บลู เอลิกา พลอยอัมพร

บลู เอลิกา พลอยอัมพร

“สนุกค่ะ สนุกกว่าที่คิดเอาไว้มากๆ คอนเส็ปต์ก็ออกแนวอาร์ตๆ ส่วนใหญ่ที่บลูเคยถ่ายจะเป็นทูพีช หรือไม่ก็แบบสดใส ไม่ได้มีคอนเส็ปต์อะไรมากมาย”เสียงสาวน้อยผิวขาวหน้าใส ตอบด้วยความร่าเริง วันนี้เธอมาโพสท่าท้าลมแดดเป็นแบบให้เราได้ชื่นชมความงามของเธอ ท่ามกลางเสียงคลื่นกระทบโขดหิน แสงแดดอ่อนๆ สะท้อนกับผิวน้ำ ส่องประกายระยิบระยับ

ความแตกต่างที่เธอว่าก็คือการถ่ายที่ไม่จำเป็นต้องมองกล้องตลอดเวลา เพียงแค่ปล่อยให้ลื่นไหลไปตามอารมณ์  
“บลูว่าเซ็กซี่นะ จริงๆ แล้วมันไม่จำเป็นต้องผ้าน้อยชิ้น แต่งตัวแบบเสื้อยืด กางเกงยีนส์ก็ดูเซ็กซี่ได้เหมือนกัน”

 

เธอยิ้มให้กับผมจนเห็นลักยิ้มที่แก้ม ความน่ารักสดใสของเธอนั้นดึงดูดให้นิตยสารหลายๆ เล่มติดต่อเธอมาถ่ายแฟชั่น จนมีข่าวออกมาว่าคุณแม่ต้องเบรกเธอในเรื่องนี้
“คือคุณแม่ไม่ได้เบรก แต่ว่าก่อนหน้านี้ หนูไปถ่ายแฟชั่นเซ็ตของหนังสือเล่มหนึ่งเข้า แล้วสิ่งที่ออกมามันไม่เหมือนกับที่คุยไว้ แม่เขาก็เลยรู้สึกว่าอย่าทำอะไรที่เป็นแบบนี้อีก แต่ครั้งนี้ที่มาถ่ายให้กับ MiX MAGAZINE ก็รู้สึกสบายใจ เพราะคุณแม่รู้จักกับทีมงานด้วย”

 

พูดถึงคุณแม่ เราเลยถามเผื่อหนุ่มๆ ถึงเรื่องคุณแม่ด้วยว่าดุมั้ย ถ้าใครจะเข้าไปจีบลูกสาว 
“คุณแม่เค้าจะเป็นคนที่ช่างสังเกต มองเยอะ คิดเยอะด้วย แต่ด้วยความที่เขาเป็นคนใจดี เขาก็ไม่ได้คิดหรอกค่ะ ว่าหนุ่มๆ ทุกคนที่เข้ามาจะมาเป็นแฟนเรา แม่เขาเป็นคนขยัน เขาก็คงอยากได้คนที่ขยัน คนทำงาน แล้วก็คนที่รักลูกสาวเขาจริงๆ คือถ้าคุณแม่ไม่โอเคก็คงไม่ต้องถึงกับเลิกกันเลย แต่ว่าคงต้องปรับเปลี่ยน ถ้าสุดท้ายไปไม่ไหวจริงๆ ก็คงต้องแยกกันไป”

 

