Modern Op Art 2014

Modern Op Art 2014

เช้าวันหนึ่ง ในขณะที่ผมง่วนอยู่กับงานเอกสารบนโต๊ะ เสียงโทรศัพท์จากคุณปูเปี้ยวบรรณาธิการคนสวยก็ดังขึ้น พร้อมคำถามกึ่งตั้งโจทย์ที่ว่า “ช่วงนี้มีงานออกแบบที่เป็นแนว Black & White บ้างมั้ยคะ” หึหึหึ ถ้าจะตอบว่าไม่มี ก็จะได้คำพูดขอร้องกึ่งบังคับว่า “ลองช่วยหาดูให้หน่อยได้มั้ยคะ” จะตอบอย่างไรก็หนีไม่พ้นอยู่แล้วครับ ก็พูดตอบเขาไปซะเลยว่า “ได้เลย จัดไป ..!!!”

งานออกแบบที่ผมได้รับโจทย์และจะนำมาบรรยายให้ท่านผู้อ่านนี้มีชื่อว่า Op Art ซึ่งผมได้เคยนำมาเขียนให้ท่านผู้อ่านเมื่อนานมาแล้ว Op Art นั้นคืองานออกแบบในทางศิลปะลวงตาและเน้นการเห็นด้วยตา (Perceptual) โดยมีความเชื่อว่าการรับรู้ทางสายตามีความสำคัญกว่า โดยศิลปะ Op Art เป็นความสัมพันธ์ระหว่างความลวงตาและพื้นผิวของภาพ, ระหว่างความเข้าใจและการมองเห็นของแต่ละบุคคล โดยงาน Op Art ส่วนใหญ่เป็นสีขาวดำ เมื่อมองภาพจะมีความรู้สึกว่ามีความเคลื่อนไหวในภาพ, มีภาพซ่อนอยู่ในภาพ, มีแสงวาบหรือความไหว, เป็นลายหรือมีความโก่งหรือบิดเบี้ยว นั่นเอง 

Modern Op Art 2014
Modern Op Art 2014

ศิลปะ Op Art นั้น มีต่อเนื่องมาหลายยุคหลายสมัย ในยุคแรกๆ นั้น ก็อย่างที่ผมได้อธิบายไปแล้วว่าเป็นงานศิลปะ ที่เกี่ยวข้องกับภาพลวงตา ซึ่งจะเน้นหนักไปทางภาพสีขาวดำ แต่ในสมัยต่อๆ มานั้น ศิลปะ Op Art ได้ถูกนำมาจับเข้ากับ Trend หลายๆ กระแส ไม่ว่าจะเป็นงานการสถาปัตยกรรม งานตกแต่งนิทรรศการ งานออกแบบเฟอร์นิเจอร์ หรือแฟชั่น ซึ่งเมื่อผ่านมาหลายยุคหลายสมัยแล้ว สีที่ถูกนำมาใช้ในรูปแบบของ Op Art ก็ไม่ได้ถูกจำกัดอยู่แต่เพียงสีขาวดำอีกต่อไป จนหลายๆ คนลืมสังเกตไปว่านี่คืองาน Op Art เพราะยังคุ้นชินกับภาพขาวดำของงานที่ออกมานั่นเอง

Modern Op Art 2014
Modern Op Art 2014

นักออกแบบศิลปะ Op Art ที่มีชื่อเสียงก็จะมี Victor Vasarely และ Bridget Riley ทางด้านความอาวุโส Victor นั้นจะมีมากกว่าหลายสิบปี แต่ในเรื่องของผลงานนั้น ถือได้ว่าไม่เป็นรองกันทั้งคู่ ในสมัยนั้นผลงานของทั้งคู่ต่างเลื่องลือ ผู้รับชมต่างตื่นตาตื่นใจกับงานศิลปะที่ได้เห็น เกิดความนิยมในวงกว้าง โดยเฉพาะในช่วงทศวรรษที่ 60 แต่แล้วเวลาและเทรนด์ความนิยมที่เปลี่ยนไป ก็ได้พรากงานศิลปะ Op Art ไปจากวงการศิลปะช่วงใหญ่ๆ เลยทีเดียว

Modern Op Art 2014
Modern Op Art 2014

ช่วงหลายสิบปีที่หายไปของศิลปะ Op Art นั้น ก็ไม่ได้หายไปจากโลกเสียโดยเด็ดขาด แต่ได้ไปปรากฏบนหน้างานหนังสือวิทยาศาสตร์ กลายสภาพเป็นบทเรียนความรู้ในเรื่องภาพหลากมิติ, ภาพเชิงซ้อน เส้นลวงสายตา ให้เด็กๆ ในระดับประถมและมัธยมได้ศึกษากัน นับเป็นช่วงขาลงของศิลปะ Op Art อย่างแท้จริง แต่มีเรื่องเล่าที่คุณพ่อผมเคยเล่าให้ฟังว่า กระแสศิลปะนั้นวนเวียนอยู่ตลอด เมื่อเกิดขึ้นเป็นที่นิยม ก็มีเวลาหมดไป และมีสิ่งใหม่มาแทนที่อยู่เรื่อยๆ โดยยกตัวอย่างเทรนด์ของรถ Benz ให้ฟังอย่างน่าสนใจว่ารถ Benz มีทรงไฟหน้ารถที่ต่างกันอยู่ 3 แบบ คือตาเหลี่ยม, ตากลม และตาตั๊กแตน ทั้งสามแบบจะวนอยู่เกิดดับอยู่เรื่อยๆ เปลี่ยนแค่รูปโฉมที่เปลี่ยนตามกระแสนิยม โดยไม่ทิ้งคอนเส็ปต์หน้าไฟทั้งสามแบบนี้ (คุณพ่อผมพูดเมื่อ 20 ปีที่แล้วนะครับ) เมื่อหมดช่วงเวลาหนึ่งงานที่เคยนิยมก็จะถูกโละทิ้งไป และจะกลับมาเมื่อเวลาที่เหมาะสม 

Modern Op Art 2014
Modern Op Art 2014

ศิลปะ Op Art ก็ดุจเดียวกันเมื่อหมดความนิยมในช่วงเวลาหนึ่ง สุดท้ายก็จะกลับมาเป็นที่นิยมในอีกสมัยหนึ่งได้เช่นกัน โดยในช่วงปี 2000 ถึงปัจจุบันที่ผ่านมา Op Art ได้กลับมาเป็นที่นิยมอีกครั้งในรูปแบบที่ต่างกัน ไม่ว่าจะเป็นในรูปแบบของแฟชั่นเสื้อผ้า หรือในรูปแบบสถาปัตยกรรม หรือ Furniture ต่างๆ โดยเฉพาะอย่างยิ่งในช่วงปี 2014 ที่ผ่านมา ได้มีงาน Op Art รูปแบบต่างๆ ออกมาให้ได้รับชมอย่างมากมายไม่ขาดสายและหากท่านผู้อ่านท่านใดสนใจศิลปะก็ไม่เป็นการยากที่จะค้นหา โดยเฉพาะทางด้าน Fashion ที่มีมากเกินจะบรรยาย ... 

ขอบอกเลยว่า Fashion Op Art นั้น ตกเทรนด์ได้ยากจริงๆ  

 

ช่วงนี้มีงานออกแบบที่เป็นแนว Black & White บ้างมั้ยคะ