Freeze this is FBI..!! คุ้นๆ ประโยคนี้ไหมครับ นี่เป็นประโยคคลาสสิก ที่เรามักได้ยินบ่อยๆ เวลาที่เราชมภาพยนตร์ ขณะที่ตัวละครเจ้าหน้าที่ราชการ ดำเนินการเข้าจับกุมกลุ่มคนร้าย, ชายใส่สูทผูกไทด์ พร้อมอาวุธปืนในมือ โชว์ตราเข้าจับกุม เป็นภาพที่คุ้นตาที่ดูเท่เสียนี่กระไร หน่วยงานนี้เป็นหน่วยงานที่มีอยู่จริงในสหรัฐอเมริกาครับ และเชื่อหรือไม่ว่าหน่วยงานนี้ก่อตั้งมาเป็นเวลากว่า 100 ปี แล้ว และเจ้าหน้าที่บุคลากรที่ทำหน้าที่อยู่ในองค์กรนี้ ล้วนแล้วแต่ไม่ธรรมดาเลย ซึ่งทุกคนล้วนแล้วแต่มีความสามารถมากกว่าการทำหน้าที่จับกุมคนร้ายมากนัก เจ้าหน้าที่ FBI เป็นอย่างไร ติดตามได้เลยครับ 

FBI นี้ย่อมาจาก Federal Bureau of Investigation เป็นหน่วยงานสืบสวนคดีอาญาทุกชนิด ของกระทรวงยุติธรรมในสหรัฐอเมริกา ถ้าเป็นประเทศไทยเราหน่วยงานดังกล่าวก็คือ กองบัญชาการสอบสวนกลาง ของสำนักงานตำรวจแห่งชาติ โดยมีหน่วยกองบังคับการตำรวจกองปราบฯ เป็นผู้ดำเนินการทำหน้าที่ มีอำนาจหน้าที่ในการสืบสวนเข้าจับกุมรวมถึงรับแจ้งความในคดีอาญาต่างๆ ทั่วประเทศ อาจจะต่างกันตรงที่ของบ้านเรานั้นเจ้าหน้าที่เป็นตำรวจมียศนำหน้า แต่ของสหรัฐอเมริกาเจ้าหน้าที่ของเขานั้นไม่มียศ มีเพียงการบันทึกประวัติและบัตรประจำตัวเท่านั้นที่สามารถบอกได้ว่า เป็นเจ้าหน้าที่ของ FBI 

The Legend of FBI

โดย FBI ของสหรัฐอเมริกาได้ก่อตั้งขึ้นเมื่อวันที่ 26 กรกฎาคม 1908 โดยนายชาร์ลส์ โบนาปาร์ด อธิบดีกรมยุติธรรมแห่งสหรัฐอเมริกา และประธานาธิบดีทีโอดอร์ รูสเวลต์ เป็นผู้ก่อตั้ง โดยแรกใช้ชื่อว่า “หน่วยเฉพาะกิจแห่งกรมยุติธรรม” (Special Agents of Department of Justice) ซึ่งสมาชิกส่วนใหญ่เป็นเจ้าหน้าที่สืบสวนและเจ้าหน้าที่การข่าวชั้นดี แต่เมื่อปีถัดมานายจอร์จ วิกเคอร์แมนได้รับตำแหน่งอธิบดีกรมยุติธรรมคนใหม่ ก็ได้เปลี่ยนชื่อหน่วยงานเป็น สำนักงานสอบสวน (Bureau of Investigation) มีอำนาจหน้าที่ในการสอบสวนคดีเกี่ยวกับการฉ้อโกง จนกระทั่งในปี 1910 เมื่อมีการประกาศใช้รัฐบัญญัติว่าด้วยทาสผิวขาว สำนักงานฯ ก็ได้มีอำนาจหน้าที่ในการสืบสวนครอบคลุมถึงคดีอาชญากรรมทั้งหมด และได้มีการขยายขอบเขตการทำงาน โดยมีหน่วยงานย่อยมากกว่าสามร้อยฝ่าย มีสำนักงานสาขาในรัฐต่างๆ จนเมื่อวันที่ 1 กรกฎาคม พ.ศ. 2475 ก็ได้เปลี่ยนมาใช้ชื่อเป็น Federal Bureau of Investigation อย่างในปัจจุบัน ซึ่งมีศูนย์กลางอยู่ที่กรุงวอร์ชิงตัน ดีซี และมีสำนักงานอยู่ตามเมืองหลักๆ อีก 58 แห่ง ทั่วสหรัฐฯ รวมถึงประเทศเปอร์โตริโก อีกด้วย

