มารีย์ รูเม็ท Snow Leopard นางฟ้าบนผืนผ้าใบ

มารีย์ รูเม็ท Snow Leopard นางฟ้าบนผืนผ้าใบ

มารีย์ รูเม็ท คือหนึ่งในนักมวยไทยหญิง ชาวเอสโตเนีย ที่จากบ้านเกิดออกมาตามล่าฝัน ปัจจุบันเธออยู่สังกัดค่าย Tonkhar MuayThai Gym (ต้นข่ามวยไทยยิม) จังหวัดเชียงราย ด้วยฝีไม้ลายมือที่ไม่ธรรมดาบวกกับบุคลิกหน้าตาที่สวยงามตามแบบฉบับชาวยุโรป ยามที่เธอวาดแม้ไม้มวยไทยบนเวที จึงมักสะกดสายตาผู้ชมอยู่ตลอดเวลา แน่นอนว่าเธอยังมีเรื่องราวในชีวิตอีกมากมาย ที่ได้เปิดเผยกับเราในครั้งนี้

ปกติแล้วอาชีพคุณคือนักมวย แต่วันนี้ได้มาเป็นนางแบบให้กับ MiX Magazine รู้สึกอย่างไรบ้าง

วันนี้หนูมาถ่ายแบบครั้งแรกในชีวิตเลยนะคะ รู้สึกว่าตื่นเต้นนิดนึง ยังไม่ชิน แต่ก็เป็นประสบการณ์ใหม่ที่น่าสนใจเหมือนกัน

เราทราบมาว่าคุณมาจากประเทศเอสโตเนีย อยากให้คุณช่วยเล่าคร่าว ๆ ว่าประเทศคุณเป็นอย่างไร และมีสถานที่ใดที่น่าสนใจในการท่องเที่ยวบ้าง

ไม่แปลกใจที่หลายคนอาจไม่รู้จักประเทศเอสโตเนีย เพราะเอสโตเนียเป็นประเทศเล็ก ๆ มีประชากรแค่1,300,000 คน แต่ประเทศของหนูก็มีสถานที่ท่องเที่ยวเยอะ อย่างในเมืองหลวงกรุงทาลลินน์ มีเมืองเก่าย้อนยุค แล้วยังมีธรรมชาติที่สวยงาม เพราะฉะนั้นใครมีโอกาสก็ไปเที่ยวนะคะ

ช่วยเล่าเรื่องวัยเด็กของคุณให้ฟังหน่อย ว่าเติบโตมาครอบครัวแบบไหน

ครอบครัวหนูมีพี่น้อง 3 คน หนูเป็นคนสุดท้อง โดยมีพี่สาวกับพี่ชายอายุต่างกัน 7 กับ 10 ปี ส่วนฐานะทางบ้านก็กลาง ๆ ไม่ได้ลำบากแต่ก็ไม่ได้ร่ำรวยอะไร

ในวัยเด็กคุณมีความฝันอะไรไหม

มีค่ะ แต่ไม่รู้ภาษาไทยเรียกว่าอะไร น่าจะเป็นช่างที่เปลี่ยนสีรถค่ะ

เหมือนกับว่าคุณมีความสนใจเรื่องศิลปะด้วยรึเปล่า

หนูชอบเรื่องศิลปะ ชอบวาดรูป สมัยก่อนก็มีวาดรูปขาย แต่ตอนนี้ไม่ได้ทำแล้ว แค่วาดเล่น ๆ ไม่ค่อยมีเวลาเพราะต้องซ้อมมวย แต่ถ้ามีเวลาว่างอาจจะลองวาดรูปขายอีกรอบค่ะ

