เอกชัย กีรติวรนันท์

เอกชัย กีรติวรนันท์

แม้ว่าวันนี้จะเป็นช่วงบ่ายของวันธรรมดา แต่กลับมีคนมาเล่นโบว์ลิ่งที่ บลูโอ ริธึม แอนด์ โบว์ล บนชั้น 4 ของโรงภาพยนตร์เมเจอร์ซีนีเพล็กซ์รัชโยธินอย่างหนาตา โดยเฉพาะกลุ่มวัยรุ่นและนักศึกษา

 

“คุณเล่นโบว์ลิ่งเก่งมั้ยครับ” ผมถามคุณเอกชัย กีรติวรนันท์ Associate Marketing Director ของกลุ่มเมเจอร์ โบว์ล

 

“เล่นได้ประมาณนึง แต่ไม่ถึงกับเก่งนะครับ”

 

เขาพาผมเข้ามาในห้อง Platinum ที่มีเลนโบว์ลิ่ง 4 เลน และคาราโอเกะอยู่รวมกัน แม้ผมจะเคยเข้ามาเล่นโบว์ลิ่งที่นี่อยู่บ่อยครั้ง แต่ไม่เคยรู้มาก่อนเลยว่ามีห้องแบบนี้อยู่ด้วย คุณเอกชัยบอกกับผมว่าห้องนี้จะเต็มตลอด ต้องมีการจองล่วงหน้า เพราะลูกค้านิยมมาจัดปาร์ตี้ที่ห้องนี้แทบทุกวัน

 

คุณเอกชัยเข้ามารับผิดชอบเรื่องของ Lifestyle Entertainment ที่อยู่ภายในโรงหนังซึ่งแบ่งออกเป็น พารากอนซีนีเพล็กซ์เมเจอร์ซีนีเพล็กซ์ เอสพละนาดซีนีเพล็กซ์ และอีจีวี นอกจากนี้ก็จะมีในส่วนของไอซ์สเก็ต คาราโอเกะ และโบว์ลิ่ง ซึ่งแยกออกเป็น 5 แบรนด์ต่างๆ คือ Major Bowl Hit, Blu-O Rhythm & Bowl ,Sub Zero ,D-Cine Karaoke และ The Bowl Club

 

“ผมดูทั้งหมดตอนนี้ก็ 32 สาขา ทั่วประเทศ เรามีเลนโบว์ลิ่งกว่า 500 เลน ห้องคาราโอเกะกว่า 400 ห้อง เพราะฉะนั้นเราไม่ได้แข่งกับใคร เราไม่ได้ดูคู่ค้า แต่เรากำลังแข่งกับตัวเราเอง ทำอย่างไรให้เป็นหนึ่งในไลฟ์สไตล์ของคนทันสมัย”

 

ย้อนไปเมื่อหลายปีก่อน เขาทำงานให้กับฝ่ายการตลาดของบริษัทชื่อดังอย่างจีเอ็มเอ็มแกรมมี่ ก่อนที่จะผันตัวเองเข้ามาอยู่ในยุคแรกๆ ของเมเจอร์ซีนีเพล็กซ์ ช่วงนั้นเขาทำโปรโมชั่นในพื้นที่ของส่วนกลาง เรื่องของโบว์ลิ่งและบัตรเครดิตใบแรก Major Mileage ของโรงหนังที่นับว่าใหม่มากๆ ในสมัยนั้น

 

8 ปีที่อยู่ที่นี่ เรียกได้ว่าเรียนรู้จนครบทุกอย่าง เขาจึงตัดสินใจเปิดโลกทัศน์ใหม่ให้กับตัวเองด้วยการย้ายสังกัดไปอยู่กับบริษัทเวิร์คพอยท์และทำงานการตลาดให้กับที่นั่น 3 ปี ก่อนที่จะหวนกลับมาบ้านหลังเดิมที่ชื่อเมเจอร์อีกครั้งจนถึงปัจจุบัน

 