หน้าที่หลักของเจ้าหน้าที่ FBI นั้นคือการสืบสวน สอบสวน คดีอาญาของสหรัฐอเมริกา ซึ่งการทำหน้าที่ในแต่ละสมัยนั้นไม่มีกฎเกณฑ์ที่ตายตัวขึ้นอยู่กับสถานการณ์โลกและรูปเหตุการณ์ในขณะนั้น เช่น สมัยสงครามโลกเน้นคดีจารกรรม ยุคถัดมาเน้นคดีอันธพาลครองเมือง ยุคสงครามโลกครั้งที่ 2 เน้นคดีเกี่ยวกับลัทธิคอมมิวนิสต์และฟาสซิสต์ ต่อมาเน้นคดีอาชญากรรมด้านการเงิน และปัจจุบันเน้นอาชญากรรมระหว่างประเทศ การก่อการร้าย คดียาเสพติด และการฟอกเงิน และมีแนวโน้มในการขยายขอบเขตอำนาจมากยิ่งขึ้นตามความเจริญกาวหน้าของโลกในปัจจุบัน โดยเฉพาะอย่างยิ่งในงานการสืบสวน เจ้าหน้าที่ FBI ต้องใช้ความรู้และเทคโนโลยีแทบทุกชนิดเพื่อใช้ในการสืบสวนไขคดีออกมาให้ได้ความกระจ่างให้ได้มากที่สุด ซึ่งนอกจากวิธีทางเทคโนโลยีที่ใช้แล้ว วิธีทางวิทยาศาสตร์ก็มีบทบาทที่สำคัญมาก โดยเจ้าหน้าที่ FBI จะต้องทำงานร่วมกับกลุ่มนักวิทยาศาสตร์ที่เป็นเจ้าหน้าที่ FBI เช่นกัน อาทิ ฝ่ายนิติเวช ฝ่ายฟิสิกส์ ฝ่ายพยาธิวิทยา เพื่อทำการสืบค้นหาหลักฐานต่างๆ ในคดี เช่น การพิสูจน์วิถีกระสุน คราบเลือด การวิเคราะห์อาวุธที่ใช้จากบาดแผล หากคนร้ายใช้วิธีที่ไฮเทคอย่างไร เจ้าหน้าที่จะต้องตามให้ทันและไฮเทค ยิ่งกว่านั่นเอง 

The Legend of FBI

การที่บุคคลธรรมดาจะมาเป็นเจ้าหน้าที่ FBI นั้น ยากมากครับ ต้องผ่านด่านการทดสอบมากมาย โดยข้อกำหนดขั้นแรก คือต้องมีสัญชาติอเมริกัน ไม่ว่าจะได้มาโดยกำเนิดหรือโอนสัญชาติก็ตาม มีอายุระหว่าง 23 - 37 ปี ไม่เคยมีประวัติความผิดทางอาญา บรรลุนิติภาวะ จบการศึกษาขั้นต่ำปริญญาตรี สาขาใดก็ได้ แต่ต้องมีประสบการณ์การทำงานมาแล้วไม่น้อยกว่า 3 ปี มีความรู้หรือพร้อมจะเรียนรู้ทำความเข้าใจทางด้าน IT ภาษา และกฎหมาย ข้อสำคัญก็คือ FBI ต้องพร้อมที่จะทำงานที่ไหนก็ได้ในโลกใบนี้

จากนั้นก็จะเข้ามาสู่การทดสอบในขั้นที่ 2 ที่เป็นข้อสอบ คุณจะถูกทดสอบทั้งในเรื่องสภาวะอารมณ์ การตัดสินใจ การเข้าถึงรายละเอียดข้อมูล การประเมินสถานการณ์ การวางแผน การรักษาความลับ การจดจำใบหน้าผู้คน ความซื่อสัตย์ต่อองค์กร และศีลธรรม แล้วเข้าสู่ขั้นตอนต่อไปคือการสอบสัมภาษณ์จากเจ้าหนาที่ FBI ซึ่งตรงนี้รับรองได้เลยว่าเครียดหนักเพราะเจ้าหน้าที่เหล่านี้จะมอบโจทย์คดีจำลองให้คุณไขปริศนาในเวลาที่จำกัด และต้องดำเนินการไขคดีต่อหน้าเจ้าหน้าที่ผู้มีประสบการณ์เหล่านี้ 

