ในปัจจุบันมีรถยนต์มากมายหลายรุ่น หลายยี่ห้อออกมาให้เราได้เลือกซื้อกัน บ้างก็เลือกซื้อด้วยรูปร่างหน้าตา บ้างก็เลือกซื้อด้วยราคาตามกำลัง บ้างก็เลือกซื้อด้วยความชอบหรือความฝังใจในแบรนด์นั้นๆ ก็มี และก็มีอีกไม่น้อย ... ที่เลือกซื้อยานพาหนะตามประโยชน์ใช้สอยของมันจริงๆ 

Ford Eco Sport ถือเป็นรถที่เรียกได้ว่ากำเนิดมาจากความเป็นรถอเนกประสงค์อย่างแท้จริง โดยหนึ่งในทีมออกแบบเล่าให้ฟังว่า การออกแบบ Ford Eco Sport  และ Ford Everest ใหม่นั้น มาจากพื้นฐานเส้นสายเดียวกัน แต่รายละเอียดนั้นมีความต่างกัน ตามความต้องการของกลุ่มเป้าหมายที่วางเอาไว้

ภายนอกของ Ford Eco Sport นั้นเน้นให้ดูทันสมัยเป็นหลัก ด้านหน้าเน้นหนักไปที่กระจังหน้าชิ้นใหญ่ทรงหกเหลี่ยม ไฟหน้าเรียวเล็ก ส่งผลให้ดูหน้ากว้างขึ้นมาเล็กน้อย ด้านข้าง ความเป็นมัดกล้ามของรถอเนกประสงค์ที่มีมาให้ไม่เยอะมาก ด้านท้าย สะดุดตาเต็มๆ กับการกลับมาของยางและล้ออะไหล่ ที่ปะอยู่บนฝาท้ายเหมือนรถสมัยก่อนๆ โดยวิศวกรบอกเราว่าที่ออกแบบมาแบบนี้เพราะว่าในความเป็นจริงมันใช้งานได้ง่าย เวลารถเกิดปัญหา อย่างน้อยก็ไม่ต้องรื้อของออกมากองแล้วถอดเปลี่ยนยาง ซึ่งนั่นมันก็เป็นเรื่องจริง ส่วนเรื่องความสวยงาม อันนี้ก็แล้วแต่คนจะชอบนะครับ

แม้จะเปิดตัวว่าเป็นรถอเนกประสงค์ แต่ในความเป็นจริงแล้ว  Ford Eco Sport ไม่ได้ใหญ่กว่ารถซิตี้คาร์คันอื่นๆ เลย ทั้งเรื่องความกว้างและความยาว เห็นทีจะมีแต่เรื่องที่ยกสูงขึ้นมาเท่านั้น จึงตอบโจทย์เรื่องความคล่องตัวได้เป็นอย่างดี  

ภายในห้องโดยสาร Ford ตั้งใจให้มันเป็นรถยนต์อเนกประสงค์ ที่ลงตัวในการใช้งานเป็นหลักด้วยพื้นที่ห้องโดยสารที่สามารถรับผู้โดยสารพร้อมห้องสัมภาระตอนท้าย ซึ่งสามารถจุของได้มากถึง 346 ลิตร และเบาะที่สามารถปรับพับได้ สามารถขยายได้ถึง 705 ลิตร ส่วนแผงควบคุมและหน้าจอแสดงผลต่างๆ หน้าตาไม่ผิดแผกแตกต่างจาก Ford Fiesta เลย

