วยา เปรมธนาโชติ

วยา เปรมธนาโชติ

“อวนไม่สนใจนะคะว่าใครจะวัดการทำงานของใครที่ตรงไหน แต่สำหรับอวน ถ้าในขณะที่ทำงานนั้นๆ มันยังมีความสุขอยู่ นั่นแหละคือความสำเร็จ” คุณวยา หรือคุณอวน สาวสังคมที่จากสายตาคนภายนอกนั้น มักจับจ้องไปที่บุคลิกการแสดงออก มากกว่าจะมองเห็นในสิ่งที่เธอทำ

 

หลังจากเรียนจบปริญญาตรี เธอมองหางานที่ยังคงไว้ซึ่งความเป็นตัวตนของเธอ ด้วยความที่ไม่ต้องการทำงานในรูปแบบบริษัทที่เหมือนใคร ประกอบกับการที่เธอมีไลฟ์สไตล์ที่ชัดเจน แนวค็อนเส็ปต์ที่จะเกิดร้าน Tease Gallery จึงเกิดขึ้น

 

“หลังจากเรียนปริญญาตรีจบ อวนอยากทำงานนะ แต่ไม่ชอบที่จะมีชีวิตการทำงานในออฟฟิศ ก็เลยคิดว่าจะทำอะไรดี ช่วงว่างๆ ก็จะไปบ้านเพื่อนๆ พี่ๆ บ้าง ในเมื่ออวนเป็นคนไม่ดื่ม ก็จะทำหน้าที่คอยเปิดเพลงให้เขาฟัง ซึ่งทุกคนก็บอกว่าชอบมาก เพราะอวนมีสไตล์เพลงเป็นของตัวเอง เวลามีปาร์ตี้อวนก็จะเป็นฝ่ายเอ็นเตอร์เทนเสมอ

 

“สุดท้ายก็เลยคิดว่าน่าจะทำร้านที่มีค็อนเส็ปต์แบบอวนนี่แหละ ไม่เหมือนใคร เปิดเพลงที่ไม่สามารถหาฟังได้จากที่ไหน บรรยากาศดีๆ อาหารดีๆ ชอบงานศิลปะ และอยากมีพื้นที่ให้คนที่ชอบอะไรเหมือนๆ กันได้มาจอยกัน โชคดีได้ทำเลที่นี่ซึ่งดีมากเลย ภาพออกมาเป็นแบบที่คิดเอาไว้เลย มีเฟรมให้มานั่งวาดรูปกันตามสบาย แต่ด้วยมันยังคงเป็นธุรกิจ จึงลดส่วนอาร์ตตรงนั้น แล้วเพิ่มเป็นบาร์ไวน์เข้ามาแทน ซึ่งผลตอบรับก็โอเคนะคะ”

 

ในช่วงที่ทำร้าน ด้วยความที่เธอไม่เคยมีประสบการณ์ในการทำงาน ปัญหาต่างๆ จึงเริ่มเด่นชัดขึ้น จนครั้งหนึ่งเธอถึงกับท้อ แต่เมื่อใช้เวลาค่อยๆ เรียนรู้ เธอจึงสามารถผ่านมันไปได้ และตกผลึกทางความคิดได้ว่า

 

“เวลาเราถอดใจกับอะไรก็แล้วแต่ มันไม่ใช่การยอมแพ้กับปัญหา แต่เป็นเพราะเรารู้สึกว่านี่มันไม่ใช่ตัวเราหรือเปล่า ถ้ามันไม่ใช่ก็ถอยออกมาดีกว่า การทำงานในแนวคิดอวนมันก็เหมือนกับแฟน ถ้าไม่ใช่ก็ปล่อยเขาไปเถอะ (หัวเราะ)”

 

เมื่อได้ลองทำงาน และใช้เวลาที่เหลือไปกับการเรียนปริญญาโทจนสำเร็จ เธอจึงคิดที่จะทำอะไรใหม่ๆ เพื่อเป็นการพัฒนาตนเอง เวลาในตอนนั้นสำหรับเธอคือต้นทุนแรกที่มีและพร้อมจะลงไอเดียของตัวเองอย่างเต็มที่ การสร้างสรรค์รายการดีๆ ที่สร้างกระแสให้ผู้ชมทางทีวี หรือแม้กระทั่งทางออนไลน์อย่าง Youtube จึงเกิดขึ้น

 

“ทางคุณกิ๊ก อณิศ โอสถานุเคราะห์ กำลังทำช่อง Travel Channel ของ True visions ก็เลยลองชวนมาทำรายการ แล้วหลายๆ คนก็ให้ความมั่นใจว่าเราน่าจะทำได้ เพราะบุคลิกเราเป็นคนสนุกสนาน ร่าเริง แต่เพราะยังไม่มีประสบการณ์การทำงานด้านนี้มาก่อน เลยปรึกษาพี่ชายคนหนึ่ง เขาก็บอกว่าน่าจะทำรายการท่องเที่ยวที่เป็นในสไตล์ของอวน แล้วก็หาแขกรับเชิญมาสักคนหนึ่ง เหมือนพากันไปเที่ยวเพราะเวลาอวนอยู่กับเพื่อนผู้หญิง มันดูสนุกสนานตามประสาผู้หญิง

 

“จากนั้นก็เลยเริ่มคิดค็อนเส็ปต์ และวางกระบวนการผลิตรายการเอง ใช้เวลาศึกษาข้อมูลนานเหมือนกันนะคะ แต่โชคดีที่มีหลายคนช่วยๆ กันประคับประคองในตอนแรกๆ นั่นเลยเป็นที่มาของรายการชื่อ Girl’s friend”