เมื่อผู้ที่ถูกประเมินผ่านแล้ว ก็จะได้รับการนัดผู้ที่ผ่านเข้ารอบมาทำการทดสอบสมรรถภาพร่างกาย ในเรื่องของการวิ่ง ซิทอัพ ดันพื้น ว่ายน้ำ เมื่อผ่านแล้วก็จะทำการตรวจสอบประวัติอาชญากรรมอย่างละเอียดซ้ำอีกรอบเพื่อความมั่นใจก่อนที่จะจัดสรรงานบรรจุให้ไปอยู่ในหน้าที่และตำแหน่งที่เหมาะสม โดยแผนกดังกล่าวหลักๆ มีดังนี้ 

•    Intelligence สอบสวนคดีหรือเรื่องที่ขัดแย้งต่อผลประโยชน์ของสหรัฐอเมริกา และสรรหาและรวบรวมข้อมูลต่างๆ เพื่อส่งให้แก่ FBI แผนกอื่นๆ 
เรียกได้ว่าเป็นผู้ชงเรื่องให้นั่นเอง

•    Counterintelligence ดูแลความปลอดภัยให้ประเทศ ดูว่ามีประเทศไหนจะแทรกแซงสหรัฐอเมริกาบ้าง ไม่ว่าจะเป็นทางอาวุธ ทางสงคราม หรือการขยายอำนาจอิทธิพล

•    Counterterrorism แผนกนี้เกี่ยวกับผู้ก่อการร้าย ต้องร่วมกันหาตัวผู้ก่อการร้ายที่มีรายชื่อในบัญชีของ FBI และป้องกันการก่อร้ายที่อาจเกิดขึ้น

•    Criminal Investigative เน้นสอบสวนคดีที่ร้ายแรง คดีเกี่ยวกับธุรกิจการเงิน คดีขององค์กร คดียักยอกทรัพย์ คดียาเสพติด

•    Cyber คอยดูแลคดีที่เกี่ยวข้องกับข้อมูลคอมพิวเตอร์ และป้องกันการแทรกแซงหรือแฮ็กข้อมูลทางราชการ

หลังจากบรรจุไปยังแผนกต่างๆ แล้วนั้น เจ้าหน้าที่ FBI หน้าใหม่ก็จะถูกส่งตัวจากต้นสังกัดไปฝึกพิเศษอีก 21 สัปดาห์ที่วิทยาลัยสืบสวนกลาง หรือ FBI National Academy เพื่อฝึกทักษะการใช้อาวุธ การต่อสู้ด้วยมือเปล่า และการเข้าจับกุม เพื่อเป็นพื้นฐานติดตัวในการปฏิบัติหน้าที่นั่นเอง 

The Legend of FBI

เป็นอย่างไรบ้างล่ะครับ เรียกได้ว่ากว่าจะเป็นเจ้าหน้าที่ได้นั้นต้องผ่านด่านทดสอบ และการฝึกสุดหิน เอาเป็นเอาตาย แต่เพื่อให้ได้ซึ่งบุคลากรและเจ้าหน้าที่ที่มีประสิทธิภาพในการทำงานที่เสี่ยงในวันข้างหน้าการคัดเลือกจึงต้องเข้มงวดอย่างที่ได้กล่าวมาข้างต้น เช่นนี้ล่ะครับ ตัว FBI National Academy นี้นอกจากฝึกอบรมเจ้าหน้าที่ FBI ในประเทศแล้ว ยังได้มีโครงการอบรมเจ้าหน้าที่ FBI จากหน่วยงานต่างๆ ของประเทศอื่นๆ อีกด้วย โดยมีการอบรมปีละครั้ง ให้โควตากับเจ้าหน้าที่ในแต่ละประเทศไม่เกินประเทศละ 3 คนต่อปี ประเทศไทยเองก็ได้โควตาให้กับเจ้าหน้าที่ตำรวจในแต่ละปีด้วย ซึ่งผู้ที่ได้ไปนั้นล้วนแล้วแต่เป็นบุคลากรระดับหัวกะทิของแต่ละประเทศทั้งสิ้น