ดร.องอาจ ก่อสินค้า

ดร.องอาจ ก่อสินค้า

คราวก่อนเราได้รู้เรื่องราวของการแข่งขันฟุตบอลไทยพรีเมียร์ลีก และสโมสรบางกอกกล๊าสจากโค้ชเหน่ง คุณศุภสิน ลีลาฤทธิ์ รองประธานสโมสรบางกอกกล๊าสกันไปแล้ว ครั้งนี้เราจะพาทุกท่านไปทำความรู้จักกับบุคคลระดับบิ๊กตัวจริงของวงการลูกหนังบ้านเรา บิ๊กเปี๊ยก “ดร.องอาจ ก่อสินค้า” ประธานกรรมการ บริษัท ไทยพรีเมียร์ลีก จำกัด ที่จะมาบอกเล่าถึงเบื้องลึกเบื้องหลังในการทำงานของบริษัทไทยพรีเมียร์ลีก และวงการฟุตบอลไทย

รู้จักกับคุณศุภสินได้อย่างไร

ทำงานร่วมกันมาครับ ผมเป็นประธานกรรมการบริษัทไทยพรีเมียร์ลีก ส่วนคุณศุภสินนั้นเป็น 1 ในคณะกรรมการบริหาร ซึ่งเป็นตัวแทนจากสโมสรบางกอกกล๊าส โดยคณะกรรมการบริหารนี้จะประกอบไปด้วยตัวแทนจากแต่ละสโมสร เพื่อที่จะมาร่วมกันพิจารณาวาระต่างๆ เกี่ยวกับการจัดการแข่งขัน รวมไปถึงการพิจารณาผลประโยชน์ร่วมกัน เพื่อที่จะทำให้การแข่งขันฟุตบอลไทยพรีเมียร์ลีกเข้มแข็งมากยิ่งขึ้น

ความสัมพันธ์กับคุณศุภสินเป็นอย่างไรบ้าง

ค่อนข้างสนิทสนมกันครับ เนื่องจากว่าทำงานร่วมกัน อย่างที่กล่าวไปข้างต้น เราต่างมีความต้องการให้ลีกฟุตบอลของไทยเข้มแข็งและพัฒนาไปทัดเทียมกับลีกดังๆ จากต่างชาติเช่นเดียวกัน

มุมมองที่มีต่อคุณศุภสิน

คุณศุภสินมีความรู้ มีความละเอียด มีความกว้างขวาง และมีวิสัยทัศน์ที่ไกล จัดว่าเป็นคนรุ่นใหม่ และเป็นคนทำงาน เพราะฉะนั้นการได้คุณศุภสินมาเป็น 1 ในบอร์ดบริหารบริษัทไทยพรีเมียร์ลีก ทำให้การแข่งขันไทยพรีเมียร์ลีกจากปีที่แล้วที่ผมเริ่มเข้ามารับตำแหน่งประธานกรรมการ ก้าวหน้าอย่างเกินความคาดหมาย ชนิดที่ไม่มีใครคาดคิดมาก่อน และด้วยประสบการณ์การบริหารงานในสโมสรบางกอกกล๊าส ผมเชื่อว่าคุณศุภสินจะเป็นคีย์แมนที่ทำให้การแข่งขันไทยพรีเมียร์ลีกแข็งแกร่งและเป็นที่รู้จักในวงกว้างอย่างแน่นอน

ความเปลี่ยนแปลงในการทำงานระหว่างดำรงตำแหน่งเป็นปีที่ 2 

ในปีนี้เราได้มีการปรับเปลี่ยนโครงสร้างเพิ่มเติม ยกตัวอย่างเช่นการเพิ่มเติมคณะกรรมการที่เป็นตัวแทนจากสโมสร เพิ่มจาก 5 ทีม เป็น 7 ทีม ซึ่งประกอบไปด้วยสโมสรที่มีชื่อเสียงในไทยพรีเมียร์ลีก รวมไปถึงการเพิ่มเติมคณะผู้บริหารที่ได้รับการแต่งตั้งจากสมาคมฟุตบอล จากฝ่ายสื่อ และฝ่ายผู้สนับสนุน มาร่วมด้วยช่วยกันเป็นกำลังสำคัญในการขับเคลื่อนการจัดการของการแข่งขันไทยพรีเมียร์ลีก รวมไปถึงส่วนของลีกดิวิชั่น 1 ด้วย ซึ่งในส่วนนี้ก็จะเป็นการร่วมประสานงานในเรื่องของการจัดการแข่งขัน การบริหารในส่วนของนักเตะ เพื่อให้การพัฒนาควบคู่ไปกับการแข่งขันระดับทีมชาติ ยกตัวอย่างเช่นการจัดการแข่งขันให้ไม่กระทบต่อการฝึกซ้อมเพื่อเตรียมทีมชาติในการแข่งขันต่างๆ รวมไปถึงการประสานขอความร่วมมือในการเรียกนักเตะที่ติดทีมชาติก็เป็นไปด้วยความเรียบร้อยมากขึ้น

