คุยอย่างไรให้สนุก

คุยอย่างไรให้สนุก

ของดี ก็สนุกได้ อย่าได้หวั่นค่ะ เรามีอุปกรณ์สุดเจ๋งอยู่กับตัว ร่างกาย เสียง อารมณ์ความรู้สึก

มีวิธีตั้งมากมายที่ทำให้เรื่องของเราสนุก นี่ต่างหากที่ทำให้เราแตกต่างจากคนอื่น คนที่เก่งจริง คือคนที่ทำเรื่องยากให้เข้าใจง่าย การพูดของเราจะมีประสิทธิภาพเมื่อคนฟังเข้าใจจดจำได้ การพูดของเราจะเกิดประโยชน์เปลี่ยนชีวิตผู้คน เมื่อเขานำไปปฏิบัติตามได้

ทำอย่างไรล่ะ ทำอย่างไร 

1. เล่าให้เป็นเรื่อง : ใครๆ ก็ชอบฟังเรื่องเล่า

ตอนเด็กๆ เราชอบฟังนิทาน เราได้ฟังนิทานเยอะมาก ทั้งก่อนนอนกลางวัน นอนตอนกลางคืน ตอนงานเทศกาลต่างๆ และเราได้ข้อคิดจาก “นิทานเรื่องนี้สอนให้รู้ว่า ...” นอกจากนี้ มีงานวิจัยว่า นิทานช่วยเสริมพัฒนาการ ทำให้สมองสร้างเส้นใยมากขึ้นอย่างรวดเร็ว (ตอนเด็กๆ นะคะ อายุตอนนี้อาจจะ ... เอ่อ ... ไม่ทันล่ะ)

นิทานบางเรื่องเราฟังตั้งแต่เด็ก จนตอนนี้เรายังจำได้ไม่ลืม นิทานบางเรื่องเราชอบฟังซ้ำๆ ไม่รู้เบื่อ แหม ... อยากให้คนรู้สึกอย่างนี้กับเรื่องที่เราพูดบ้างใช่ไหมล่ะ เราไม่ต้องเล่าจนเป็นนิทานค่ะ แต่เล่าให้เป็นเรื่อง มีตัวละคร จะ Based on the true story หรือจะเป็นเรื่องแต่งก็ตามสะดวก ส่วนน้ำเสียงก็ให้มีขึ้นลงดูน่าฟัง แต่ไม่ถึงกับเล่านิทานหลอกเด็กนะคะ

2. เล่าให้เป็นข้อๆ : สมองของเราจะจดจำ เข้าใจได้ง่าย เมื่อรับฟังเป็นข้อๆ มีหลักให้จำ มีประเด็นให้จับ ง่ายกับชีวิตและการจัดเรียง สบายหู สบายสมอง เลิศเลย

3. ใช้คำพูดเปรียบเทียบเปรียบเปรยให้เห็นภาพ : หากหัวข้อการพูดของเราเป็นเรื่องยาก ข้อมูลเยอะ หรือเป็นนามธรรม มีวิธีทำเรื่องยากให้เป็นเรื่องง่าย คือ การใช้คำพูดเปรียบเทียบเปรียบเปรย เป็นวิธีทำให้เห็นภาพอีกวิธีหนึ่ง เช่น การเปรียบเทียบกราฟหุ้นเป็นแท่งเทียน เป็นคนห้อยหัว (Hang man) ก็ทำให้คนเข้าใจยากอย่างครูโอ๋ พอจะเข้าใจขึ้นมาบ้าง

4. ยกตัวอย่างประกอบให้เพลิดเพลิน : บางเรื่องแม้เราจะเล่าให้ง่ายแล้ว แต่ก็คนฟังก็อาจจะเข้าใจไม่ตรงกับเราก็ได้ การยกตัวอย่างประกอบ จะทำให้เข้าใจได้อย่างชัดเจน หรือที่เข้าใจคลาดเคลื่อนกัน ก็ได้สอบถามให้หายสงสัย มีเรื่องให้คุยเพิ่มกันได้อีก

5. มีอารมณ์ขัน : คนที่มีอารมณ์ขัน จะเป็นคนที่มีเสน่ห์แต่ต้องไม่ใช่ขำขันเองอยู่คนเดียว อารมณ์ขันในที่นี้หมายถึง ความผ่อนคลาย ไม่จริงจังเกินไป เห็นเรื่องต่างๆ ในมุมสนุกสนานบ้าง สบายๆ ทุกอย่างจะดูง่ายขึ้น ความสัมพันธ์จะไม่ตึงเครียดเกินไป คู่สนทนาจะรู้สึกกล้าแสดงความคิดเห็น และรู้สึกเป็นมิตร

การสื่อสารที่ดี ไหลลื่น ถ้อยทีถ้อยรับฟัง เป็นส่วนสัมพันธ์ในการสร้างความสัมพันธ์ค่ะ ใครที่ยังไม่มีแฟน ก็อาจจะมีแฟนล่ะคราวนี้ ใครที่มักถูกข้อหา “พูดไม่ค่อยรู้เรื่อง” ลองนำวิธีที่ครูโอ๋แนะนำไปใช้ดูนะคะ จะพูดได้ดีกว่าเดิม นอกจากจะมีแฟน ความสัมพันธ์ดีแล้ว อาจจะได้เลื่อนตำแหน่ง การงานดีด้วยนะคะ 

คุยอย่างไรให้สนุก
คุยอย่างไรให้สนุก

Know Her

ครูโอ๋ เบญญาภา  บุญพรรคนาวิก

Acting Coach/Speech Specialist กับประสบการณ์ในการสอนกว่า 20 ปี ผู้แกะปมชีวิตและสร้างทักษะ เทคนิคการแสดงออกทั้งเวทีการแสดง และชีวิตจริงให้กับเหล่าไอดอล ศิลปิน นักร้อง นักแสดงมืออาชีพมาแล้วมากมาย 

ติดตามพูดคุยกับครูโอ๋ต่อได้ทาง Facebook Fanpage: KruOh Charming on Stage

 

ทำอย่างไรดีนะ “สาระเรามีเพียบ แต่พูดแล้วเงียบนะจ๊ะ” แป่ว !!!!