สมนึก ปีติพีรกุล

สมนึก ปีติพีรกุล

ส่งต่อคอนเนคชั่นจากฉบับที่แล้วมาถึง “คุณสมนึก ปีติพีรกุล” รองกรรมการผู้จัดการ (Deputy Managing Director)บริษัท น่ำเฮงคอนกรีต (1992) จำกัด เขามีหน้าที่ดูแลเกี่ยวกับกระบวนการผลิตคอนกรีต การควบคุมคุณภาพ การบริการจัดส่ง (ขนส่ง)ให้กับทางลูกค้า และบริหารองค์กรในภาพรวม ไปจนถึงดูแลพนักงานในบริษัท

ธุรกิจของน่ำเฮงมีอะไรบ้าง?

บริษัทของเราเปิดมาได้ประมาณสามสิบห้าปีครับ ธุรกิจหลักๆ เราจะเป็นธุรกิจคอนกรีตผสมเสร็จ ก็คือมีวัสดุ พวกหิน ทราย นำมาผสมกับปูน และบริการจัดส่งให้กับพวกหน่วยงานก่อสร้างของลูกค้าครับ ส่วนใหญ่จะเป็น อาคาร สำนักงาน และตึกสูงๆ หน่วยงานราชการ โครงการต่างๆ ส่วนธุรกิจอื่นๆ ของเราก็มีในส่วนของโรงโม่หิน คือเป็นเหมืองหินของเราเอง มีบ่อทราย อีกไลน์หนึ่งคือธุรกิจของขนส่ง เพราะว่าเรามีวัสดุ และผลิตด้วย เรามีหน่วยคอนกรีตผสมเสร็จในกรุงเทพฯ และต่างจังหวัดประมาณ 50 หน่วยนะครับ เป็นลักษณะของโรงงานเหมือนกับที่สำนักงานใหญ่เลยครับ คอนกรีตผสมเสร็จจริงๆ เป็นธุรกิจที่เกี่ยวกับสิ่งแวดล้อมนะ ยกตัวอย่างการผลิตหินเพื่อจะนำมาใช้ก็จะต้องไปขอสัมปทานเพื่อระเบิดหิน หน่วยผลิตต่างๆ ก็จะอยู่ตามพื้นที่นั้นๆ ซึ่งจะมีสำนักงานเขตที่ดูแลเรื่องเกี่ยวกับสิ่งแวดล้อมเข้ามาคอยดูแลอีกทีหนึ่ง

มีผลิตภัณฑ์ปูนซีเมนต์เป็นแบรนด์ของตัวเองหรือเปล่า?

ยังไม่มีครับ ขออธิบายภาพกว้างๆ ก่อน บริษัทในเมืองไทย ผู้ผลิตหลักๆ เลยจะเป็นผู้ผลิตปูนซีเมนต์ ปูนซีเมนต์ก็คือวัสดุหลักของการก่อสร้างนะครับ ก็จะมีของเครือปูนซีเมนต์ไทย, บริษัทนครหลวงคือตรานกอินทรีย์ และก็จะมีของตราดอกบัว, เอเชีย แล้วก็เคทีไอโพลีนนี่คือจะเป็นผู้ผลิตปูนซีเมนต์ ของเราจะซื้อปูนซีเมนต์ตรงนี้มา และก็มาผสมเป็นคอนกรีตอีกทีหนึ่ง ซึ่งพวกผู้ผลิตพวกนี้เขาก็มีหน่วยงานคอนกรีตของเขาเหมือนกัน ในอดีตประมาณช่วงปี 2538 เราก็เคยทำโรงปูน ทำบริษัทปูนซีเมนต์เหมือนกันก็คือของตราดอกบัว เอซีซีเมนต์ แต่เนื่องจากปี 40เศรษฐกิจมันแย่ เกิดวิกฤติต้มยำกุ้ง เราก็เลยต้องขายหุ้นบางส่วนซึ่งเป็นส่วนใหญ่กับทางบริษัทต่างชาติไป อย่างน่ำเฮงน่าจะเรียกได้ว่า บริษัทบิ๊กอินดี้ คือ ไม่มีปูนซีเมนต์เป็นของตัวเอง แต่เรามียอดขายสูงพอๆ กับบริษัทใหญ่ให้ระดับประเทศได้ คือยอดของเราจะอยู่ที่ประมาณอันดับที่4 ของประเทศครับ
 
ภาคธุรกิจงานก่อสร้าง ภาครัฐมีส่วนช่วยมากน้อยแค่ไหน? 

ถ้าเป็นช่วงที่มีเมกะโปรเจ็กต์ พวกโครงการใหญ่ๆ ยกตัวอย่างเช่นถ้ามีนโยบายทำโครงการตัดถนนหรือทำรถไฟฟ้า แต่ถ้าโครงการไม่เกิดขึ้น ยอดขายปูนก็ไม่ได้ โครงการที่จะเกิดขึ้นมาได้ต้องมาจากรัฐบาลแน่นอนครับ ถ้าเกิดขึ้นก็จะส่งผลต่อยอดให้ภาคก่อสร้างอื่นๆ เช่นพวกบ้านจัดสรร คอนโดมีเนียม อพาร์ตเม้นต์ หรือจะเป็นห้างสรรพสินค้า ร้านค้าต่างๆ เขาก็จะสร้างไปอยู่ตามแนวของรถไฟฟ้า ก็เหมือนกับภาครัฐเป็นหัวขบวนรถจักรวิ่งไปก่อน ที่เหลือก็จะค่อยๆ เกิดขึ้นตามมา แต่ช่วงนี้สภาพเศรษฐกิจค่อนข้างจะนิ่ง เพราะว่าโครงการใหม่ยังไม่มา ซึ่งก็คาดหวังว่าปีหน้าน่าจะดีขึ้นครับ 

สภาพเศรษฐกิจมีผลโดยตรงกับธุรกิจ?

