อาสาพาไปหลง(รัก) Ready for Take off "อคิร วงษ์เซ็ง"

อาสาพาไปหลง(รัก) Ready for Take off "อคิร วงษ์เซ็ง"

   “อาสา พาไปหลง” เป็นรายการท่องเที่ยวที่มีผู้ติดตามทางช่องทางออนไลน์อย่าง Youtube มากกว่า 6 แสนคน ส่วนใน Facebook มีผู้ติดตาม 1.9 ล้านคน โดยมีคุณ ว่านไฉ อคิร วงษ์เซ็ง เป็นพิธีกรและเจ้าของรายการ ซึ่ง “อาสาพาไปหลง” มีความต่างจากรายการท่องเที่ยวทั่วไปตรงที่ ดูสนุกสนาน มีความสั้นกระชับ พร้อมกับมีเสียยงพากย์อันเป็นเอกลักษณ์ และที่สำคัญมีเสียงเพลงประกอบที่ไพเราะอีกด้วย

   ย้อนกลับถึงเรื่องราวชีวิตของคุณว่านไฉ ก่อนที่จะมาโด่งดังกับรายการ “อาสาพาไปหลง”ความจริงเขาคือคนที่อยู่กับวงการเพลงไทยมาโดยตลอด เขาคือหนึ่งใน 12 นักล่าฝันตัวจริง True AF5 เป็นนักแต่งเพลง โปรดิวเซอร์ พิธีกร ฯลฯ เรียกได้ว่าทำงานเบื้องหลังมาอย่างโชกโชน ก่อนที่จะมาเป็นที่รู้จักในฐานะผู้จัดทำรายการท่องเที่ยวทางสื่อออนไลน์ ที่บุกไปทุกสารทิศทั้งไทยและต่างประเทศ

   “ผมทำรายการมาหลายปี ไปมาแล้วในหลายประเทศ หรือแทบจะทุกพื้นที่ของประเทศไทย จนบางทีอาจรู้สึกว่าภูมิประเทศหรือว่าสถานที่ท่องเที่ยว มันอาจจะแปลกใหม่น้อยลงหรืออาจจะตื่นตาตื่นใจน้อยลง แต่สิ่งที่ไม่เคยเปลี่ยนไปคือเรื่องของการได้ไปเจอผู้คน คือความน่ารักของคนเนี่ย มันมีอะไรให้ตื่นเต้นได้เสมอ เพราะแต่ละชุมชนหรือแต่ละพื้นที่จะมีวัฒนธรรมมีรอยยิ้ม และเรื่องราวที่ต่างกันออกไป”

เบื้องหลังชีวิต

   สิ่งที่เขากำลังทำนอกจากจะสร้างรายได้ให้กับตัวเองแล้ว แต่ยังสร้างความสุขความบันเทิงให้กับผู้ติดตามชมมาโดยตลอด โดยจุดเริ่มต้นในชีวิตของเขานั้นมาจากครอบครัวชาวจีนแต้จิ๋ว ซึ่งมีคุณแม่เป็นช่างเสริมสวยเปิดร้านเล็ก ๆ กับอาม่าเปิดร้านขายของชำในหมู่บ้าน ด้วยความที่ชอบดนตรีเป็นอย่างมาก หลังเรียนจบชั้นมัธยมต้นจากโรงเรียนอัสสัมชัญธนบุรี จึงเข้าเรียนในระดับมัธยมปลายที่วิทยาลัยดุริยางคศิลป์ มหาวิทยาลัยมหิดล และในระดับปริญญาตรีที่วิทยาลัยการดนตรี มหาวิทยาลัยรังสิต

   “ผมรู้ว่าตัวเองชอบอะไรตั้งแต่เด็ก อารมณ์เหมือนหนังเรื่อง “Season Change” ในช่วงเรียนจบมัธยมก็อยากเรียนดนตรีจริงจัง อยากเป็นนักดนตรี คิดว่าวันหนึ่งจะเป็น โปรดิวเซอร์ ทำงานเกี่ยวกับเพลง สาเหตุที่ผมชอบดนตรี เพราะรู้สึกว่าตัวเองทำได้ดี แล้วรู้สึกว่าตัวเองเป็นอิสระในการถ่ายทอดเรื่องราว ได้เขียนอะไรออกมาสักอย่างหนึ่ง จึงอยากเป็นนักแต่งเพลง ในยุคนั้นถ้าเป็นคนไทยผมได้รับอิทธิพลมาจากพี่บอย โกสิยพงษ์ ค่อนข้างเยอะ แต่เด็กยุคใหม่ตอนนี้อาจไม่ค่อยรู้จักก็ตาม แต่ว่าผมก็ขอบคุณทุกแรงบันดาลใจที่ทำให้ผมอยากแต่งเพลงขึ้นมา

