
“สภามหานครแห่งเอเชีย” สภา กทม. ประกาศยกระดับคุณภาพชีวิตประชาชน สู่มหานครแห่งเอเชีย โอบรับทุกความหลากหลาย พร้อมก้าวทันเทคโนโลยี
วันพุธที่ 11 มิถุนายน 2568 เวลา 10.00 - 12.30 น. ณ หอศิลปวัฒนธรรมแห่งกรุงเทพมหานคร สภากรุงเทพมหานครจัดงานนิทรรศการ “สภามหานครแห่งเอเชีย Asia Nexus: Bangkok Metropolitan Council” แสดงผลงานสภากรุงเทพมหานครและสมาชิกสภากรุงเทพมหานครในปี พ.ศ.2568 พร้อมวิสัยทัศน์การยกระดับคุณภาพชีวิตของประชาชนและพัฒนาสู่การเป็นมหานครแห่งเอเชีย นำโดย นายสุรจิตต์ พงษ์สิงห์วิทยา ประธานสภากรุงเทพมหานคร นายวิพุธ ศรีวะอุไร รองประธานสภากรุงเทพมหานครคนที่หนึ่ง นายฉัตรชัย หมอดี รองประธานสภากรุงเทพมหานคร คนที่สอง สมาชิกสภากรุงเทพมหานคร ผู้บริหารกรุงเทพมหานคร ตัวแทนจากสภาเด็กและเยาวชนกรุงเทพมหานคร โรงเรียนใน กทม. และประชาชนชาวกรุงเทพมหานครเข้าร่วมงาน
นายสุรจิตต์ กล่าวว่า กรุงเทพมหานครในวันนี้ ไม่อาจจำกัดอยู่เพียงการเป็น “เมืองหลวงของประเทศไทย” แต่เรากำลังขับเคลื่อนให้กรุงเทพฯ ก้าวสู่การเป็น “มหานครแห่งเอเชีย” ที่มีบทบาททั้งด้านเศรษฐกิจ เทคโนโลยี วัฒนธรรม และคุณภาพชีวิตของประชาชนในทุกมิติ ตลอดปีที่ผ่านมา สภากรุงเทพมหานครได้ทำงานอย่างหนัก ทั้งการผลักดันนโยบาย การตรวจสอบถ่วงดุล การรับฟังเสียงจากประชาชน การสร้างความร่วมมือระดับนานาชาติเพื่อแลกเปลี่ยน องค์ความรู้ เทคโนโลยี นวัตกรรม และแนวทางการบริหารเมืองที่ทันสมัยจากสภาของเมืองต่างๆ ทั่วโลก นอกจากนี้ยังส่งเสริมวัฒนธรรมไทยให้กลายเป็นซอฟต์พาวเวอร์ด้วยการผลักดันให้มีการบรรจุหลักสูตรมวยไทยในโรงเรียนสังกัดกรุงเทพมหานคร เป็นต้น
ประธานสภากรุงเทพมหานคร ยังกล่าวว่า การจะทำให้กรุงเทพมหานครเป็นมหานครระดับโลกต้องได้รับความร่วมมือจากทุกฝ่าย ซึ่งสภากรุงเทพมหานครเปิดพื้นที่รับฟังเสียงของประชาชน เพื่อให้ทุกคนได้เข้ามามีส่วนร่วมในการยกระดับเมืองหลวงไปด้วยกัน “การพัฒนาเมืองไม่อาจทำได้เพียงโดยฝ่ายบริหารหรือฝ่ายนิติบัญญัติ แต่ต้องเกิดจาก พลังร่วมของทุกภาคส่วน ทั้งฝ่ายบริหาร ภาครัฐ เอกชน ภาควิชาการ ภาคประชาชน และนานาประเทศ” นายสุรจิตต์ กล่าว
จากนั้นเป็นการแสดงวิสัยทัศน์ของผู้บริหารสภากรุงเทพมหานคร ผ่านการซักถามของตัวแทนจาก สภาเด็กและเยาวชนกรุงเทพมหานคร ได้แก่ นายรัตนชาติ แพงคำ นายอัครพล แสงอรุณ และนางสาวปวริศา ด่านธำรงกูล ในหัวข้อ “สภาแห่งอนาคต มหานครแห่งเอเชีย” ที่ดำเนินรายการโดย นายกิตติพงศ์ รวยฟูพันธ์ โฆษกสภากรุงเทพมหานคร