ด้วยความที่เธอเป็นผู้หญิงที่ยิ้มเก่ง ผิวขาวและน่ารัก ทำให้มีข่าวออกมาเป็นระยะๆ ทั้งเรื่องรูปที่ลงในนิตยสารเล่มหนึ่ง หรือเรื่องเว็บ Hi-5 ที่มีคนอ้างชื่อเธอ
“เรื่อง Hi-5 คือบลูก็มีของตัวเองอยู่แล้ว เพราะว่าเล่นมานานแล้ว ตอนแรกก็เอาไว้ทักทายเพื่อนที่อยู่กันไกลๆ หรือไม่ค่อยได้เจอกัน จนหลังๆ เขาก็มาฮิตกัน จนวันหนึ่งเราเข้าไปดูในช่องที่แสดงว่ามีใครเข้ามาดูเว็บเราบ้าง ก็ปรากฏว่า เอ๊ะทำไมเจอตัวเราเองมาดูตัวเรา ก็คลิกเข้าไป โอ้โห งงเลย เขามีรูปเยอะกว่าบลูอีก คือคงไปเอามาจากตามงานหรือว่าที่ไหนสักอย่าง บลูก็เข้าไปเช็กว่าเขาเข้าไปคุยกันใครบ้าง ก็เจอว่าเขาคุยว่าตอนนี้บลูยุ่งอยู่ ก็ไม่ได้คิดมากอะไร แต่ปรากฏว่ามีคนถามเยอะ ก็เลยคิดว่าถ้ามีคนเข้าใจผิดมันอาจจะส่งผลเสียกับเรา ก็อยากจะบอกว่าของบลูน่ะมีแค่อันเดียว แล้วก็เล่นมานานแล้วด้วย เพราะฉะนั้นต้องใช้วิจารณญาณเยอะๆ หน่อยว่าของจริงหรือไม่จริง”

 

ส่วนใครที่สงสัยว่าทำไมเธอถึงชื่อ บลู นั่นก็เพราะคุณพ่อคุณแม่ของเธอค้าขายพลอยสีน้ำเงินนั่นเอง เราเลยให้เธอเลือกระหว่าง Blue Sky, Blue Sea และ Blue Label ว่าเธอชอบอย่างไหนมากที่สุด
“Blue Label นี่มันเหล้าใช่ไหมค่ะ (หัวเราะ) บลูเลือก Blue Sky ก็แล้วกัน เพราะว่าชอบท้องฟ้า บางทีท้องฟ้าก็มีดาว บางทีก็มีฝนตก แล้วบลูเป็นคนที่ชอบเที่ยวอยู่แล้วด้วย ไม่ว่าจะไปที่ไหนก็จะเห็นท้องฟ้าอยู่ร่ำไป เพราะท้องฟ้ามันเป็นทุกๆ ส่วนของที่ๆ เราจะไป”

 

เธอวางแผนชีวิตไว้หลายอย่าง แต่ก็ยังไม่ได้สรุปว่าจะทำอะไรในภายภาคหน้า แต่สิ่งหนึ่งที่เธอบอกกับเราก็คือเธออยากแสดงภาพยนตร์ 
“อยากเล่นหนังค่ะ เพราะว่าอย่างอื่นก็ได้ทำมาเยอะแล้ว แต่หนังเนี่ยมีแค่คุยๆ กัน ยังไม่เคยได้เล่นสักครั้งเลย แล้วบลูเป็นคนที่ชอบดูหนังด้วย โดยเฉพาะหนังรัก”

 

หนุ่มๆ คงจะอยากรู้ว่านอกจากเธอชอบดูหนังรักแล้ว ความรักของเธอเป็นอย่างไรบ้าง เพราะก่อนหน้านี้มีทั้งข่าวหนุ่มย้งที่แอบเอาดอกไม้ไปให้ในวันรับปริญญา และข่าวที่เธอคบกับหนุ่มโชกุนอยู่
“อยากจะบอกว่าสำหรับเรื่องพี่ย้งเนี่ย บลูมาเลิกกับเขาตอนที่กำลังจะเรียนจบแล้ว แล้วเขาก็เป็นกำลังใจให้บลูมาตลอด คือระหว่างที่เรียนเนี่ย พี่ย้งจะคอยสอน คอยดูแลบลูเรื่องเรียนตลอด พอเราเรียนจบเขาก็นึกถึงเรา เพราะว่าเราจากกันด้วยดี เขาก็มาแสดงความยินดี เรื่องที่ว่าจะรีเทิร์นไหมเนี่ย ก็คงเป็นเรื่องของอนาคต บลูบอกไม่ได้เหมือนกัน แต่ ณ วันนี้เขาก็ไปเจอคนของเขา ส่วนบลูก็ใช้ชีวิตของบลูไป