มีผลครับ ในช่วงสักสามปีก่อนหน้านี้ ภาคก่อสร้างเป็นช่วงที่ดีมากแต่ช่วงนี้ผมมองว่าเป็นช่วงชะลอตัว ทุกวันนี้คอนโดมีเนียมราคาเกรดกลางถึงล่างจะขายไม่ดี เพราะว่ากำลังซื้อต่ำ ส่วนใหญ่ตอนนี้ตลาดบนหรือคอนโดฯ แพงๆ กลับขายได้ ส่วนหนึ่งคือมีชาวต่างชาติมาลงทุนอยู่ในประเทศไทยเยอะขึ้น เช่น จีน ญี่ปุ่น ฮ่องกง  สิงคโปร์ พวกนี้เขามากว้านซื้อคอนโดฯ ไว้เยอะ ก็เลยจะเห็นว่าแนวทางการก่อสร้างพวกคอนโดฯจะปรับไปสู่แนวรถไฟฟ้าเป็นหลัก ราคาห้องประมาณห้าถึงหกล้านขึ้นแต่เขาก็ขายหมดนะครับ เห็นจากโครงการใหญ่ที่ผมส่งให้หลายๆ โครงการ แต่ถ้าเกิดห้องละล้านกว่าสองล้านกลับขายไม่ดีครับ

หลักการบริหารงาน?

การบริหารงานผมว่าสำคัญที่การบริหารคนครับ ผมจะบอกกับพนักงานเป็นประจำว่าผมเป็นคนตรงไปตรงมานะ คือมีปัญหาหรืออะไรก็แล้วแต่ให้เข้ามาคุยกันตรงๆ ลูกน้องบางคนเหมือนจะไม่เข้าใจ บางคนอาจจะเลี่ยงประเด็น บางคนอาจจะเก็บปัญหาเอาไว้ ซึ่งผมมองดูระยะยาวมันไม่ใช่แนวทาง ทุกคนต้องรู้หน้าที่ตัวเอง ต้องพยายามทำงานเพื่อให้สอดประสานกัน พนักงานในองค์กรไม่ว่าจะเป็นคนตัวเล็กหรือตัวใหญ่ก็แล้วแต่ ผมจะบอกเขาบ่อยๆ ว่านาฬิกาข้างในมีเฟืองคอยทำหน้าที่ของมันไม่ว่าเฟืองตัวเล็กหรือใหญ่ หากตัวไหนหลุดไปตัวหนึ่ง นาฬิกาเดินต่อไม่ได้แน่ อย่าไปมองว่าตำแหน่งตัวเองเล็กหรือว่าตำแหน่งตัวเองใหญ่มองว่าทุกคนมีความจำเป็นกับบริษัท ทุกคนเป็นองค์ประกอบหนึ่งของบริษัทที่ทำให้บริษัทเดินต่อไปได้ 

รู้จักกับคุณบิ๊กได้อย่างไร?

ผมสนิทกับคุณบีมเพื่อนของคุณบิ๊กครับ แล้วคุณบีมเขาแนะนำให้ผมกับคุณบีมเป็นเพื่อนในกลุ่มชอบดื่มไวน์ด้วยกัน เรียกว่าเป็นงานอดิเรกเลยครับ คบกันกับเพื่อนในกลุ่มนี้ประมาณ 6 - 7 ปีแล้วครับ เราจะชิมไวน์แบบละเลียดให้รู้ถึงรสของมัน ว่าเป็นยังไง แต่ละยี่ห้อแต่ละสไตล์แตกต่างกันยังไง ในกลุ่มก็มีอยู่ประมาณเกือบสามสิบคนครับ นัดเจอกันเดือนละครั้งสองครั้ง ก็พูดคุยกันแลกเปลี่ยนความคิดเห็นกันบ้าง 

เป้าหมายและแผนการตลาดในอนาคต?

ตอนนี้บริษัทของเรากำลังทำระบบใหม่อยู่ครับ ตอนนี้ทางบริษัทยังเป็นระบบแบบ Family Business คือระบบในองค์กรค่อนข้างไม่เป็นสากล ซึ่งเราพยายามปรับระบบอยู่ ล่าสุดได้ไปซื้อโปรแกรมที่เป็นระบบจัดการเข้ามาครับ กำลังจะเริ่มใช้ ซึ่งค่อนข้างจะยุ่งยากนิดนึงในช่วงแรก ถ้าเซ็ตระบบได้ภายในสิ้นปีนี้ ก็วางแผนไว้ว่าประมาณไตรมาสที่สี่ของปีหน้าเราจะเอาบริษัทเข้าตลาดหุ้น กลายเป็นบริษัทมหาชนครับ 

Know Him

•    การศึกษา / ปริญญาตรี ด้านวิศวกรรมโยธา มหาวิทยาลัยเทคโนโลยีพระจอมเกล้าลาดกระบัง 
•    ปริญญาโท ด้านบริหารการจัดการ The University of Alabama ประเทศสหรัฐอเมริกา
•    ปริญญาโท ด้านกฎหมายธุรกิจ จุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย 

ดูแลเกี่ยวกับกระบวนการผลิตคอนกรีต การควบคุมคุณภาพ การบริการจัดส่ง