นาฬิกาที่สร้างเนื่องในวโรกาสมหามงคล

นาฬิกาที่สร้างเนื่องในวโรกาสมหามงคล

ต้อนรับทศวรรษใหม่ของ MiX ผู้เขียนขออนุญาตนำเสนอเรื่องราวเกี่ยวกับนาฬิกาที่ถูกสร้างขึ้นในวาระอันเป็นมงคลยิ่ง เนื่องในวโรกาสการฉลองสิริราชสมบัติครบ 60 ปี ของในหลวงรัชกาลที่ 9 และนาฬิกาที่สร้างขึ้นเนื่องในวโรกาสวันคล้ายวันพระราชสมภพ สมเด็จพระเทพรัตนราชสุดาฯ สยามบรมราชกุมารี ครบรอบ 60 พรรษา กันครับ

มูลนิธิ คิง เพาเวอร์ ร่วมกับผู้ผลิตนาฬิกาแบรนด์ดังระดับโลก SEIKO และ ORIENT ผลิตนาฬิกาคอลเลคชั่นพิเศษจำนวนแบรนด์ละ 6,000 เรือน โดยได้รับพระราชทานพระบรมราชานุญาตเชิญอักษรพระปรมาภิไธย ภ.ป.ร. ประดิษฐานบนหน้าปัดนาฬิกาและเชิญตราสัญลักษณ์การจัดงานฉลองสิริราชสมบัติครบ 60 ปี ประดับที่ด้านหลังตัวเรือนโดยรายได้จากการจำหน่าย มูลนิธิ คิง เพาเวอร์ จะนำขึ้นทูลเกล้าฯ ถวายแด่พระบาทสมเด็จพระปรมินทรมหาภูมิพลอดุลยเดชเพื่อทรงใช้สอยตามพระราชอัธยาศัย

ในส่วนของ “ORIENT” นวัตกรรมเครื่องบอกเวลาที่เปี่ยมไปด้วยคุณภาพ ได้ร่วมฉลองในวโรกาสอันเป็นมงคล โดยการสร้างสรรค์ นาฬิการุ่น CEXOP ที่มีคุณสมบัติอันยอดเยี่ยม ตัวเรือนและสายทำจาก Titanium หน้าปัดทำด้วยกระจกคริสตัลแซฟไฟร์ พร้อมเลนส์ขยายเพื่อเพิ่มศักยภาพในการมองเห็นตัวเลขแสดงวันที่ซึ่งสามารถปรับวันที่ได้ง่าย อีกทั้งยังมีระบบพลังงานสำรองนาน 40 ชั่วโมง กันน้ำลึกได้ 50 เมตร 

ตัวเรือนด้านหน้าได้อัญเชิญอักษรพระปรมาภิไธย ภ.ป.ร. ด้านหลังมีตราสัญลักษณ์การจัดงานฉลองสิริราชสมบัติครบ 60 ปี พร้อมสลักอักษรภาษาไทย “เรารักพระเจ้าอยู่หัว” และมีหมายเลขกำกับด้านหลังทุกเรือน ผลิตขึ้นในจำนวนจำกัดเพียง 6,000 เรือน ราคาเรือนละ 19,900 บาท

“SEIKO” หนึ่งในผู้นำด้านการพัฒนานาฬิกาคุณภาพอีกแบรนด์ ก็ได้ร่วมสร้างสรรค์นาฬิกาเทิดพระเกียรติ เนื่องในวโรกาสอันสำคัญเช่นนี้ ด้วยรุ่นพิเศษลิมิเต็ดอิดิชั่น ผลิตจำกัดเพียง 6,000 เรือน ราคาเรือนละ 24,000 บาท การทำงานใช้ระบบกลไกไขลานอัตโนมัติ ตัวเรือนและสายทำจาก Titanium หน้าปัดทำด้วยกระจกคริสตัลแซฟไฟร์ พร้อมอัญเชิญอักษรพระปรมาภิไธย ภ.ป.ร. มาประดิษฐานบนหน้าปัด ฝาหลังโปร่งใสโดดเด่นด้วยตราสัญลักษณ์การจัดงานฉลองสิริราชสมบัติครบ 60 ปี พร้อมสลักอักษรภาษาไทย “เรารักพระเจ้าอยู่หัว” 

