เมื่ออสูรกายออกไล่ล่าในค่ำคืนแห่งความสุขของเด็กๆ คุยกับ ทาลาล เซลฮามี ผู้กำกับภาพยนตร์ Achoura

เมื่ออสูรกายออกไล่ล่าในค่ำคืนแห่งความสุขของเด็กๆ คุยกับ ทาลาล เซลฮามี ผู้กำกับภาพยนตร์ Achoura

หากเพื่อนของคุณกลับมาพร้อมกับความตายคุณจะทำอย่างไร! Achoura อาชูร่า มันกลับมาจากนรก ผลงานสยองขวัญร่วมทุนสร้างจากฝรั่งเศส-โมร็อกโก ผลงานจากสตูดิโอผู้สร้าง Valerian and the City of a Thousand Planets และ The Little Prince การันตีความน่าสะพรึงกลัวด้วยรางวัล Golden Razor Blade รางวัลสูงสุดของเทศกาลหนังสยองขวัญ Hard Line Film Festival ที่กลายเป็นประเด็นร้อนแรงหลังจากเปิดฉายตามเทศกาลหนังสยองขวัญทั่วโลก 

เรื่องราวภายใต้ค่ำคืนแห่งการเฉลิมฉลองเทศกาลอาชูร่าของเด็ก ๆ อาลี นาเดีย และ สเตฟาน ได้พบว่า ซาเมีย เพื่อนสนิทของพวกเขาได้หายไปอย่างปริศนา 20 ปีต่อมาเด็กเหล่านั้นได้โตขึ้นเป็นผู้ใหญ่ พวกเขาแต่ละคนต่างมีวิธีในการลบความเจ็บปวดของการสูญเสียเพื่อนรักด้วยวิธีที่ต่างกัน อาลีเลือกที่จะเป็นตำรวจที่รับหน้าที่ตามหาเด็กหาย สเตฟานเปลี่ยนความรู้สึกให้กลายเป็นภาพวาด นาเดียเลือกที่จะลืมภาพเหตุการณ์ดังกล่าว แต่ในวันหนึ่งเมื่อเพื่อนที่หายตัวไปได้กลับมาหาพวกเขา และมันก็ทำให้พวกเขาต้องกลับไปเผชิญกับฝันร้ายในวัยเด็กอีกครั้งหนึ่ง

 

ค่ำคืนแห่งอาชูร่า (Achoura) คือช่วงวันที่ 10 ของประเพณีพิธีเจ้าเซ็นของชาวอิสลามนิกายสุหนี่ ซึ่งเป็นวันที่มีความหมายมากสำหรับชาวโมร็อกโก ภายในค่ำคืนของวันดังกล่าวเด็กทั่วประเทศจะออกมาเล่นรอบกองไฟ จุดประทัด สาดน้ำ และเดินไปเคาะตามประตูบ้านเพื่อขอขนม แต่ผู้กำกับ ทาลาล เซลฮามี (Mirages) กลับได้เลือกใช้วันสำคัญดังกล่าวเป็นวันที่อสูรกายออกอาละวาดไล่ล่าเด็กเหล่านั้น เขามีเหตุผลและคาดหวังอะไรจากไอเดียนี้ ถ้าคุณอยากจะรู้ละก็ ไปอ่านบทสัมภาษณ์ของเขากันเลยดีกว่า

