Joy Chonticha Nuamsukon

Joy Chonticha Nuamsukon

ไม่บ่อยครั้งนักที่เราจะได้เห็นเธอในลุคของการถ่ายแฟชั่นเต็มรูปแบบ สำหรับสาวหน้าเด็กเช่นเธอคนนี้ ภาพเบื้องหน้าที่ดูสวยสมวัย บวกกับบทบาททางการแสดงและความสามารถในวงการบันเทิง ที่เห็นถึงพัฒนาการของเธอได้ชัดเจน จนคิวงานทุกวันนี้แน่นเอี๊ยด ... แน่นอนว่าเธอคือคนหนึ่งที่ Lucky In Game ส่วนเรื่องความรัก เรารู้แค่เธอกำลังโสด แล้วจะโปรดให้จีบหรือเปล่านั้นคงต้องถามเจ้าตัว จอย ชลธิชา นวมสุคนธ์

บรรยากาศการทำงานในวันนี้เป็นอย่างไร

บ้างสนุกสนานมากเลยค่ะ เป็นครั้งแรกของจอยที่ได้ถ่ายแฟชั่นจริงๆ ปกติก็ไม่ค่อยได้ถ่ายลงนิตยสารสักเท่าไหร่ ครั้งนี้พอรู้ว่า MiX MAGAZINE ตัดสินใจเลือกจอยมาถ่ายก็รู้สึกแฮปปี้มาก เพราะมั่นใจในทีมงานและภาพที่จะออกมามากเลยค่ะ แล้วก็ได้ร่วมงานกับพี่เดียร์ (ธนนนท์ ธนากรกานต์) และพี่ลูกนัท (สิริวงษ์ กิจเกษมสิน) ซึ่งเคยร่วมงานกันมาครั้งหนึ่งแล้ว ทำให้เรามั่นใจ เพราะพี่เขาจะรู้มุมของเรา

ความพิเศษของแฟชั่นเซ็ตนี้สำหรับคุณคืออะไร

ด้วยคอนเส็ปต์ของนิตยสาร และคอนเส็ปต์ของการถ่ายแฟชั่นเซ็ตนี้ค่อนข้างได้ภาพที่เป็นศิลปะ ไม่ได้เซ็กซี่มากจนเกินไป มันตรงกับความคิดจอยที่ว่า เสน่ห์ของผู้หญิงที่ดูว่าเซ็กซี่บางครั้งก็ไม่จำเป็นต้องโป๊เสมอไป 

แล้วคุณมองว่าตัวเองเซ็กซี่ไหม

ไม่เลย ... (หัวเราะ) ไม่เคยมองตัวเองแบบนั้นเลย เพราะคนจะชอบบอกว่าหน้าเด็กบ้าง ตัวเล็กบ้าง ดูเหมือนเด็ก เลยคิดมาตลอดว่าตัวเองเหมือนเด็ก แบ๊วๆ ใสๆ 

บทนางร้ายขัดกับตัวตนของคุณมากแค่ไหน

จริงๆ แล้วจอยออกจะแมนๆ ด้วยซ้ำ นิสัยเหมือนผู้ชาย ทำอะไรคล่องแคล่ว แต่หลังๆ ภาพลักษณ์ของละครที่เล่นเป็นตัวร้ายตาใส ก็เลยทำให้เห็นว่าเราก็สามารถรับบทนี้ได้ งานละครช่วงที่ผ่านมาก็อาจจะได้เห็นจอยในลุคนางร้าย แต่ก็ไม่ได้เหวี่ยงหรือวีนอะไรขนาดนั้น

ถือว่ายากไหมกับบทนางร้าย

 ยากเหมือนกันนะ อย่างที่บอกเราเป็นคนห้าวๆ ทะมัดทะแมง ฉะนั้นถ้าเกิดต้องไปเล่นบทนี้มันก็ยังต้องคงความใส แต่ว่าแอบร้าย ทำให้เวลาเล่นทุกอย่างเลยดูช้าลง ไม่เหมือนปกติที่เป็นคนพูดเร็ว ทำอะไรเร็ว ก็ต้องลดดีกรีลงมา พยายามสื่อทางสายตาให้มากที่สุด

มีนักแสดงไม่กี่คนที่กลับมาเรียกกระแสได้อีกครั้ง คุณทำได้อย่างไร

จริงๆ ก็ต้องขอบคุณทางช่อง 3 ที่มอบโอกาสที่ดีมาโดยตลอด ไม่ว่าตอนเล่นเรื่อง ‘แรงเงา’ ที่ทำให้จอยได้กลับมาทำงานเต็มที่อีกครั้ง ล่าสุดเรื่อง ‘นางร้ายสายลับ’ ก็ได้รับบทที่น่าสนใจ ซึ่งบทของเรื่องนี้มันทำให้เราได้แสดงความสามารถ พองานออกมาเราก็แฮปปี้ ขนาดดูตัวเราเล่นเอง ยังอดรู้สึกไม่ได้ว่า ตัวเราในละครนี่น่าโดนจริงๆ เลย (หัวเราะ) ก็เข้าใจในฐานะคนดูว่าเขาคงจะชอบให้ตัวละครดูเข้มข้นมีสีสัน