เม็ดมะยมสลักหมายเลข 9 พร้อมมีหมายเลขประจำตัวเรือนกำกับบนฝาหลังทุกเรือน และสามารถกันน้ำลึกได้ถึง 100 เมตร บรรจุในกล่องอย่างสวยงามสามารถตอกย้ำมาตรฐานและคุณภาพของ “SEIKO” ได้เป็นอย่างดี ราคาเรือนละ 24,000 บาท

ปัจจุบันนาฬิกา Seiko และ Orient ทั้งสองรุ่นนี้กลายเป็นนาฬิกาที่นักสะสมนาฬิกาจำนวนมากต้องการจะมีไว้ในคอลเลคชั่น นอกจากจะเป็นนาฬิกาที่จัดทำขึ้นด้วยวัตถุประสงค์ที่ดีแล้ว ยังเป็นการแสดงถึงความจงรักภักดีต่อองค์สมเด็จพระปรมินทรมหาภูมิพลอดุลยเดช ผู้ทรงเป็นที่รักเทิดทูนยิ่งของพสกนิกรชาวไทย

นอกเหนือจากนาฬิกาที่ คิง พาวเวอร์ ได้จัดสร้างขึ้นแล้ว ในปีก่อนหน้า Seiko ยังได้รับโอกาสสำคัญอีกครั้ง เมื่อบริษัท ไซโก (ประเทศไทย) จำกัด โดย มร.อากาชิ อารุมิตซึ กรรมการผู้จัดการ และ นายภูริช มหาดำรงค์กุล กรรมการ ขอพระราชทานพระบรมราชานุญาตจัดทำเรือนเวลารุ่นพิเศษเฉลิมฉลอง เนื่องในวโรกาสวันคล้ายวันพระราชสมภพ สมเด็จพระเทพรัตนราชสุดาฯ สยามบรมราชกุมารีครบรอบ 60 พรรษา ในวันที่ 2 เมษายน พ.ศ.2559

ด้วยสำนึกในพระมหากรุณาธิคุณอันล้นเกล้าล้นกระหม่อมขององค์หญิงผู้ทรงคุณูปการ จัดทำเพื่อเป็นการเทิดพระเกียรติสมเด็จพระเทพฯ ที่ได้ทรงบำเพ็ญพระราชกิจจานุกิจนานัปการอันเป็นประโยชน์แก่แผ่นดินและราษฎร และทรงมีพระวิริยะอุตสาหะในการบำเพ็ญพระราชกรณียกิจครอบคลุมเกือบทุกด้าน

สำหรับเรือนเวลารุ่นเฉลิมพระเกียรติ 60 พรรษา สมเด็จพระเทพรัตนราชสุดาฯ สยามบรมราชกุมารีผู้เป็นที่รักยิ่งของพสกนิกรไทยทั่วทั้งแผ่นดินนั้น บ.ไซโก (ประเทศไทย) ได้อันเชิญตราพระสัญลักษณ์เฉลิมพระเกียรติ 60 พรรษา โดยพิมพ์ลายเส้นนูนประทับบนหน้าปัด ประดับบนนาฬิกาข้อมือแบรนด์ SEIKO (ไซโก), ALBA (อัลบา) และเรือนเวลาประดับผนัง SEIKOCLOCKS (ไซโก คล็อกส์) โดยทางบริษัทไซโก (ประเทศไทยจำกัด)จะทูลเกล้าถวายฯ เรือนเวลารุ่นพิเศษ พร้อมมอบรายได้ส่วนหนึ่งจากการจำหน่ายแด่สมเด็จพระเทพรัตนราชสุดาฯ สยามบรมราชกุมารีโดยเสด็จพระราชกุศลตามพระราชอัธยาศัย 

นาฬิกาที่ถูกสร้างขึ้นในวาระอันเป็นมงคลยิ่ง เนื่องในวโรกาสการฉลองสิริราชสมบัติครบ 60 ปี ของในหลวงรัชกาลที่ 9