สัมภาษณ์ "โจโก อันวาร์" เจ้าพ่อหนังสยองขวัญอินโด มัดรวมความหลอน ใน "IMPETIGORE บ้านเกิดปีศาจ"

สัมภาษณ์ "โจโก อันวาร์" เจ้าพ่อหนังสยองขวัญอินโด มัดรวมความหลอน ใน "IMPETIGORE บ้านเกิดปีศาจ"

กลับมาสร้างปรากฎการณ์หลอนสุดขั้วอีกครั้งสำหรับ “โจโก อันวาร์” ผู้กำกับสายหลอนชาวอินโดเจ้าของผลงานภาพยนตร์สยองขวัญขึ้นหิ้งมากมายไม่ว่าจะเป็น Satan's Slaves, A Copy of My Mind และ Ritual โจโกถือเป็นผู้กำกับรุ่นใหม่ที่สร้างตำนานความสยองให้หลอนระดับโลกกับผลงานล่าสุด “IMPETIGORE บ้านเกิดปีศาจ” จากการฉายภาพยนตร์ในเทศกาลหนังซันแดนซ์และเทศกาลหนังรอตเทอร์ดามพร้อมกวาดคำชมและคะแนนรีวิวจากนักวิจารณ์ทั่วโลกได้สูงถึง 95% รวมถึงImpetigoreยังเป็นภาพยนตร์ที่ติด 1 ในท็อปลิสต์หนังทำเงินสูงสุดของประเทศอินโดนีเซียอีกด้วย

“IMPETIGORE บ้านเกิดปีศาจเล่าถึงเรื่องราวของ “มายา” และ “ดีนี่” สองเพื่อนซี้ที่ตัดสินใจกลับบ้านเกิดเพื่อหวังเอามรดกของครอบครัวที่หลงเหลือ แต่เมื่อก้าวเข้าหมู่บ้านพวกเธอเจอกับสายตาอันน่ากลัวของชาวบ้านพฤติกรรมที่ชวนสงสัยรวมไปถึงหลุมฝังศพเด็กที่เรียงรายคุณคิดว่าอะไรกำลังรอทั้งสองอยู่กันแน่?

 

ในความตั้งใจของคุณ Impetigore เป็นชื่อที่ฟังแล้วสะดุดหูมากชื่อนี้จะสื่อความหมายถึงอะไร

โจโก อันวาร์ : Impetigore เป็นคำที่ผมคิดขึ้นมาเพื่อหนังเรื่องนี้โดยเฉพาะเล่นกับคำว่า Impetigo มันเป็นชื่อโรคผิวหนังชนิดหนึ่งมันเป็นโรคพบไม่ง่ายอาการของมันคือผิวหนังหลุดร่อน Impetigore คือการเป็นโรค Impetigo ขั้นร้ายแรงบวกกับการถูกสาป

Impetigore เรียกว่าได้ไปปรากฎสู่สายตาคนดูหนังในระดับ Worldwide ปฏิกิริยาที่นักวิจารณ์ในเทศกาลหนังต่างๆที่คุณได้เห็นกับตาเองพวกเขาเป็นยังไงกันบ้าง

โจโก อันวาร์ : เกินคาดเลยทีเดียวครับตอนที่เราเอา Impetigore ไปฉายที่ซันแดนซ์ฟิล์มเฟสเราคิดว่าผู้ชมต่างชาติอาจไม่เข้าใจบางองค์ประกอบของหนังเพราะมันเกี่ยวข้องกับประเพณีและวัฒนธรรมของชาวอินโดไม่ว่าจะเป็นบทพูดระหว่างตัวละครมุมมองต่อผู้อาวุโสวิธีคิดของตัวละครมันยึดตามประเพณีชวามากๆแต่พอเราฉายที่ซันแดนซ์ผู้ชมดูและพวกเขาเข้าใจเนื้อเรื่องซึ่งหลายองค์ประกอบที่เราคาดว่ามันแปลกเกินไปสำหรับชาวต่างชาติ แต่กระแสการตอบรับที่ได้กลับมามันเกินกว่าที่เราคาดไว้พวกเรามีความสุขมากที่ได้ คำชมจากผู้ชม

คุณคิดว่าการนำ Culture ของท้องถิ่นมาใช้สร้างบรรยากาศในหนังสยองขวัญมันช่วยยกระดับความน่ากลัวได้อย่างไรบ้าง

โจโก อันวาร์ : ผมแค่คิดว่าหนังควรมีธีมที่เป็นสากลให้ผู้คนทั่วไปเข้าไปใจในส่วนของเนื้อเรื่องแต่เคลือบไว้ด้วยวิถีและประเพณีพื้นบ้าน เพราะมันจะมอบประสบการณ์แปลกใหม่ให้ผู้ชมต่างกับหนังที่มีแก่นหรือเรื่องราวที่คล้ายกันเรื่องอื่นนั่นคือความตั้งใจของผม การทำหนังสยองขวัญที่มีเรื่องราวที่เราคุ้นเคยกันดีแต่เติมความเป็นอินโดนีเซียลงไป

อย่างเรื่องการนำเอา “หนังตะลุงหรือ Wayang (วายัง) มาใช้เป็นปริศนาส่วนหนึ่งในหนังทำไมคุณถึงเลือกการแสดงหนังตะลุงมาใช้

โจโก อันวาร์ : ตอนผมอายุสิบขวบพี่ชายบอกผมว่าหนังตะลุงมันทำมาจากหนังคนซึ่งหนังตะลุงฮิตมากที่อินโดนีเซียถ้าเปิดทีวีดูคุณจะเห็นมันฉายทางทีวีบ่อยครั้ง ผมอาศัยอยู่ทางเหนือของสุมาตราบนเกาะติดกับชวาที่หมู่บ้านของผมยังมีการแสดงหนังตะลุงอยู่เลยนั่นเป็น เหตุผลว่าทำไมผมถึงใช้หนังตะลุงเป็นส่วนประกอบหลักของเรื่องทุกคนเลยรู้จักหนังตะลุงดี ตอนที่พี่ผมบอกว่าหนังตะลุงทำมาจากหนังคนผมนอนฝันร้ายเลยแม้จะโตแล้วก็ตาม

Impetigore เป็นหนังสยองขวัญที่มีโปสเตอร์ดึงดูดตามากคุณได้ไอเดียในการออกแบบมาจากไหน?