“การทำการตลาดมีการเปลี่ยนแปลงมีอยู่ตลอดเวลา เราต้องเปลี่ยนตามกลุ่มเป้าหมาย เปลี่ยนตามสถานการณ์นั้นๆ พื้นฐานของคนต้องการพักผ่อน จะทำยังไงเมื่อเข้ามาแล้วสบายใจ การทำโปรโมชั่น ต้องเข้าใจความต้องการของลูกค้าซึ่งจะไม่เหมือนกันในแต่ละสาขา การเล่นโบว์ลิ่งจะสนุกได้ต้องอาศัย ความสนุก เติมสีสันเข้าไปในเกม พื้นฐานคนส่วนใหญ่ ชอบอะไรที่มีการท้าทายการทำการตลาดแบบ Segmentation มันไม่ใช่เรื่องยาก แต่ก็ไม่ใช่เรื่องง่าย เราต้องดูว่าลูกค้าเป็นใคร ชอบแบบไหน ต้องรู้จักไลฟ์สไตล์”

 

แม้ในสภาวะเศรษฐกิจแบบนี้ แต่คุณเอกชัยก็ยังมั่นใจว่า สิ่งที่เขารับผิดชอบอยู่ยังไปได้ เพราได้มีการเตรียมงานไว้เรียบร้อยแล้วไม่ว่าจะเป็นเรื่องของโปรโมชั่นที่ปรับเปลี่ยนอยู่ตลอดเวลา หรือเรื่องของกิจกรรมต่างๆ อย่างในเดือนกันยายนที่จะถึงนี้ ก็จะมีโปรเจ็คท์วันออนวัน ไทยแลนด์ โบว์ลิ่ง แชมเปี้ยนชิพ 2009 ที่ทางเมเจอร์โบว์ลร่วมกับสมาคมโบว์ลิ่งแห่งประเทศไทยจัดขึ้น นั่นก็คือการแข่งโบว์ลิ่งแบบน็อคเอ้าท์ คนละเกม ไม่ว่าคุณจะเป็นใคร เล่นเป็นหรือไม่เป็น ก็มีสิทธิ์ได้เงินล้าน ใครชนะได้เข้ารอบคล้ายระบบการเล่นเอฟเอคัพของฟุตบอล ไม่ว่าจะเก่งหรือไม่เก่งก็มีสิทธิ์แพ้ชนะได้พอๆ กัน เริ่มตั้งแต่เดือนสิงหาคมนี้ถึงวันที่ 10ธันวาคม พร้อมชมการถ่ายทอดสดครั้งแรกในเมื่องไทยทางฟรีทีวีและทรูวิชั่น พร้อมกัน

 

“วิธีการทำการตลาดจะละเอียดอ่อนมากครับ คือทำแล้วต้องเห็นผล ต้องเกิดรายได้ บางทีอาจจะทำเพื่อสร้างแบรนด์ แต่สุดท้ายก็ต้องสร้างผลกำไรให้กับองค์กร ผมคิดว่าคนที่จะเป็นนักการตลาดที่ดีจะต้องมีไหวพริบ โลกปัจจุบันการทำการตลาดเราต้องหาpartnership เพื่อนๆ ทางการตลาดที่มีกลุ่มลูกค้าเหมือนกัน แล้วผลที่ได้จะเป็นแบบ Win Win Strategies

 

เห็นเขาดูแลเรื่องการตลาดเกี่ยวกับไลฟ์สไตล์อย่างนี้ ผมเลยถามถึงไลฟ์สไตล์ในการการใช้ชีวิตของเขาบ้าง

 

“ชีวิตส่วนใหญ่นอกเหนือจากเวลางานแล้ว ผมให้เวลาที่เหลือทั้งหมดกับครอบครัวครับ ดูแลตัวเองออกกำลังกาย ปลูกต้นไม้ อีกอย่างผมเป็นคนชอบแต่งบ้านเอง หนังสือแต่งบ้านนี่มีเยอะเลย เสาร์อาทิตย์ ถ้าไม่ติดงาน ก็ไปดูหนัง ทานข้าวนอกบ้านกับคุณแม่และครอบครัว เพราะฉะนั้นเป้าหมายจริงๆ ของชีวิตผมก็คือครอบครัวครับ”

 

ผมคิดว่าเขาพูดถูก ถ้าไม่มีครอบครัว ทุกอย่างก็ไม่มีความหมาย และรูปแบบการใช้ชีวิตของเราก็ควรสอดคล้องกับการใช้เวลากับครอบครัว

 

เห็นด้วยไหมครับ?

ลูกโบว์ลิ่งถูกปล่อยออกจากมือตกสู่พื้น