คุณคิดเรื่องราวของ Achoura และอสูรกายในหนังขึ้นมาได้อย่างไร? 
ทาลาล เซลฮามี : เราเริ่มมาจากการสร้างแนวคิดเรื่องอสูรกายที่เลือกเหยื่อของมันเป็นพวกเด็ก ๆ ครับ เมื่อเราได้แนวคิดนี้แล้วต่อมาเราก็ต้องเลือกรูปแบบช่วงเวลาการล่าเหยื่อให้กับมันด้วย ซึ่งมันก็ไม่มีช่วงเวลาไหนที่เหมาะไปกว่า “วันอาชูร่า” แล้วครับ เพราะว่ามันเป็นวันเทศกาลที่เด็ก ๆ ทุกคนต่างออกมาเล่นกันนอกบ้าน มันเป็นช่วงเวลาที่พวกเขาสนุกและมีความสุขมากที่สุด ซึ่งเป็นสิ่งที่เจ้าอสูรกายตัวนี้ต้องการ
นอกจากนั้นผมก็ยังก็ยังมีความคิดว่า นี่คือโอกาสที่จะเผยแพร่วัฒนธรรมของประเทศเราให้คนอื่นได้เห็น ผมต้องการที่จะให้ทุกคนบนโลกได้รับรู้ตัวตนของพวกเราผ่านหนังเรื่องนี้ พวกเรามีวัฒนธรรมและตำนานพื้นบ้านที่หลายคนบนโลกไม่เคยได้ยินมาก่อน ทำไมเราต้องรอให้คนตะวันตกมาทำหนังเกี่ยวกับเราในเมื่อเราสามารถทำกันเองได้

คุณได้ใช้สเปเชียลเอฟเฟคในหนังเรื่องนี้มากน้อยแค่ไหน ?
ทาลาล เซลฮามี : 
พวกเราได้ใช้มันในระดับที่อยู่บนมาตราฐานสากลครับ เพราะว่าผู้คนทุกคนทั้งในและนอกโมร็อกโกต่างมีเกณฑ์มาตราฐานในใจของตัวเองอยู่แล้ว พวกเราจึงต้องพยายามกันอย่างหนักเพื่อให้ภาพที่ออกมาอยู่ในมาตราฐานที่พวกเขารับได้ครับ ขั้นตอนการสร้างสเปเชียลเอฟเฟคนั้นอาจจะเป็นขั้นตอนที่กินเวลามาก แต่พวกเราก็ทำกันอย่างเต็มความสามารถเพราะเรารักงานนี้ครับ

หนังของคุณได้ฉายตามงานเทศกาลไปแล้ว กระแสตอบรับของหนังเป็นยังไงบ้าง ?
ทาลาล เซลฮามี : ผมคงตอบแทนนักวิจารณ์คนอื่น ๆ ไม่ได้นะครับว่าหนังของผมดีหรือไม่ดี แต่สำหรับผมแล้วนี่คือหนังแนวแฟนตาซีเรื่องแรกของโมร็อกโกครับ ถึงอย่างนั้นผมก็เชื่อมั่นว่ากระแสตอบรับของผู้ชมก็น่าจะออกมาดี เพราะพวกเราได้สร้างมันตามเทรนด์ของหนังในปัจจุบันโดยไม่ปล่อยให้บทหนังของเรามีช่องโหว่ครับ
พวกเราได้ออกตระเวนไปฉายหนังตามงานเทศกาลหนังต่าง ๆ ในหลายประเทศ และผลตอบรับนั้นก็ค่อนข้างออกมาดีเลยทีเดียว นักดูหนังหลายคนต่างบอกเหมือนกันว่าพวกเราไม่เคยดูหนังของโมร็อกโกมาก่อนในชีวิต มันเป็นแนวของหนังที่ทุกคนต่างรู้จักกันดี แต่ได้รับการเล่าผ่านวัฒนธรรมที่หลายคนไม่คุ้นตา ดังนั้นผมจึงรู้สึกดีใจมากที่ได้เห็นการตอบสนองที่ดีจากผู้คนกลุ่มนั้นที่ได้ดูหนังของผมแล้วครับ

มิตรภาพของพวกเขาจะกลับมาพร้อมความตาย คอหนังสายสยองร่วมพิสูจน์ความหลอนแรง กับภาพยนตร์ที่ถูกยกให้เป็นหนังสยองขวัญที่น่ากลัวที่สุดในรอบ 10 ปี Achoura อาชูร่า มันกลับมาจากนรก : 2 กรกฏาคมนี้ ในโรงภาพยนตร์

เมื่ออสูรกายออกไล่ล่าในค่ำคืนแห่งความสุขของเด็กๆ คุยกับ ทาลาล เซลฮามี ผู้กำกับภาพยนตร์ Achoura อาชูร่า มันกลับมาจากนรก