กลับเข้าเรื่องมวยบ้าง คุณเริ่มต้นรู้จักมวยไทยได้อย่างไร

คือเพื่อนที่เรียนอยู่ห้องเดียวกัน เขาเคยซ้อมมวยไทยแล้วมีโอกาสได้ขึ้นชกแล้วหนูไปเชียร์ ตั้งแต่นั้นมาก็เห็นว่ากีฬามวยไทยนั้นน่าสนใจดี ตอนนั้นอายุ 15 ปี รู้สึกว่าอยากจะเล่นกีฬาอะไรสักอย่าง เพราะก่อนหน้านี้ก็เคยเล่นกีฬาหลายชนิดแต่ไม่เคยเจอสิ่งที่ถูกใจจริง ๆ ก็เลยคิดว่าลองไปเล่นกีฬามวยไทย ก็ติดใจเลยค่ะ

หลังจากนั้นคุณเดินตามความฝันอย่างไร

ตอนแรกก็แค่ซ้อมมวยไทยเล่น ๆ พอซ้อมได้ประมาณ 8 เดือน หนูก็ได้โอกาสขึ้นไปชกในรายการสมัครเล่นแล้วชนะ หลายคนก็มายินดีกับหนูด้วย ขนาดคนที่เคยแกล้งหนูมาก่อน หรือว่าเคยพูดไม่ดีเขาก็มาขอโทษหนู หลังจากนั้นรู้สึกว่าชีวิตดีขึ้น ก็เลยคิดว่าจะจริงจังกับกีฬาชนิดนี้ค่ะ จนสุดท้ายตัดสินใจเดินทางมาอยู่ประเทศไทย

ตอนนั้นคุณอายุเพียง 15 ปี แล้วครอบครัวคุณมีความคิดเห็นอย่างไรบ้าง

ตอนแรกพวกท่านคิดว่าหนูพูดเล่น เพราะชีวิตหนูทำงานตั้งแต่เด็ก ตอนอายุ 14 ปี ทุกครั้งที่ปิดเทอมก็ทำงานพาร์ทไทม์ เก็บเงินเพื่อจะซื้อรถยนต์ แต่พอจริงจังกับมวยไทยก็เอาเงินส่วนนั้นมาซื้อตั๋วเครื่องบิน เพื่อเดินทางมาประเทศไทยค่ะ หนูมาซ้อมมวยอยู่ภูเก็ต 2 เดือน แล้วขึ้นชกจนเป็นของ แชมป์ Rawai Boxing Stadium พอกลับมาที่บ้านเอสโตเนีย หนูก็มีเงินมาให้พ่อกับแม่ดูว่าชกมวยก็มีรายได้เหมือนกัน แล้วมาประเทศไทยหนูก็มีความสุข สุดท้ายพวกท่านก็ยอมรับ แล้วก็เห็นว่าลูกสาวมีความรับผิดชอบ เพราะทำงานเก็บเงินมาตั้งแต่เด็ก ไม่อยากทำลายฝันของลูกสาว สุดท้ายก็ยอมให้หนูมาอยู่ที่ประเทศไทยค่ะ

ต้องยอมรับว่าสมัยก่อนรายได้ของนักกีฬามวยไทยไม่เยอะ ทำไมคุณยังตัดสินใจเข้ามาสู่วงการมวยไทย

หนูก็มาจากครอบครัวที่ไม่ได้มีเงินมากมาย หนูก็ชินอยู่แล้ว ใช้ชีวิตง่าย ๆ ไม่เคยซื้อเสื้อผ้าแพง ๆ ไม่ยึดติดกับของแบรนด์เนม แต่เลือกใช้ชีวิตที่หนูรักจริง ๆ แทนที่จะไปหางานที่ไม่ชอบทำเพื่อจะได้เงินเยอะกว่า การทำในสิ่งที่หนูรักคืออาชีพมวยไทย คือทางที่ดีกว่าสำหรับหนูค่ะ