“ส่วนเรื่องของพี่โชกุนเนี่ย บางคนอาจจะมองว่าเป็นแฟนกัน คือคำๆ นี้มันแล้วแต่คนจะพูด แต่สำหรับบลูแล้วมันรู้สึกดี เข้าใจกัน แต่ก็ไม่ได้เข้าใจกันทุกเรื่อง มันก็เหมือนลิ้นกับฟัน บางทีเราก็เป็นเพื่อนกัน บางทีก็มีปัญหากัน กินข้าว ดูหนัง ทะเลาะกันบ้าง ก็ต้องปรับๆ กันไป คือสำหรับบลูแล้ว ถ้าจะมีแฟนสักคนก็อยากให้รู้สึกว่าเขามาเป็นเพื่อนเราได้ เป็นพี่เราได้ คือพูดง่ายๆ ก็คือให้เขาเป็นทุกๆ อย่างของเราได้ อยู่ด้วยแล้วเราสบายใจ อุ่นใจ

“บลูชอบมีความรักที่เป็นแบบฮีโร่ เจ้าชายปกป้องเจ้าหญิงอะไรประมาณนี้ คือคิดว่ามันรู้สึกดี มีคนคอยปกป้องเราได้ มีคนคอยดูแลเราได้ เวลาที่เราอยู่ในช่วง
ที่ลำบากใจ ก็อยากให้มีฮีโร่มาช่วยเรา”

 

ช่วงเวลาที่เราไปถ่ายภาพสวยๆ นั้น บังเอิญได้พบกับปรากฏการณ์ที่เรียกว่า “ขี้ปลาวาฬ” ที่ทำให้น้ำทะเลกลายเป็นสีเขียว โดยบางครั้งสาเหตุของการเกิดปรากฏการณ์นี้ก็มาจากฝีมือของมนุษย์นั่นเองที่ทำให้น้ำเสื่อมโทรมลง

“จริงๆ มันก็แย่จริงๆ นะค่ะ มีหลายสิ่งหลายอย่างเกิดขึ้น อากาศบ้านเราก็แปรปรวน ก็เห็นๆ กันอยู่ว่าแม่น้ำหรือทะเลมันก็สกปรก อากาศก็มีมลพิษมากขึ้น แต่เราทุกคนก็ยังต้องอยู่บนโลกใบนี้ร่วมกัน ดังนั้นต้องช่วยกันป้องกัน

“สำหรับตัวบลูเอง ก็จะหลีกเลี่ยงการใช้ถุงพลาสติกหรือถ้าหลีกเลี่ยงไม่ได้ ก็จะเอากลับมาใช้ใหม่อีก อย่างแอร์หรือพัดลมก็จะใช้อย่างประหยัดมากขึ้น หน้าจอคอมก็ปิดเวลาที่ไม่ได้ใช้แล้ว”

 

คำถามสุดท้าย เราถามเธอไปว่า ถ้าโลกใบนี้ต้องถึงกาลอวสานและอยู่ไม่ได้แล้ว เธอจะทำอย่างไร คำตอบของเธอน่ารักมากๆ
“ก็จะขอให้บลูได้อยู่กับทุกคน อยู่กับพ่อแม่ พี่น้อง เพื่อน แฟน อยู่กับคนที่เรารัก อยู่กับแฟนคลับที่คอยให้กำลังใจเรา ทั้งหมดมารวมตัวกันอยู่ในที่เดียวกัน แล้วก็ทำอะไรให้มันสุดๆ แล้วถ้าถึงเวลาที่โลกมันจะแตก ก็จะยิ้มรับกับมันค่ะ” 

Hot Hot Heat