ใต้ฝากระโปรงของเจ้า Ford Eco Sport ประกอบด้วยเครื่องยนต์ 4 สูบ 1.5 ลิตร พร้อมระบบวาล์วแปรผันอิสระ Ti-VCT  ให้กำลังสูงสุด 110 แรงม้า 6,300 รอบต่อนาที ให้แรงบิดสูงสุด 142  นิวตันเมตร ที่ 4,300 รอบต่อนาที ส่งกำลังด้วยเกียร์อัตโนมัติ
คลัทช์คู่ Powershift 6 สปีด   ซึ่งเครื่องยนต์และเกียร์ดังกล่าวก็ยกมาจาก Ford Fiesta นั่นแหละ แต่ได้มีการเซทการขับเคลื่อนใหม่ให้แตกต่างจากเดิม โดยเปลี่ยนเฟืองท้ายให้จัดขึ้นกว่า  Ford Fiesta เท่านั้น ส่งผลให้การออกตัวในช่วงเริ่มต้นจัดจ้านมากกว่าเดิมพอสมควร แต่ในช่วงกลางนั้น ไม่ได้สนุกตามรอบต้นที่ได้มา หรืออาจจะเรียกได้ว่า อืดกว่า Fiesta เลยก็ว่าได้ และนี่เป็นผลที่เกิดจากการเปลี่ยนอัตราทดเฟืองท้ายนั่นเอง

ระบบกันสะเทือนของรถ แม้จะคุ้นเคยกับแม็คเฟอร์สันสตรัทในทางด้านหน้า และทอร์ชั่นบีมในทางด้านหลัง ถ้าเปรียบเทียบกับรถเก๋งซิตี้คาร์ทั่วๆ ไปแล้วนั้น เห็นทีจะแตกต่างอย่างสิ้นเชิง เช่น ในถนนที่มีหลุมบ่อมากมายประดุจดวงจันทร์ Ford Eco Sport ทำได้นุ่มนวลกว่าอย่างเห็นได้ชัด ด้วยระยะช่วงโช๊คอัพที่มีความยาวกว่าทำให้ดูดซับแรงกระแทกได้ดีกว่า รวมถึงตัวรถที่ยกสูงขึ้น ทำให้มีเสถียรภาพในการขับขี่ที่ดีกว่าซิตี้คาร์

ช่วงความเร็วสูง  Ford Eco Sport  ตอบสนองเรื่องเสถียรภาพในการเกาะถนนได้ดี ถึงแม้ว่าตัวรถจะถูกยกสูงขึ้นมามากกว่ารถเก๋งทั่วๆ ไป แต่ก็ไม่ใช่ปัญหาในการเข้าโค้ง หรือแม้จะทำความเร็วสูงกว่า 160  กม./ชม.ก็ตาม  แต่ด้วยโครงสร้างตัวถังเบา เมื่อเจอลมแรงๆ ก็ยังเป็นปัญหามีอาการโคลงอยู่บ้างเล็กน้อย แต่ก็ไม่ได้มากมายอะไรนัก

โดยรวมของ  Ford Eco Sport  นั้นอาจจะไม่ได้เป็นรถอเนกประสงค์ที่เน้นในเรื่องสมรรถนะในการขับขี่มากนัก เครื่องยนต์ที่มีดีพอตัว แต่ยังไม่หวือหวาเท่าใด เสียดายก็แต่ หากเป็นเครื่องยนต์อย่าง Eco Boost แล้วล่ะก็ งานนี้สนุกแน่ครับ แต่ถ้าหากคุณมอง
ในเรื่องการใช้งานเป็นหลัก และไม่ได้เน้นหนักในเรื่องความแรงเท่าใดนัก Ford Eco Sport  ตอบโจทย์ชีวิตคนเมืองที่พร้อมจะลุยแบบเบาๆ ได้อย่างแน่นอน 

Trick & Tip

อย่าเสียมารยาทด้วยการขับช้า แช่เลนขวาตามทำเนียมบ้านเรา หากขับรถช้ากว่าคันอื่นก็ควรอยู่ในช่องทางซ้าย ไม่ควรอยู่ช่องขวาสุดแล้วปล่อยให้คันที่มาเร็วกว่าแซงซ้ายไป เพราะนอกจากจะเสียมารยาทในการใช้รถใช้ถนนร่วมกันแล้ว การแซงในช่องทางซ้าย เสี่ยงต่อการเกิดอุบัติเหตุมากกว่าแซงในช่องทางขวาหลายเท่านะครับ!

ลุยกันไป แบบเบาๆ กับ Ford Eco Sport Titanium