การเป็นนักมวยอาชีพในแบบคุณ ซ้อมหนักแค่ไหน

อย่างแรกต้องมีวินัยความรับผิดชอบ ต้องตื่นทุกเช้าออกไปวิ่ง ซ้อมอาทิตย์ละ 6 รอบเช้าเย็น ช่วงที่ไม่มีรายการชกตอนเช้าก็วิ่งประมาณ 4-5 กิโลเมตร ตอนเย็นวิ่งอีก 3 กิโลเมตรค่ะ แต่ถ้าใกล้มีรายการชก ตอนเช้าวิ่งประมาณ 8 กิโลเมตร ตอนเย็นวิ่งประมาณ 3-4 กิโลค่ะ กลับมาซ้อมกระโดดเชือก สปีดสเต็ปเท้า ชกลม เตะกระสอบ เตะเป้า เล่นเชิง เล่นเวท เล่มกล้ามท้อง ก็เยอะเหมือนกันค่ะ

ในรายการของ ONE Championship ไฟต์ที่คุณพบกับอนิสสา เม็กเซน นับความพ่ายแพ้ที่บีบหัวใจแฟนคลับเป็นอย่างมาก คุณรู้สึกอย่างไรกับไฟต์นั้นบ้าง

มันก็เป็นแรงที่ทำให้เราก้าวเดินต่อไปนะคะ ถ้ามวยชนะอย่างเดียวก็อาจคิดได้ว่าเก่งแล้วไม่ต้องพยายามขนาดนี้ก็ได้ แต่ถ้าแพ้บ้างก็ทำให้เราต้องยิ่งมีความพยายามให้มากขึ้น ส่วนเรื่องท้อใจก็แทบไม่มีค่ะ

คุณคิดว่าตัวเองต้องพัฒนาตรงส่วนไหนอีกบ้าง

เหตุผลที่ชอบกีฬามวยไทยคือ ไม่สามารถบอกได้เต็มปากว่า ไม่มีอะไรที่จะเรียนเพิ่มอีกแล้ว เพราะทุกคนจะมีจุดอ่อนจุดแข็งในกีฬานี้ หนูก็เหมือนกันต้องฝึกเพิ่มเติมอีกเยอะแยะค่ะ โดยเฉพาะรายการของ ONE ที่ใช้นวมเล็กมีโอกาสทำให้บาดเจ็บและน๊อคเยอะกว่า เวทีอื่นมวยไทยอาจไม่ค่อยให้คะแนนกับหมัด แต่ตอนนี้นักชกทุกคนจะออกหมัดเยอะกว่าเดิม ทำให้ต้องเปลี่ยนเรื่องของการบังหมัดและรูปมวยเยอะพอสมควร

การชกมวยไทยที่มีอาวุธหนักแบบนี้ คุณเคยกังวลเรื่องใบหน้าที่อาจพลาดท่าแตกบ้างไหม

ไม่เคยกังวลนะคะ เพราะสไตล์การชกของหนูเป็นมวยจังหวะฝีมือ ไม่ค่อยได้เข้าไปแลกหมดกับใครง่าย ๆ ค่ะ

ทุกวันนี้คุณเป็นนักกีฬามวยไทยอาชีพต้องซ้อมทุกวัน เคยแอบคิดไหมว่าตัวเองสูญเสียชีวิตความเป็นวัยรุ่นไป

หนูไม่เคยมีความคิดนี้เลย หนูรู้สึกว่าก่อนที่จะมาจริงจังกับมวยไทยก็มีโอกาสไปเที่ยวกับเพื่อน ๆ อยู่แล้วค่ะ มันไม่ใช่ส่วนสำคัญของชีวิตขนาดนั้น หนูรู้สึกว่ามันไม่ได้มีอะไรที่ขาดหายไปกับชีวิต

ถ้าคุณไม่ได้ชกมวยไทยคิดว่าตอนนี้น่าจะทำอะไรอยู่

หนูเคยคิดว่าถ้าไม่เลือกเส้นทางนี้ ชีวิตหนูจะไปทางไหนดี ก็น่าจะเรียนต่อที่ประเทศเอสโตเนีย แล้วก็ทำงานเหมือนคนทั่วไปค่ะ