โจโก อันวาร์ : ผมชอบโปสเตอร์ที่เกริ่นเรื่องราวของหนัง ไม่ใช่แค่เอาดารามายืนโพสสวยๆแม้ว่าหนึ่งในโปสเตอร์เราออกแบบโดยใช้หน้าตัวละครแต่ว่าดวงตาของเธอกลับแปลกออกไปข้างหนึ่งเป็นตัวแทนของชีวิตเธอในปัจจุบัน อีกข้างเป็นตัวแทนของอดีตเป็นผู้หญิงคนหนึ่งจากหมู่บ้านของเธอ ทั้งหมดนั่นเพื่อสื่อว่าหนังเรื่องนี้เกี่ยวกับอดีตและปัจจุบันของตัวละคร ผมคิดว่าหนังมีความเป็นเฟมินิสต์นะเพราะตัวเอกเป็นหญิงแกร่งซึ่งแตกต่างจากปกติ ดังนั้นไอเดียที่ผมจับผู้หญิงสามคนห้อยหัวในโปสเตอร์มันแสดงถึงความสำคัญของผู้หญิงที่จะปรากฏในหนังแต่ไม่ได้เฉลยบทบาทของพวกเธอคุณอาจบอกได้ว่ามายาคือตัวเอกแต่เธอกลับไปยังหมู่บ้านเพราะต้องการเงินเธอไม่ได้เป็นคนดีอะไรนี่คือไอเดียหลักของโปสเตอร์รูปผู้หญิงห้อยหัวเพื่อแสดงความสำคัญของผู้หญิงในหนัง แต่ให้ผู้ชมบอกไม่ได้ว่าพวกเธอเป็นตัวเอกหรือตัวร้าย

การถ่ายทำเป็นอย่างไรบ้างต้องเผชิญกับอุปสรรคขนาดไหน?

โจโก อันวาร์ : เราถ่าย Impetigore กันในสามเมืองห้าเขตพื้นที่ซึ่งกระจายตัวอยู่รอบจังหวัดชวาตะวันออกในเวลาเพียงแค่ 28 วันการถ่ายทำเป็นไปด้วยความยากลำบากเพราะเราต้องถ่ายกันในหมู่บ้านห่างไกลความเจริญและในป่าจริงๆแถมตรงกับฤดูไข้เลือดออกระบาดพอดี แต่โชคดีที่มีทีมงานคนเดียวที่ป่วยนั่นคือผมเอง แต่เราทำงานกันอย่างเป็นระบบก่อนที่เราจะถ่ายกันจริงๆผมถ่ายวิดีโอบอร์ดแล้วตัดต่อทันที ก่อนจะส่งให้ทีมงานทุกคนในกองได้ดูเพื่อให้ทุกคนได้เห็นภาพตรงกันผมใช้ทีมงานเป็นสแตนอินแทนนักแสดงไปก่อนซึ่งพวกเขาดูสนุกไปกับมันไม่น้อย

อยากให้ช่วยฝากถึงคนดูหนังว่าทำไมถึงควรไปสัมผัสImpetigoreในโรงภาพยนตร์

โจโก อันวาร์ : หนังเรื่องนี้ Impetigore เหมือนเป็นจดหมายรักต่อหนังสยองขวัญทุกเรื่องที่ผมโตขึ้นมากับมันผมมีทีมงานชั้นเยี่ยมที่ช่วยกันทำหนังเรื่องนี้ให้เป็นจริงได้แถมผมยังมีทีมนักแสดงในอุดมคติที่เต็มไปด้วยยอดฝีมือของวงการภาพยนตร์อินโดนีเซียผมยังเชิญชาวบ้านมาร่วมแสดงด้วยทุกครั้งที่เราทำงานในพื้นที่เรามักเชิญชาวบ้านละแวกนั้นมาร่วมแจมผมหวังว่าคุณจะสนุกไปกับมันเพราะมันจะเป็นประสบการณ์ที่คุณไม่เคยพบที่ไหนและเพื่อให้ได้อรรถรสเต็มที่ต้องดูมันในจอภาพยนตร์เท่านั้นรับรองว่าสนุกจนขวัญกระเจิงแน่นอน

ฮาโลวีนนี้เตรียมพิสูจน์ความหลอนระทึกที่ส่งตรงจากอินโดโดยเจ้าพ่อหนังสยองขวัญ “โจโก อันวาร์” ที่คุณจะต้องผวาถึงขีดสุดใน“IMPETIGORE บ้านเกิดปีศาจ” วันนี้ในโรงภาพยนตร์

 

 

สัมภาษณ์ "โจโก อันวาร์" เจ้าพ่อหนังสยองขวัญอินโด มัดรวมความหลอน เล่าผ่านปมลับหมู่บ้านกลางป่าใน "IMPETIGORE บ้านเกิดปีศาจ"