ต่อคำถามเรื่องการสร้างมหานครให้โอบรับคนทุกเพศทุกวัย นายวิพุธ กล่าวว่า มหานครที่น่าอยู่ไม่ได้หมายถึงแค่ความเจริญทางกายภาพหรือเทคโนโลยี แต่มันต้องเป็นเมืองที่คนทุกเพศ ทุกวัย ทุกความหลากหลาย รู้สึกว่าเขามีที่ยืน และมีคุณค่า ทางสภากรุงเทพมหานครและฝ่ายบริหารได้เห็นชอบให้มีนโยบายการไม่เลือกปฏิบัติทางเพศและการป้องกันการล่วงละเมิดทางเพศหรือการคุกคามทางเพศในที่ทำงาน เพื่อความเสมอภาคและการเคารพศักดิ์ศรีความเป็นมนุษย์ของทุกคน การเปิดคลินิกสุขภาพเพศหลากหลาย การตราข้อบัญญัติส่งเสริมและพัฒนาคุณภาพชีวิตคนพิการเพื่อเป็นการประกันสิทธิและคุณภาพชีวิตของคนพิการในระดับท้องถิ่น โดยย้ำถึงจุดแข็งของกรุงเทพมหานคร คือ การเปิดรับและยอมรับความหลากหลายของทุกคนและทำให้ทุกคนมีความภาคภูมิใจในตัวเอง
ส่วนคำถามในประเด็นสภากรุงเทพมหานครมีกลยุทธ์ในการป้องกันปัญหาการที่เทคโนโลยีดิจิทัลเข้ามามีบทบาทและส่งผลกระทบต่อชีวิตประจำวันของประชาชนมากขึ้น นายฉัตรชัย กล่าวว่า สภากรุงเทพมหานคร ตั้งคณะกรรมการยุทธศาสตร์และเทคโนโลยีดิจิทัลเพื่อวางแนวทางรับมือดิสรัปชันทั้งในด้าน เศรษฐกิจ สังคม และการบริการภาครัฐ นอกจากนี้ยังกำลังผลักดันการใช้เทคโนโลยีเพื่อทำให้บริการของกทม. เข้าถึงง่ายขึ้น ส่งเสริมการเรียนรู้ดิจิทัลในโรงเรียนของ กทม. และป้องกันผลกระทบต่อกลุ่มเปราะบาง เช่น ผู้สูงอายุหรือแรงงาน เพื่อให้คน กทม. วิ่งไปพร้อมกันกับเทคโนโลยี
ทั้งนี้ในงานยังประกอบไปด้วยนิทรรศการแสดงวิสัยทัศน์ของสภากรุงเทพมหานคร ผลงานสมาชิกสภากรุงเทพมหานคร ผลงานของคณะกรรมการสามัญและวิสามัญของสภากรุงเทพมหานคร การแสดงแม่ไม้มวยไทยจากนักเรียนชั้นประถมศึกษาโรงเรียนวัดปลูกศรัทธา เขตลาดกระบัง กรุงเทพมหานคร พร้อมทั้งการทำแฟลชโพลสำรวจความคิดเห็นของประชาชนต่อวาระเร่งด่วนในการแก้ปัญหาของคนกรุง ไม่ว่าจะเป็น ปัญหาน้ำท่วม PM2.5 ทางเท้า ไฟฟ้าส่องสว่าง ขยะ การแข่งขันเกมภารกิจของสภากรุงเทพมหานครเพื่อชิงรางวัล และบริเวณหน้าหอศิลปวัฒนธรรมแห่งกรุงเทพมหานครยังมีศิลปะจัดวางรูปทรงพีระมิดที่เป็นฐานรับลูกโลก สะท้อนถึงวิสัยทัศน์ของฝ่ายนิติบัญญัติที่จะผลักดันให้กรุงเทพมหานครพัฒนาสู่การเป็น มหานครของเอเชียและโลก