ปัญหาที่ต้องเร่งแก้ไขคืออะไร

หลักๆ เลยก็เป็นเรื่องของผู้ตัดสิน อันเป็นเรื่องที่ทางสโมสรยังคงขาดความเชื่อมั่น รวมไปถึงมาตรฐานของผู้ตัดสินที่ยังคงด้อยประสิทธิภาพ ในเรื่องของการทำหน้าที่ ซึ่งขณะนี้กำลังดำเนินการแก้ไขกันอยู่ในหลายๆ ทาง ส่วนวิธีแก้ไขที่ยั่งยืนแต่อาจจะต้องใช้เวลาคือ การปูพื้นฐานของผู้ตัดสิน เราต้องสร้างผู้ตัดสินให้ได้มาตรฐานเป็นจำนวนมากขึ้น เนื่องจากว่าหากมีจำนวนผู้ตัดสินที่ได้มาตรฐาน ก็จะมีตัวเลือกในการจัดผู้ตัดสินให้กระจายไปสู่การแข่งขันได้มากตามไปด้วย อย่างไรก็ดีปัญหาที่ตามมาก็คือการที่มีผู้ให้ความสนใจทำหน้าที่นี้จำนวนน้อย ด้วยเหตุที่ว่าหากเกิดข้อพิพาทในการแข่งขัน ผู้ตัดสินจะถูกครหาก่อน รวมไปถึงความมั่นคงในอาชีพผู้ตัดสินที่ไม่มากเท่าไรนัก จึงต้องมีการแก้ไขในระยะยาวต่อไป การแก้ไขที่กำลังดำเนินโครงการอยู่ในขณะนี้ คือการนำเข้าผู้ตัดสินจากต่างชาติมาทำหน้าที่ชั่วคราวไปก่อน

อีกเรื่องก็คือเรื่องของความวุ่นวายในสนามที่มักจะประสบปัญหาบ่อยครั้ง ดังนั้นจึงได้มีการจัดการในเรื่องของการรักษาความปลอดภัยที่เข้มข้นมากขึ้น ไม่ว่าจะเป็นการเพิ่มกำลังเพื่อสอดส่องดูแลความเรียบร้อย การติดตั้งกล้องเพื่อตรวจสอบและดูแลรักษาความปลอดภัยโดยรอบบริเวณสนาม ซึ่งในส่วนนี้ก็จะมีมาตรฐานในการตรวจสอบ ส่วนทางไทยพรีเมียร์ลีกก็ได้เพิ่มเติมระเบียบในส่วนของการลงโทษรูปแบบต่างๆ ไม่ว่าจะเป็นการตัดแต้ม หรือการปรับเงิน เพื่อกระตุ้นให้แต่ละสโมสรได้เพิ่มการดูแลรักษาความปลอดภัยให้ดียิ่งขึ้น

เป้าหมายในอนาคต

อย่างแรกเลยก็คือการกระตุ้นเศรษฐกิจ สำหรับการจัดการแข่งขันในแต่ละสนาม ตอนนี้กำลังเริ่มต้นในส่วนนี้อยู่ไม่ว่าจะมีการแข่งขันที่สนามไหน ก็เป็นการเพิ่มยอดทางด้านการท่องเที่ยวไปด้วย การค้าขายก็เช่นกัน เพราะสามารถดึงดูดผู้คนจากทั่วทุกสารทิศ ให้เดินทางมาชมการแข่งขัน ซึ่งการหมุนเวียนเม็ดเงินในระบบดังกล่าวจะทำให้เกิดการสร้างอาชีพในแต่ละพื้นที่ ทำให้เป็นการกระจายรายได้ คนตกงานก็จะน้อยลงด้วยส่วนด้านการกระตุ้นสังคม ก็คาดหวังว่าพ่อแม่
ผู้ปกครองเริ่มที่จะให้บุตรหลานมาหันเล่นกีฬาฟุตบอลมากขึ้นจากหลายๆ ปัจจัย เช่น พวกเขาได้มีนักฟุตบอลดังๆ เป็นแรงบันดาลใจ หรือแม้กระทั่งอาชีพนักกีฬาในปัจจุบันที่ค่าตอบแทนมากขึ้น สามารถลืมตาอ้าปากได้ด้วยตนเอง
และกีฬาฟุตบอลก็สามารถเป็นตัวเชื่อมทำให้เด็กได้มีโอกาสเข้าศึกษาในสถานศึกษาที่มีคุณภาพมากยิ่งขึ้น ในส่วนของโควต้านักกีฬาทั้งในระดับการศึกษาชั้นมัธยม และปริญญาตรี ซึ่งทั้งหมดทั้งมวลสามารถส่งผลไปถึง
ระดับชาติได้ในอนาคต เพราะฉะนั้นเราจึงต้องปลูกฝังตั้งแต่เด็กๆ ต้องเริ่มวางรากฐาน แล้วในอนาคตทีมชาติไทยจะได้มีโอกาสไปสัมผัสเวทีใหญ่ๆ อย่างฟุตบอลโลกบ้าง 

ประธานกรรมการ บริษัท ไทยพรีเมียร์ลีก จำกัด