กลัวคนติดภาพว่าตัวเองเป็นนางร้ายหรือไม่

ไม่กลัวเลย เพราะว่าสมัยนี้คนจะเข้าใจมากขึ้น 90% ของคนที่เจอและเดินเข้ามาบอกกับเราเองว่าชอบ ว่าเล่นดีมาก ซึ่งพวกเขาเข้าใจว่าตัวจริงไม่ได้เป็นแบบนั้น ตรงนี้มันเหมือนเป็นรางวัลของการทำงาน ทำให้เราตั้งใจอยากทำงานต่อไป

คุณทำให้คนยอมรับในตัวคุณได้อย่างไร

จอยเรียนรู้มาจากนักแสดงรุ่นพี่หลายคนในเรื่องระเบียบวินัย การรับผิดชอบ เคารพผู้หลักผู้ใหญ่ ซึ่งมันเป็นพื้นฐานของคนในทุกหน้าที่ บางทีพออยู่ไปนานๆ ก็อาจจะลืม อาจจะคิดว่าเราประสบความสำเร็จเป็นที่รู้จักแล้ว แต่การจะทำให้เราอยู่ในวงการได้นานก็คือความที่เรายังหมั่นเรียนรู้พัฒนาตัวเองไปตลอด ทำตัวให้น่ารักสำหรับทุกคน ทำตัวให้เหมือนวันแรกที่ได้เข้ามาในวงการ

วงการบันเทิงให้อะไรกับคุณบ้าง

ให้เยอะมากค่ะ การรับผิดชอบตัวเอง การดูแลตัวเอง แล้วก็ต้องดูแลทุกคนด้วย การจะทำงานในวงการบันเทิงให้ประสบความสำเร็จได้ ไม่ใช่แค่เราทำตัวให้ดีที่สุดอย่างเดียว เราเป็นส่วนเล็กๆ ข้างหน้าที่คอยนำเสนอ แต่คนที่อยู่ข้างหลัง ที่ทำให้เรามาถึงจุดนี้ก็เป็นส่วนสำคัญ 

มองว่าตัวเองเป็นคนบ้างานไหม

ไม่ได้บ้างานนะคะ แค่เป็นคนชอบทำงาน คำว่าบ้างานมันเหมือนเราไม่ได้ชอบกับงานที่ทำ แต่ทำงานมันเป็นการรักงานที่เราทำ จอยเป็นคนติดงาน อาจจะโสดด้วยก็เลยต้องหาอะไรยึดเหนี่ยวจิตใจ (หัวเราะ) ทำงานทุกวันก็มีความสุขดีนะ

ช่วงนี้มีพ่อค้าหนุ่มๆ มาขายขนมจีบบ้างไหม

ตอบยังไงดีล่ะ (หัวเราะ) ถ้าบอกว่าไม่มีเลยก็จะดูขี้เหร่ไปนิดนึง ก็มีเข้ามาค่ะ แต่อย่างที่บอกว่าเราก็ไม่ได้คิดอะไร เป็นเพื่อนกันไปดีกว่า 

โสดครั้งนี้ถึงขั้นทำให้คุณปิดตัวเองหรือไม่

ไม่ขนาดนั้นหรอกค่ะ มีคนเข้ามาบ้าง ก็คุยกันเป็นเพื่อนมากกว่า ถามว่าพร้อมมีแฟนไหม ตอนนี้ก็ยัง เพราะรู้สึกว่ามีความสุขกับการใช้ชีวิตคนเดียวอยู่ แต่ก็ไม่ได้คิดว่าจะต้องปิดโอกาสตัวเอง

วามรักครั้งล่าสุดให้บทเรียนอะไรกับคุณบ้าง

อาจจะเป็นความผิดของเราทั้งคู่ที่ทำให้ทุกอย่างไปต่อไม่ได้ จอยก็รู้ถึงความผิดพลาดที่ผ่านมา ทำให้ครั้งต่อไปก็รู้ว่าเวลาไม่เข้าใจอะไรก็ให้พูดคุยสื่อสารกันให้มากกว่านี้ แต่คนที่เข้ามาเป็นแฟนเราคนใหม่ก็คงไม่เหมือนคนเก่า มันต้องมีการเรียนรู้ใหม่ๆ อะไรที่เป็นข้อบกพร่องของเราก็ค่อยๆ ปรับแก้กันไป 

ขยาดกับอาถรรพ์เลข 7 เลยไหม

ก็มีพี่นักข่าวมาถามว่าเราเจอแบบนี้มา 2 ครั้งแล้ว ก็ไม่รู้ว่าเป็นอาถรรพ์หรือเปล่า จอยเองก็ไม่ได้คิดอย่างนั้นนะ มันอาจจะเป็นจุดเปลี่ยนของช่วงเวลามากกว่า แต่คนต่อไปถ้าคบกันอาจจะไม่คบถึง 7 ปี รีบแต่งงานเลยดีกว่า คิดว่าน่าจะแก้อาถรรพ์ได้นะคะ (หัวเราะ)

Till The Love Has Come