
Noise เสียงซ่อนผี : สยองปนระทึกขวัญจิตวิทยาไวบ์คลาสสิกจากเกาหลี หยิบจับ ‘เสียง’ มาใช้งานได้หลากมิติ | Film to Watch Short Review
เมื่อพูดถึงคอนเทนต์ซีรีส์และภาพยนตร์ฝั่งเกาหลี นอกจากแนวดราม่า รอมคอม ล้างแค้น ก็จะมีแนวสยองขวัญและระทึกขวัญนี่แหละที่เรามักเห็นผ่านตาเป็นประจำ และ “Noise เสียงซ่อนผี” ก็มาในเวย์นั้น นี่คือผลงานแนวสยองขวัญ ระทึกขวัญ และจิตวิทยา ว่าด้วยเรื่องราวของ ‘จูยอง’ (อีซอนบิน) พี่สาวที่หวนคืนสู่อะพาร์ตเมนต์หลัง ‘จูฮี’ (ฮันซูอา) น้องสาวของเธอหายตัวไปอย่างลึกลับ ก่อน ‘เสียงบางอย่าง’ ที่ไม่มีที่มาและชวนน่าขนลุก มันจะค่อย ๆ คุกคามชีวิตประจำวันของเธอ ปั่นทุกโสตประสาทเพื่อนำทางไปสู่ผลลัพธ์อันน่าสะพรึง!!
สำหรับ Noise นี่คือผลงานที่หยิบจับ ‘เสียง’ มาใช้งานได้หลากมิติ ในส่วนของรูปธรรม เสียงไม่ใช่แค่ดนตรีประกอบที่ช่วยขับเน้นอารมณ์และบรรยากาศ แต่นับเป็นหนึ่งในตัวละครหลักที่โดดเด่นไม่แพ้จูยอง การมีอยู่ของมันสามารถสร้างความรู้สึกอึดอัด ระทึกขวัญ และสั่นประสาทได้เป็นอย่างดี โดยเฉพาะซีนไคลแม็กซ์ของเรื่องที่บีบหัวใจขั้นสุด ในส่วนของนามประธรรม เสียงภายในเรื่องทำหน้าที่เป็นตัวแทนของการสื่อสาร ทั้งในแง่เสียงของคนภายในครอบครัว เสียงของลูกบ้าน เสียงของคณะกรรมการ เสียงของผู้มีอำนาจ และเสียงเพื่อเรียกร้องความยุติธรรม
ขณะเดียวกันในส่วนของเนื้อหามีความซับซ้อนพอประมาณ คาดเดาได้ไม่ยาก ดำเนินเรื่องสไตล์สยองปนระทึกขวัญจิตวิทยาที่เราคุ้นชินจากผลงานเรื่องอื่น ๆ ที่เริ่มต้นด้วยปริศนา สืบหาความจริง คู่ขนานไปกับจังหวะสยองขวัญ ระทึกขวัญ สอดแทรกจิตวิทยาเพื่อทำให้ตัวละครและผู้ชมเริ่มเกิดความสับสน ลังเล ไม่แน่ใจ ซึ่งแอบเสียดายเล็ก ๆ ตรงที่จังหวะความสยองปนระทึกช่วงกลางเรื่องมาช้าไปหน่อย พาลให้รู้สึกว่าช่วงนี้ถ้าเล่าให้กระชับขึ้นอีกนิดน่าจะดี ซึ่งพอถึงคิวเครื่องติดป่าช้าแตก ตัวหนังก็ถือว่าทำหน้าที่ของตัวเองได้ดี สร้างความรู้สึกลุ้นระทึกปนหลอนพอประมาณ รู้ว่าซีนนี้เขาขายความเฮี้ยนแน่ ๆ แต่ก็ยังสะดุ้งไป 3 ครั้งถ้วน
เมื่อมองจากภาพรวม Noise ถือเป็นผลงานจากฝั่งเกาหลีที่ยังแฟน ๆ น่าจะคุ้นชินในแนวทาง ไม่ได้แปลกใหม่ แต่หวือหวาและโดดเด่นในแง่งคอนเซ็ปต์เสียงที่หยิบยกมาใช้ ความเฮี้ยนมาช้าแต่มานะ มาแล้วก็ทำหน้าที่ได้ดีมาก ๆ ใครที่ชื่นชอบเวย์นี้น่าจะแฮปปี้ได้ไม่ยากครับ