างแกะสลักไม้แบบพื้นบ้านที่มีชื่อเสียงโด่งดังมาสมัครเป็นศิษย์ของศิลปินปัญญาชนที่มีชื่อเสียงโด่งดังมิใช่เรื่องที่จะเกิดขึ้นได้ง่าย โดยเฉพาะในเวลานั้นจูหมิงในนามจูชวนไท่ก็เคยได้รับรางวัลในระดับประเทศมาแล้วถึง 2 ปีซ้อน หยางอิงเฟิงสอนหลักสำคัญทางศิลปะอย่างหนึ่งให้กับจูหมิง คือ “การละทิ้ง” คือให้ทิ้งชื่อเสียงความสำเร็จเก่าๆ ที่ได้รับผ่านมา เพื่อให้จูชวนไท่ละทิ้งตัวตนเก่าออกไปได้อย่างหมดจด หยางอิงเฟิงจึงตั้งชื่อใหม่ให้ว่า “จูหมิง” และจูหมิงก็ค่อยๆ พัฒนาหลอมรวมศิลปะพื้นบ้านเข้ากับความเป็นสมัยใหม่จนกลายเป็นลักษณะเฉพาะตนขึ้นในเวลาต่อมา 

ในปี 1976 (จูหมิงอายุ 36 ปี) พิพิธภัณฑ์ประวัติศาสตร์แห่งชาติ 國立歷史博物館 ได้จัดแสดงนิทรรศการศิลปะขึ้นเป็นครั้งแรก ในช่วงเวลานั้นแนวคิดเรื่องวัฒนธรรมพื้นบ้านกำลังคึกคักอยู่ในสังคม ผลงานปฏิมากรรมแกะสลักไม้ชื่อ “ร่วมแรงร่วมใจ” 同心協力 ซึ่งเปี่ยมด้วยพลังพื้นบ้านจึงได้รับการตอบสนองอย่างเกรียวกราวจากสังคม ถึงช่วงเวลานี้ผลงานของจูหมิงก็เริ่มก้าวข้ามจากร่องรอยศิลปะตามขนมาสู่ความเป็นสมัยใหม่ ตามคำชี้แนะของอาจารย์หยางอิงเฟิงที่ให้เรียนรู้ “การทิ้ง” จูหมิง เรียนรู้ที่จะทิ้งตัวตนของจูชวนไท่ ละทิ้งชื่อเสียงความสำเร็จเก่าๆ ที่ส่งผลงดงามทั้งด้านรายได้และการยอมรับนับถือของสังคมวงกว้าง

จูหมิง
จูหมิง

ต่อมาผลงานชุดไท่จี๋ (ไท้เก๊ก) 太極系列 ก็ได้สร้างชื่อให้กับจูหมิงอย่างเกรียวกราวในระดับนานาชาติ ผลงานชุดนี้เป็นผลงานชิ้นใหญ่มาก สามารถแสดงออกถึงจิตวิญญาณแบบจีนออกมาได้อย่างเป็นสากล ใช้เทคนิคทิ้งร่องรอยการแกะไม้ด้วยเลื่อยยนต์ ต่อมาได้คลี่คลายตัวมาใช้วัสดุอื่นด้วย จูหมิงประสบความสำเร็จอย่างยิ่งใหญ่ทั้งด้านชื่อเสียงและเงินทองกับผลงานชุดไท่จี๋ และเขาก็เคลื่อนไปข้างหน้าในโลกทางศิลปะด้วย “ปรัชญาการละทิ้ง” ต่อไป จากการแกะสลักด้วยท่อนไม้ทั้งต้นด้วยเลื่อยยนต์ จูหมิงเปลี่ยนมาใช้ดินเผา, ฟองน้ำ, โลหะผสม, สแตนเลส, โพลีเอสเตอร์ และวัสดุอื่นๆ  ในการสร้างสรรค์งานปฏิมากรรมของเขาในเวลาต่อมา

ปี 1977 จูหมิงเริ่มแสดงนิทรรศการเดี่ยวในต่างประเทศที่ประเทศญี่ปุ่นเป็นครั้งแรก จากนั้นก็ตระเวนแสดงงานไปทั่วเอเซีย ยุโรป อเมริกา การประสบความสำเร็จจากแสดงนิทรรศการกลางแจ้งที่กรุงปารีสและในพื้นที่สาธารณะกลางแจ้งในอีกหลายประเทศได้ทำให้ชื่อเสียงของจูหมิงเลื่องลือออกไปในโลกศิลปะอย่างมั่นคง

ปี 1999 จูหมิงสร้าง “หอศิลปะจูหมิง” 朱銘美術館 เป็นสวนปฏิมากรรมกลางแจ้งขึ้นที่หมู่บ้านจินซานอำเภอไทเป 台北縣金山鄉 เพื่อให้ผลงานปฏิมากรรมของเขาส่งพลังสนองรับกับสภาพแวดล้อมทางธรรมชาติ และผลงานปฏิมากรรมชิ้นใหม่ๆ ของจูหมิงยังคงทยอยออกมาตามพลังสร้างสรรค์ที่คุโชนต่อไป  

จูหมิง
จูหมิง

朱铭