อย่างไรก็ตาม ยังมีกลุ่มคนบางกลุ่มที่สามารถมีอัตราการหายใจได้ต่ำกว่าปกติ นั่นคือ 5-10 ครั้งต่อนาที กลุ่มคนเหล่านี้จะมีสุขภาพร่างกายที่แข็งแรงและเจ็บป่วยได้ยาก เรียกว่าไม่ค่อยป่วยเป็นโรคแทรกซ้อนใดๆ ได้ง่าย ต่างกับคนอีกกลุ่มหนึ่งซึ่งมักจะไม่ค่อยดูแลตนเอง เจ็บป่วยได้ง่าย คนกลุ่มนี้ในหนึ่งนาทีจะมีการหายใจมากกว่า 25 ครั้งขึ้นไป

ถ้าจะให้คำจำกัดความง่ายๆ กับสิ่งที่เกิดขึ้นก็คือ คนที่เป็นพวกหายใจเร็ว ก็เป็นเพราะมีความเครียดสูง ไม่ว่าจะมาจากหน้าที่การงาน ปัญหาครอบครัว หรือเรื่องเงินทองก็ตาม คนกลุ่มนี้จะถูกความเครียดกระตุ้นระบบประสาทอัตโนมัติที่เรียกว่า ซิมพาเธติก ให้ทำงานมากขึ้น และเมื่อทำงานมากขึ้นร่างกายก็จะส่งสารสื่อนำประสาทไปกระตุ้นฮอร์โมนต่างๆ ออกมา เช่น อะดรีนาลีน แคทาโคลามีน ให้มากกว่าปกติ และเมื่อร่างกายหลั่งสารพวกนี้ออกมาอย่างต่อเนื่องและยาวนาน ก็จะทำให้ร่างกายเกิดโรคความดันโลหิตสูง สุดท้ายหากไม่มีการดูแลรักษา ก็จะกลายเป็นความดันโลหิตสูงแบบถาวรได้ในอนาคต

เมื่อใดก็ตามที่มีโรคความดันโลหิตสูงติดตัว ก็มีโอกาสเสี่ยงอย่างมากที่จะเกิดโรคอื่นๆ แทรกซ้อนตามมาเป็นขบวน ไล่มาตั้งแต่โรคหัวใจ โรคไต โรคหลอดเลือดหัวใจตีบ โรคอัมพาต ฯลฯ ซึ่งเป็นโรคที่ล้วนแต่บั่นทอนเวลาที่คุณจะได้ดูโลกที่สวยงามใบนี้

ดังนั้น หนึ่งในวิธีการง่ายๆ ที่จะช่วยให้คุณมีชีวิตยืนยาวก็คือ การยืดลมหายใจแต่ละครั้งให้ยาวออกไป แต่การจะทำแบนี้ได้ก็ต้องมีการฝึกลมหายใจ

เคล็ดลับของการฝึกหายใจนั้นเป็นเรื่องที่ไม่ยากเย็น เพราะเพียงแค่กำหนดลมหายใจเข้า-ออกแต่ละครั้งให้ช้ากว่าปกติ ไม่ต้องเร่งรีบ โดยเราอาจจะกำหนดลมหายใจของเราแบ่งออกเป็น 4 จังหวะ เริ่มตั้งแต่ เข้า-กลั้น-ออก-พัก ทุกครั้งที่เราหายใจเข้าก็ให้เราหายใจช้าๆ ยาวๆ และเริ่มนับ 1 ถึง 5 หลังจากสูดลมหายใจเข้าเต็มปอดแล้วก็กลั้นไว้ และเริ่มนับ 1 ถึง 10 ในใจ จากนั้นจึงค่อยๆ ผ่อนลมหายใจออกช้าๆ ยาวๆ นับ 1 ถึง 5 จากนั้นก็ปล่อยให้ร่างกายได้พักโดยนับ 1 ถึง 5 เช่นกัน

การฝึกลมหายใจด้วยวิธีนี้นั้น จะทำให้ร่างกายได้รับออกซิเจนเพิ่มขึ้นกว่าเดิม โดยเมื่อเวลาที่เรากลั้นลมหายใจ ออกซิเจนที่เราหายใจเข้าไปนั้นจะถูกดูดซึมเข้าสู่ร่างกายอย่างช้าๆ และทำให้ระบบทางเดินหายใจของเราดีขึ้น และถ้าเราทำเพียงแค่วันละ 15นาที ต่อเนื่องประมาณ 1 เดือน ความดันโลหิตก็จะลดลง และร่างกายก็จะถูกปรับให้มีสมดุลมากขึ้น

ในการหายใจเข้า-ออกนั้น การหายใจที่เรียกได้ว่าดีที่สุดก็คือ การหายใจเข้าให้ท้องพองออก แล้วหายใจออกท้องยุบ อย่างไรก็ตามยังมีการฝึกลมหายใจแบบอื่นๆ อีก อาทิ การนั่งสมาธิ การฝึกชี่กง รวมทั้งการออกกำลังกายในลักษณะต่างๆ เป็นประจำเพียงแต่หากเราได้พื้นฐานการหายใจที่ดีไปใช้ประกอบด้วยแล้ว ก็จะยิ่งทำให้ร่างกายเกิดความสมดุลขึ้น และยังทำให้ชีวิตของเรายืนยาวขึ้นอีกด้วย