 

แล้วเรื่องความรักตอนนี้เป็นอย่างไรบ้าง

ไม่ขอตอบดีกว่า (ยิ้ม) ตอนนี้หนูไม่ได้โฟกัสในเรื่องนี้ค่ะ

ถ้าอย่างนั้นขอถามใหม่ คนที่จะเป็นแฟนคุณได้ต้องเป็นคนแบบไหน

ต้องขยันทำงาน เป็นคนที่มีความรับผิดชอบ และอารมณ์ดี

จากที่ได้พูดคุยกับคุณ รู้สึกว่าคุณใช้ภาษาไทยตั้งแต่การ ฟัง พูด อ่าน เขียน ในขั้นดีเยี่ยม มีวิธีการเรียนรู้อย่างไร

คือการฟัง พูด อ่าน เขียน ภาษาไทยได้ หนูเริ่มฝึกภาษาไทยตั้งแต่วันแรกที่มาถึงประเทศไทย แล้วก็เสิร์ชในยูทูบ คนไทยเขา Hello ยังไง How are You ยังไง ก็คิดว่าถ้าไปอยู่ประเทศอื่นอย่างน้อยต้องพยายามฝึกภาษาของเขาด้วยนะคะ ยิ่งตอนที่อยู่เชียงใหม่ถ้าไปร้านอาหารจะมีเมนูภาษาไทยกับภาษาอังกฤษ ก็อยากจะรู้ว่ามันต่างกันยังไง อยากรู้ว่าคนอื่นเขาพูดอะไรกัน ก็ค่อยเรียนไปเรื่อยจากยูทูบแล้วเพื่อนรอบ ๆ ตัว อีกอย่างคือก็โหลด App เกมเรียนภาษาไทยของเด็ก ตั้งแต่ ก.ไก่ถึง ฮ.นกฮูก ฝึกท่องทุกคืนก่อนนอนจนสุดท้ายก็อ่านเขียนได้ค่ะ

มาถึงวันนี้มวยไทยให้อะไรคุณบ้าง

ตั้งแต่วันแรกที่ฝึกมวยไทย หนูมีความมั่นใจในตัวเองสูงขึ้น สมาธิก็ดีกว่าเดิม คือมีเรื่องทางบวกที่ดีเยอะมากบรรยายไม่หมดค่ะ

ปัจจุบันครอบครัวของคุณที่เอสโตเนียพูดถึงคุณอย่างไรบ้าง

หนูโทรหาที่บ้านทุกอาทิตย์ ครอบครัวไม่ได้เป็นห่วงแล้ว เพราะเห็นว่าอยู่ประเทศไทยมาหลายปี หนูไม่เคยมีปัญหาอะไรที่ทำให้พวกท่านเป็นห่วง ตอนนี้ทางครอบครัวก็ยินดีและภูมิใจที่ลูกสาวได้เดินทางไปในเส้นทางที่ตัวเองชอบ

คุณวางเป้าหมายในอนาคตในเรื่องการชกมวยไทยไว้อย่างไร

สักวันหนูอยากเป็นแชมป์โลก อยากเก็บเงินไปเรื่อย ๆ จนกว่าจะซื้อบ้านให้คุณแม่ที่เอสโตเนียค่ะ

ช่วยฝากอะไรถึงแฟนคลับที่ติดตามคุณหน่อย

อยากขอบแฟนคลับทั้งหลายที่ติดตามหนูมาตลอด ช่วงนี้ก็ฟิตซ้อมร่างกายไปเรื่อย ๆ รอรายการชก อยากให้ติดตามดูไฟต์ต่อไปได้เลยนะคะ ขอบคุณค่ะ

 

มารีย์ รูเม็ท Snow Leopard นางฟ้าบนผืนผ้าใบ