 

จากเทปแรกก็เรียกเสียงตอบรับได้ดีจนเธอมีกำลังใจที่จะลุยงานต่อไปให้เกิดมาตรฐานของตนเองอีกครั้งและอีกครั้ง เธอบอกว่าการทำงานของเธอเหมือนการไปเที่ยวกับเพื่อนมากกว่า การที่ให้มีค็อนเส็ปต์ที่ชัดเจน และใช้แขกรับเชิญเป็นผู้หญิงในการตอบโจทย์ มันจึงกลายเป็นจุดเด่นให้คนหันมาดูรายการของเธอ ซึ่งเธอได้บอกว่า ‘ไม่เหมือนใคร’

 

“เวลาอวนทำอะไร เริ่มแรกจะนึกถึงค็อนเส็ปต์เสมอ เพราะถ้าไม่มีค็อนเส็ปต์มันก็จบ จบในที่นี้ไม่ได้หมายถึงเจ๊งนะ มันอาจไปได้ดีก็ได้ แต่ในแง่ของความรู้สึก ความเป็นตัวตนเรามันหายไป ทำไปมันก็เท่านั้น อย่างรายการที่ทำแม้จะเป็นรายการท่องเที่ยว แต่การดำเนินรายการมันทำให้ดูแตกต่าง และไม่ได้ยัดเยียด ทุกอย่างจะดำเนินไปอย่างธรรมชาติ รายการเราไม่มีสคริปต์ มันเป็นไปเองหมดเลย เพราะเรารู้สึกว่าถ้ารายการเรามีสคริปต์ มันจะไม่สด ซึ่งมันก็ออกมาโอเค และเสียงตอบรับก็ดีมาก

 

“ตอนแรกที่เข้ามาทำ มันมาพร้อมกับความกลัวนะ เพราะความที่เป็นครั้งแรก อะไรมันก็ดูจะไม่ลงตัวไปหมด ตอนนั้นถ่ายคุณแนนนี่ (เกอร์ลี่ เบอร์รี่) ที่หัวหิน อวนเกร็งมาก เอากระเป๋าไปสิบกว่าใบเลย เพราะไม่รู้ว่าอะไรที่จะโอเคไง จนต้องใช้รถคันหนึ่งสำหรับมาขนกระเป๋า ตลกมาก แต่ด้วยการทำงานมันก็เกิดการเรียนรู้ ทุกวันนี้จึงสามารถจัดการกับปัญหาอะไรที่จะเกิดขึ้นได้ด้วยตัวเองมากขึ้น

 

“การรู้จักงานที่เราทำพอๆ กับรู้จักตัวเองมันสำคัญมากนะ เพราะมันหมายความว่าถ้ามันประสบความสำเร็จในระดับไหน นั่นคือเราโตขึ้นไปในระดับนั้นแล้ว จากตอนแรกมองแค่ว่าจะทำรายการอะไร มาหาว่าค็อนเส็ปต์ควรเป็นแบบไหน จนถึงทุกวันนี้เรามีการพัฒนาไปในหลายทิศทางมากขึ้นในรูปแบบของรายการว่าควรจะมีอะไรใหม่ๆ ให้กับคนดู โจทย์สำคัญคืออวนอยากรู้หรืออยากทำอะไร แล้วมันจะมีประโยชน์ต่อคนดูไหม”

 

ทุกครั้งที่ถามถึงงานของเธอ ก็มักจะมีรอยยิ้มที่มาพร้อมกับคำตอบเสมอ นั่นก็เพราะเธอใช้ความสุขเป็นองค์ประกอบของงานที่ทำ เคยมีคนบอกเธอว่า ‘ถ้าชอบอะไรแล้วเอามาเป็นงาน เราจะเลิกชอบมันทันที’ เธอจึงไม่เคยมองว่าสิ่งที่ทำอยู่มันคืองาน ความสุขเหล่านั้นคือสิ่งที่เธอได้ไว้เป็นวัตถุดิบในการเติมพลังชีวิตให้กับตนเองและเผื่อแผ่ไปยังคนรอบข้าง

 

“นั่นคือสิ่งที่อวนได้เมื่อเวลาผ่านไป ได้ผ่านปัญหา อุปสรรคเยอะนะ เพราะอย่างการทำร้านมันมีปัจจัยมากมาย แต่ก็มองให้มันเป็นเรื่องธรรมชาติ เพราะการทำงานคือการแก้ปัญหาจริงๆ ค่ะ”

 

Know Her

ด้วยความชอบในงานนิเทศศาสตร์ ทำให้เธอมุ่งความสนใจมาทางด้านนี้จนเรียนจบปริญญาตรี ด้านสื่อสารการแสดง และปริญญาโทด้านประชาสัมพันธ์ จากจุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย

นอกจากงานรายการโทรทัศน์และเปิดร้าน Tease Gallery แล้ว เธอยังมีผลงานการกำกับหนังสั้นของตนเองอีกด้วย พอเริ่มลงตัว ตอนนี้เธอมีแพลนที่จะเพิ่มรายการใหม่ขึ้นมาอีกหนึ่งรายการ และจะผันตัวเองมาเป็นคนเบื้องหลังเต็มตัวแน่นอน

หลายคนมักจะมองไปที่เป้าหมายและพยายามไขว่คว้าให้ได้