   “แล้ววันหนึ่งจับพลัดจับผลูได้ไปเข้าบ้าน AF (True Acedamy Fantasia) ซีซั่นที่ 5 ผมไม่ได้มีแฟนคลับเยอะเหมือนคนอื่น เพราะเราถูกคัดออกเป็นคนแรก (หัวเราะ) ช่วงนั้นอายุยังไม่มากก็รู้สึกว่าผิดหวัง แต่ต้องขอบคุณวันนั้นที่แม้ไม่ได้โด่งดัง มันเหมือนเป็นแรงผลักดันให้เราอยากทำงาน จนได้เข้ามาในวงการบันเทิงเรียกว่าขาเดียวนะ แล้วก็ได้เซ็นสัญญาอยู่ในบริษัทค่ายเพลง

   “ผมได้ลองคุยกับผู้ใหญ่ในค่ายว่า ผมสามารถทำเพลงได้นะ แล้วก็ทำสื่อบันเทิง ดูแลการทำงานเบื้องหลัง ได้ร่วมงานกับผู้คนมากมายในวงการ พบนักดนตรีที่มีชื่อเสียง อย่างคุณ จั๊ก ชวิน จิตรสมบูรณ์ ก็โตมาด้วยกันกับว่าน ธนกฤต มีการทำเพลงร่วมกัน เริ่มได้ดูแลศิลปิน ดูแลโปรเจกต์ที่ใหญ่ขึ้น มีโอกาสเพลงประกอบโฆษณา ทำเพลงประกอบละคร จนมีโอกาสได้ร่วมงานกับช่อง 3 คือละคร The sixth sense สื่อรักสัมผัสหัวใจ จึงได้พบกับน้องอาย กมลเนตร จากวันนั้นถึงตอนนี้ก็ผ่านมา 10 กว่าปีแล้วครับ

มากกว่ารายการท่องเที่ยว

   “ถ้าบัญญัติอาชีพผมตอนนี้ทำหลายอย่าง อาจเรียกว่าเป็นคนรับจ้างทั่วไป  แต่เรื่องที่ผมชอบมากและทำอยู่ตอนนี้ คือเรื่องของรายการท่องเที่ยว ผมอยากเป็นแรงบันดาลใจให้กับคนที่ชอบท่องเที่ยว อยากเป็นนิตยสารเล่มโปรดแบบสมัยก่อนที่มีการท่องเที่ยวเยอะ ๆ สำหรับคนอยากไปเที่ยวที่ไหน แต่ไปไม่ได้ก็เปิดดูรายการ “อาสาพาไปหลง” ได้เลย คุณจะได้รับแรงบันดาลใจในการไปเที่ยวตามสถานที่นั้น ๆ

   “และอีกเหตุผลหนึ่งคือ ผมอยากเป็นกระบอกเสียงให้กับการท่องเที่ยวในภูมิภาคต่าง ๆ ของประเทศ ไม่ว่าจะเป็นพื้นที่เล็ก ๆ คือได้ความภูมิใจเวลาที่เราไปถ่ายรายการ ไปตีแผ่ทำให้สถานที่ที่ไม่เคยมีใครรู้จักให้มีชื่อเสียง แล้วคนในชุมชนมีรายได้ ยิ่งคนเข้ามาเที่ยวเยอะ ชาวบ้านก็มีรายได้มากขึ้น ที่สำคัญนักท่องเที่ยวได้ไปเที่ยวในสถานที่แปลกใหม่ ได้รอยยิ้มกลับไป หรือแม้แต่คำขอบคุณจากชาวบ้านที่เราได้ไปถ่ายทำรายการ มีผลให้พวกเขามีรายได้ ชาวบ้านมีความสุขมากยิ่งขึ้น มันจึงเป็นแรงบันดาลใจชุดใหม่ ที่เข้ามาในหัวใจของผมตอนอายุ 33 ปี

   “การได้เข้าไปถ่ายรายการในเมืองรอง ผมได้พบกับหมู่บ้านต่าง ๆ ที่อาจไม่ใช่สถานที่ท่องเที่ยวนัก เพราะมันเป็นเรื่องของชุมชนชาติพันธุ์อย่าง หมู่บ้านปกาเกอะญอ ได้สัมผัสในเรื่องที่ไม่คุ้นชินเท่าไหร่ อย่างเรื่องการกินอาหารป่า หรือแม้แต่เรื่องวิถีชุมชนในการทำแอลกอฮอล์หรือต้มเหล้า ตรงนี้มันเป็นเรื่องของประเพณี คือไม่ได้ทำเพื่อจำหน่ายในเชิงพาณิชย์ การต้มเหล้าของเขาต้องใช้หญิงสาวบริสุทธิ์ในการปั้นแป้งเหล้าจะทำให้รสชาติดี ก็เป็นความเชื่ออีกแบบหนึ่ง แต่ว่าทางวิทยาศาสตร์ มือของหญิงสาวที่เขาอาจจะมี Chemical บางอย่างที่ทำให้เหล้าอร่อย ผมก็ได้ลองชิมจึงรู้จักภูมิปัญญาชาวบ้านมากยิ่งขึ้นครับ

