ชวนมาสัมผัสรสชาติอาหารไทย ในแบบดั้งเดิม |@Benjarong Thai Restaurant | Issue 164

ชวนมาสัมผัสรสชาติอาหารไทย ในแบบดั้งเดิม |@Benjarong Thai Restaurant | Issue 164

แม้ตอนนี้กระแสความนิยมในการทานอาหารไทยในแบบตำรับดั้งเดิมอาจจะลดลงไปบ้าง แต่ที่นี่กลับได้รับความนิยมมาตลอด แน่นอนว่าในเรื่องของรสชาติ การตกแต่ง วัตถุดิบ รวมไปถึงสไตล์การปรุงที่พิถีพิถัน เป็นที่ถูกปากคนไทย นี่เองที่เป็นสาเหตุที่ทำให้อาหารไทยแบบตำรับดั้งเดิมแท้ ๆ ไม่มีวันเลือนหายไป

สไตล์การตกแต่งของที่นี่แสดงออกถึงความเป็นไทย ทั้งข้าวของเครื่องใช้ อาทิ ชุดโต๊ะและเก้าอี้ พัดลม โคมไฟ ภาพวาด ที่ยกมาจากโรงแรมดุสิตธานีทั้งหมดมาไว้ที่บ้านดุสิตหลังนี้ ล้วนแล้วแต่แสดงถึงความหรูหรา ราวกับว่ากำลังนั่งทานข้าวอยู่ในคฤหาสน์ของชนชั้นสูงในสมัยก่อน 


ที่นี่เลือกสรรแต่วัตถุดิบชั้นดี ผสานเข้ากับการปรุงอย่างพิถีพิถันของเชฟในแบบฉบับโบราณและดั้งเดิม เพื่อคงรสชาติของต้นตำรับ ความเป็นอาหารไทยไว้อย่างครบเครื่อง
อาหารแนะนำของที่นี่มีทั้ง “กุ้งแม่น้ำข้าวเม่ากรอบรสมะขาม” (Grilled river prawns with kaffir lime, tamarind sauce and pounded young rice) กุ้งแม่น้ำนำไปกริลล์ให้หอม จากนั้นนำมาคลุกกับซอสมะขาม ที่ทางเชฟคั้นเอง เพื่อให้ได้รสชาติความหอม เสิร์ฟคู่กับผักชี ผสมผสานกับผิวมะกูดสดที่นำมาอบเพื่อให้ได้กลิ่นอะโรม่า เพิ่มอรรถรสในการกิน ส่วนข้าวเม่าทางร้านก็นำมาทอดเอง โดยคลุกกับผงมะกรูดที่พิถีพิถันและใช้เวลาในการทำอีกเช่นกันจากนั้นตกแต่งอย่างสวยงามโรยหน้าด้วยหอมเจียว รสชาติเข้มข้น เปรี้ยวนำ ตามด้วยเค็ม แฝงด้วยรสหวาน กรุบกรอบด้วยข้าวเม่าทอด


จานถัดมาเป็น “แกงมัสมันขาแกะ” (Braised New Zealand lamb shank in chef’s special Massaman curry) ขาแกะนำมาตุ๋นในแบบดั้งเดิมกับกะทิ ใช้ระยะในการตุ๋นกว่า 4 ชั่วโมง กว่าที่ขาแกะจะเปื่อยนุ่มจนได้ที่ ปรุงกับเครื่องแกงมัสมันในแบบฉบับของเบญจรงค์ หอมฟุ้งด้วยกลิ่นของมะกรูด 

ส่วนจานนี้คือ “ซี่โครงหมูกรอบหวาน” (Crispy sweet pork ribs and salted sriracha cabbage)เป็นจานที่เชฟบอกว่าใช้ขั้นตอนในการทำค่อนเยอะ ทั้งการตุ๋นหมูคุโรบุตะ ที่ใช้ระยะเวลายาวนานถึง 4 ชั่วโมง จากนั้นนำมาทอดเพื่อให้ได้รสสัมผัสที่กรอบ ราดด้วยซอสที่เคี่ยวจนเหนียวนุ่ม ทานคู่กิมจิไทยสไตล์ ที่ใช้ระยะเวลาหมักถึง 3 วัน ด้วยเครื่องเทศแบบไทย ๆ  ส่วนวิธีการกินทางเชฟแนะนำว่าในหนึ่งคำควรที่จะมีหมู ซอส กิมจิ และหอมเจียว รสชาตินุ่ม กรอบ หวาน เปรี้ยวใน 1 คำ

อีกหนึ่งเมนูที่ห้ามพลาดนั่นคือ “แกงเหลืองไหลบัวปลากะพงแดง” (Yellow curry with red snapper, lotus root, herbs and spice) ใช้ปลากะพงแดงสดใหม่ ทอดจนเหลืองกรอบแกงด้วยเครื่องแกงเหลืองของเบญจรงค์ ทำให้ได้รสชาติอร่อยเข้มข้น  

ปิดท้ายเบา ๆ ด้วยของหวาน เค้กกะละแมเสิร์ฟพร้อมไอศกรีมคาราเมลและกล้วยน้ำว้ากรอบ (Kalamae cake with caramel ice cream and crispy banana) รสชาติของเค้กกล้วยหอมนำ นุ่ม หนึบ ด้านในมีเทกเจอร์ของกาละแม ส่วนกล้วยน้ำว้าก็รสชาติกรุบกรอบ

แม้ที่นี่จะมีการปรับเปลี่ยนสไตล์การตกแต่งหน้าตาของอาหารให้เข้ากับยุคกับสมัย แต่สิ่งหนึ่งที่ไม่เปลี่ยนนั่นก็คือรสชาติอันดั้งเดิมที่ยังคงเอกลักษณ์อยู่ในทุกเมนู ร้านอาหารไทย
เบญจรงค์ ร้านอาหารรสชาติไทย ๆ ดั้งเดิมที่คุณไม่ควรพลาด 

 


How To Go

ร้านอาหารไทยเบญจรงค์ ตั้งอยู่ภายในรั้วบ้านดุสิตธานี 
ห่างจากปากซอยศาลาแดงเพียง 100 เมตร 
สามารถเดินทางมาได้ทั้งรถยนต์ รวมถึง BTS และ MRT
 : เปิดให้บริการทุกวัน มื้อกลางวัน 11.30 – 14.30 น. 
    และมื้อค่ำ 18.00 – 22.00 น. 
 : 0-2200-9009

 

ชวนมาสัมผัสรสชาติอาหารไทย ในแบบดั้งเดิม |@Benjarong Thai Restaurant | Issue 164