   “ส่วนภาคใต้ผมลงไปจังหวัดยะลา ปัตตานี นราธิวาส หลายคนรู้สึกว่ามันดูไกลตัว บางทีอาจถูกปลูกฝังมาด้วยเรื่องราวต่าง ๆ ว่า 3 จังหวัดชายแดนภาคใต้น่ากลัว แต่ว่าพอได้สัมผัสจริง ๆ เป็นความรู้สึกว่าน่ารักที่สุดแห่งหนึ่งของไทยเลย คือมีภูมิประเทศสวยงาม ธรรมชาติป่าเขา ทะเล มันสวยเหมือนเราไปต่างประเทศ และผู้คนคือน่ารักมาก อาหารการกินทุกอย่างอร่อย การได้ไป 3 จังหวัดชายแดนภาคใต้ คุณจะเจอรอยยิ้มใหม่สำหรับหัวใจครับ

   “อีกหนึ่งจังหวัดที่ผมประทับใจ คือจังหวัดระนอง เป็นจังหวัดที่น่าเที่ยวแห่งหนึ่งของประเทศไทย ผมไปพบคุณเบส อดีตสถาปนิกที่ผันตัวมาเป็นเจ้าของ บ้านไร่ไออรุณ ฟาร์มสเตย์ ในจังหวัดระนอง เขาเคยทำงานอยู่กรุงเทพ แล้ววันหนึ่งรู้สึกว่าอยากจะกลับมาพัฒนาบ้านเกิดตัวเอง ก็ทำที่พักท่ามกลางธรรมชาติ แล้วก็ให้คนในชุมชนเข้ามามีส่วนร่วมมีร้านกาแฟ ผักผลไม้จากชาวบ้านมาขายทุกวันเสาร์-อาทิตย์ ผมว่ามันน่ารักมาก ๆ ใครที่ไม่เคยไปอยากให้ลองไปเที่ยวครับ

   “ผมคิดว่าเสน่ห์ของเมืองรองอยู่ตรงที่ ยังไม่มีคนเข้าไปเที่ยวเยอะจนเกิดอุตสาหกรรมการท่องเที่ยว แล้วชาวบ้านก็ทำมาหากินด้วยภูมิปัญญา วิถีชีวิตประจำวันของเขาจริง ๆ แม้ไม่ได้สะดวกไม่ได้สบายเท่ากับเมืองท่องเที่ยวหลัก แต่ว่ามีเสน่ห์ที่แตกต่างกันออกไป”

เตรียมตัวออกเดินทาง

   “ข้อดีของการเที่ยวคือทำให้เราหลุดออกจากกรอบเดิม ๆ ซึ่งผมเชื่อว่าหลายคนที่ดูรายการผม อาจทำงานออฟฟิศแล้วรู้สึกว่าชีวิตมันเริ่มจำเจ หรืออาจไม่ต้องทำงานออฟฟิศ แต่ถ้าเราเริ่มเอาสมองมาแลกกับงานมากเกินไป เอาหัวใจไปแลกกับเงินทุกวัน ๆ ทำบางสิ่งที่เราทำมานาน มันอาจจะกลายเป็นกรอบเล็ก ๆ ที่ขังตัวเองเอาไว้

   “การท่องเที่ยวทำให้เราได้ไปเปิดประสบการณ์ ได้ออกไปเห็นมุมมองคนอื่น ๆ ผู้คนใหม่ ๆ เอามาปรับใช้ไม่ว่าจะเป็นเรื่องการดำเนินชีวิตหรือเรื่องของการทำงาน คำถามที่ว่าการได้ออกไปเที่ยวจะให้อะไรนั้น มันเป็นสิ่งที่ทุกคนต้องลองไปหาคำตอบเองครับ แต่ผมเชื่อว่าได้แน่นอน

   “ในอนาคตผมฝันไว้ว่า “อาสาพาไปหลง” คงจะเป็นกระบอกเสียงหนึ่ง ที่สร้างความสุขได้อย่างยาวนาน ถ้าตลอดไปยิ่งดี เพราะผมรักมันมาก ๆ แล้วทีมงานทุกคนก็รักอาสาพาไปหลงมาก ๆ ครับ เมื่อก่อนเราอาจดีใจที่เราหาเงินได้จากการมีลูกค้าเยอะ ๆ แต่ทุกวันนี้ความดีใจของอาสาพาไปหลง คือการที่มีคนสักคนหนึ่งมีชีวิตที่ดีขึ้น จากการที่เราเป็นชาว Blogger เข้าไปถ่ายทำวิถีชีวิตของชาวบ้านหรือผู้คน เข้าไปรีวิวตีแผ่มุมต่าง ๆ ของสถานที่นั้น ๆ เราออกมาแล้ว มันสร้างรอยยิ้มให้กับทั้งชุมชนและผู้ชม รวมถึงลูกค้าที่สนับสนุนเรา ต้องขอบคุณมาก ๆ ทุกอย่างก็มันทำให้ทุกคนมีรอยยิ้ม ได้มีความสุขครับ”

อาสาพาไปหลง(รัก) Ready for Take off "อคิร วงษ์เซ็ง"